Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร นิยาย บท 305

ทำดี.. ย่อมได้ดี!

คำสอนเรื่อง ‘ทำดี ได้ดี’ ของคนโบร่ำโบราณยังใช้ได้มาจนถึงทุกวันนี้

เห็นได้ชัดจากการที่หลิวลี่ได้มอบพู่กันจักรพรรดิให้กับหลิงหยุนเป็นการตอบแทน..

ตอนนั้น.. หากหลิงหยุนไม่ยอมรับไว้ หลิวลี่คงต้องโยนพู่กันด้ามนั้นทิ้งไปแล้วอย่างแน่นอน และหลังจากที่ได้มอบให้กับหลิงหยุนไป เธอก็ลืมเรื่องพู่กันด้ามนั้นไปสนิท

แม้หลิวลี่จะไม่อยากยกพู่กันด้ามนั้นให้กับหลิงหยุนนัก เพราะเห็นว่ามันเป็นสิ่งของที่ไร้ค่า แต่เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะให้กับผู้มีพระคุณของเธออีกแล้ว นอกจากพู่กันด้ามนั้น

ไม่เพียงหลิงหยุนไม่ปฏิเสธ เขายังรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ แต่หลังจากที่ค้นพบคุณค่าที่แท้จริงของพู่กันด้ามนั้น เขาก็คิดที่จะตอบแทนให้กับครอบครัวนี้เป็นสองเท่า เช่นนี้แล้วจะไม่เรียกว่าคนดีได้อย่างไรกัน?

ราคาบ้านหลังใหม่ขนาดกลางๆของเมืองจิงฉูก็ราวสองล้าน..

หลิวลี่เองก็รู้ดีว่าหลิงหยุนตั้งใจพูดเช่นนั้นเพราะต้องการให้พวกเขายอมรับเงินและบ้านจากเขาเท่านั้น เพราะพู่กันด้ามนั้นจะมีมูลค่าถึงแปดแสนหยวนอย่างที่เขาบอกจริงหรือไม่.. เธอเองก็ไม่อาจรู้ได้?

หลี่หยุนเซียงตอบกลับไปว่า “ไม่นะน้องหลิงหยุน.. ผมเคยเอาพู่กันด้ามนี้ไปขายที่ตลาดค้าของเก่า แต่ไม่มีใครยอมรับซื้อเลยด้วยซ้ำ…”

หลิงหยุนเพียงตอบกลับไปยิ้มๆ “พี่หลี่ครับ.. นั่นเพราะพี่นำไปขายไม่ถูกคนต่างหาก! เพราะความจริงแล้วคุณค่าของพู่กันด้ามนี้อยู่ที่ความชื่นชอบ สำหรับผมแล้ว ต่อให้เสนอราคาให้ผมสูงแค่ใหน ผมก็ไม่มีวันขายอย่างแน่นอน…”

หลิงหยุนพูดต่อโดยไม่เปิดช่องว่างให้หลี่หยุนเซียงได้โต้แย้ง “ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่นชอบการสะสมของแบบนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นแป้นหมึก กระดาษ หรือว่าพู่กัน ทันทีที่เขาเห็นพู่กันด้ามนี้ เขาก็บอกผมว่ามันเป็นพู่กันที่วิเศษมาก และต้องการจะขอซื้อจากผมในราคาที่สูงลิบลิ่ว ผมจึงมาที่นี่เพื่ออยากรู้ที่มาที่ไปของมัน ผมก็เลยต้องมาถามจากพี่หลี่..”

หลิงหยุนเอ่ยถามเรื่องที่มาที่ไปของพู่กันด้ามนี้ขึ้นมา และหวังว่าจะได้รับข้อมูลที่มากพอจากสองสามีภรรยา

“เอ่อ…” หลิวลี่เคยบอกกับหลิงหยุนว่าพู่กันด้ามนี้เป็นสมบัติสืบทอดจากบรรพบุรุษมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แล้วเธอจะบอกความจริงกับเขาได้อย่างไรเล่าว่ามันเป็นของที่ขุดมาจากสุสาน?

แต่หลี่หยุนเซียงกลับโพล่งออกไปว่า “น้องหลิงหยุน.. ขอบอกตามตรงนะ บรรพบุรุษของผมมีอาชีพเป็นนักขุด..”

“นักขุดงั้นเหรอ?” เป็นอาชีพใหม่อีกหนึ่งอาชีพที่หลิงหยุนเพิ่งเคยได้ยิน

หลี่หยุนเซียงพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “ใช่! พวกเราเป็นนักขุดสุสาน พูดง่ายๆก็คือว่าพู่กันด้ามนี้ปู่ของปู่ของผมได้มาจากสุสานใหญ่แห่งหนึ่ง”

หลิงหยุนได้ฟังก็เข้าใจได้ทันทีว่าพู่กันด้ามนั้นเป็นพู่กันที่ขุดขึ้นมาจากหลุมศพ เพราะถังเมิ่งก็เพิ่งจะเล่าเรื่องพวกนี้ให้เขาฟังเมื่อคืนนี้

“อ่อ.. ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง.. แล้วพอจะรู้ไม๊ครับว่าขุดมาจากสุสานที่ใหน?”

ที่หลิงหยุนมาที่นี่ ก็เพราะต้องการรู้ว่าพู่กันจักรพรรดิด้ามนั้นถูกขุดมาจากที่ใหนกันแน่ เขาจะได้กลับไปดูว่ายังมีสมบัติชิ้นอื่นเหลืออยู่อีกหรือไม่?

เมื่อหลิวลี่เห็นหลิงหยุนไม่มีท่าทีขุ่นเคืองเมื่อได้ยินว่าพู่กันด้ามนั้นถูกขุดขึ้นมาจากหลุมศพ เธอจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องนี้แทนหลี่หยุนเซียง “น้องหลิงหยุน.. เรื่องนี้ฉันจะเล่าให้ฟังเอง..”

เดิมทีนั้น ครอบครัวหลี่หยุนเซียงทั้งสามคนรวมทั้งหลิวลี่ด้วย เป็นคนหัวหยางในมณฑลเหอหนาน มณฑลเหอหนานนั้นตั้งอยู่บนที่ราบตอนกลางของจีน ตั้งแต่โบราณกาลมา ผืนดินแห่งนี้เป็นสุสานของฮ่องเต้หลายพระองค์ และเป็นที่ฝังศพของคนจีนในยุคโบราณมากมายนับไม่ถ้วน

ในยุคสมัยของราชวงศ์ชิง ประเทศจีนได้เกิดสงครามครั้งใหญ่และยาวนาน จนประชาชนต่างพากันได้รับความลำบากทุกข์ยาก ถึงกับต้องไปปล้นสุสานเพื่อหาเลี้ยงปากท้อง

บรรบุรุษของหลี่หยุนเซียงเองก็ยึดอาชีพขุดหาสมบัติในสุสานมาอย่างยาวนาน และพู่กันด้ามนี้ก็ขุดได้จากหลุมฝังศพขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง บรรพบุรุษของเขาคิดที่จะขายมันแต่ก็ขายไม่ได้สักที จนต้องเก็บเป็นสมบัติส่งต่อให้ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นไปเรื่อยๆ

ในเวลานี้ หลิงหยุนได้บันทึกข้อมูลวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ในหนังสือเรียนของนักเรียนมัทธยมปลายลงไปในความทรงจำของตัวเองหมดแล้ว เมื่อได้ฟังเรื่องที่หลี่หยุนเซียงเล่า เขาก็นึกภาพที่ตั้งของมณฑลเหอหนานได้คร่าวๆ

จากหนังสือวิชาภูมิศาสตร์ที่หลิงหยุนบันทึกไว้ในความทรงจำนั้น มีสถานที่เพียงสองแห่งที่เป็นจุดเด่นของมณฑลเหอหนาน

หนึ่งคือวัดเส้าหลิน และสองคือฝั่งตะวันออกของเทือกเขาชิงหลิง..

แม่น้ำฮวงโหในเทือกเขาชิงหลิงที่เป็นเขตแดนเหนือจรดใต้ของประเทศจีน ในมุมมองหลิงหยุนนั้น ที่นี่จึงนับว่าเป็นเส้นเลือดมังกรที่ใหญ่ที่สุดเส้นหนึ่ง

ในยุคสมัยโบราณหากฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ชีพ ก็จะต้องถูกนำพระศพไปฝังในพื้นที่ที่เป็นแดนมังกร และเทือกเขาชิงหลิงแห่งนี้ก็เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นสุสานของบรรดาฮ่องเต้อย่างไม่ต้องสงสัย

หลิงหยุนนั่งฟังหลิวลี่เล่าจนจบ แล้วจึงถามขึ้นว่า “พี่หลิว.. นี่ก็หมายความว่าพู่กันด้ามนี้ต้องเป็นของคนในหัวหยานมณฑลเหอหนานใช่ไม๊?”

หลิงลี่หัวเราะแล้วส่ายหน้า “นั่นไม่ถูกต้องเสมอไป คนที่ขุดสุสานโบราณ ไม่มีใครรู้ว่าพู่กันด้ามนั้นมาจากใหนแน่ แต่ที่แน่ๆคือขุดมาจากสุสานในมณฑลเหอหนาน..”

จุ่ๆหลิวลี่ก็มองหน้าหลิงหยุนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกับถามขึ้นอย่างระแวดระวัง “น้องชาย.. ดูเหมือนคุณจะสนใจเรื่องนี้มาก อย่าบอกนะว่าต้องการที่จะ…? ฉันจะขอเตือนในฐานะพี่สาวว่า อย่าได้คิดที่จะทำอะไรแบบนั้นเด็ดขาด! เพราะการขุดสุสานถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย…”

หลิงหยุนรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็วและตอบไปว่า “พี่หลิว.. นี่พี่คิดไปไกลถึงในหกัน ผมเพิ่งจะเรียนอยู่มัธยมปลาย จะกล้าไปสุสานที่มีแต่ภูติผีวิญญาณได้ยังไง ผมไม่กล้าหรอก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร