บทที่ 655 : รักษาซูปิงหยาน!
‘ห้ามคิดชั่ว..ห้ามคิดชั่ว.. ห้ามคิดชั่ว..’
หลิงหยุนพร่ำพรรณนาอยู่ในใจถึงสามครั้งเพื่อทำจิตใจให้สงบก่อนจะสูดลมหายใจยาว และผลักประตูห้องน้ำเข้าไป
แต่ก่อนจะเข้าไปนั้นหลิงหยุนได้ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจภายในห้องน้ำเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับซูปิงหยานที่อยู่ด้านในเสียก่อน
และก็พบว่าซูปิงหยานไม่ได้แกล้งเธอหกล้มอยู่ในห้องน้ำจริงๆ และได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ และตอนนี้สีหน้าของเธอก็บ่งบอกว่ากำลังเจ็บปวดอย่างมาก
“คุณซูเป็นยังไงบ้างลุกขึ้นยืนไหวมั๊ยครับ?” หลิงหยุนถึงกับกลืนน้ำลายหลายอึกขณะที่พูดกับซูปิงหยานที่กำลังหน้าแดงเช่นกัน
“ถ้าลุกขึ้นยืนได้ฉันจะเรียกเธอให้เข้ามาช่วยทำไมกัน ตอนนี้ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
สาวใหญ่ท่าทางเย็นชาส่งเสียงดังตำหนิหลิงหยุนทันทีริมฝีปากแดงสดนั้นเอื้อนเอ่ยด้วยความโมโหในขณะที่ร่างกายสั่นเทา
ซูปิงหยานไม่สามารถขยับเขยื้อนได้หลิงหยุนจึงต้องโน้มกายลง และยื่นมือไปโอบร่างของซูปิงหยาน แต่ท่าทางของเขาก็เก้ๆกังๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงใหนดี
ระหว่างที่กำลังละล้าละลังว่าจะตรวจดูกระดูกของเธอก่อนดีหรือจะอุ้มเธอไปที่เตียงเลยนั้น เสียงของซูปิงหยานก็แผดขึ้นมาอีกครั้ง
“ยืนซื่อบื้ออยู่ทำไมกันรีบๆไปเอาผ้าเช็ดตัวมาสิ ยืนมองอยู่ได้!” ซูปิงหยานร้องตะโกนบอกหลิงหยุน เธอทั้งโกรธและอาย
“เอ่อ..ครับ”
หลิงหยุนรีบลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่มร่างของซูปิงหยานไว้จากนั้นจึงค่อยๆอุ้มร่างของเธอขึ้นมา
“โอ้โห..คิดไม่ถึงว่าคุณซูจะหนักเหมือนกันนะครับ..”
เพื่อปกปิดความกระอักกระอ่วนใจของทั้งคู่หลิงหยุนจึงแสร้งทำเป็นตลกขณะที่อุ้มร่างของซูปิงหยานเดินออกจากห้องน้ำไป
“ปากเสีย!ฉันตัวเล็กแค่นี้จะหนักขนาดนั้นได้ยังไงกัน”
แม้ว่าซูปิงหยานจะรู้สึกเจ็บอยู่มากแต่เมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดของหลิงหยุน เธอกลับรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่า
หลิงหยุนอุ้มร่างของซูปิงหยานเข้าไปในห้องนอนทันทีภายในห้องมีเตียงนอนขนาดใหญ่ หลิงหยุนจึงค่อยๆโน้มตัวลงวางร่างของเธอลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน
“โอ๊ย..”
ระหว่างที่วางลงนั้นร่างของซูปิงหยานที่กระทบกับความเย็นภายในห้อง และจากการเปลี่ยนท่าทางทำให้คิ้วของซูปิงหยานถึงกับขมวดเข้าหากัน และร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด จนหลิงหยุนเองก็ยังอดที่จะสงสารไม่ได้
หลิงหยุนยืนจ้องร่างของซูปิงหยานด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับกลืนน้ำลายเข้าไปหลายอึกจนลูกกระเดือกขยับไปขยับมาไม่หยุด
ทางด้านซูปิงหยานที่เห็นหลิงหยุนยืนมองตาไม่กระพริบนั้นในใจก็แอบมีความสุขแต่ก็พูดออกไปว่า
“นี่เธอมัวแต่จ้องมองอะไรกัน”
“เอ่อ..ก็รูปร่างของคุณซูสวยงามไม่เบาเลยนี่!”
ในเมื่อได้เห็นกับตาไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งปกปิดอีก หลิงหยุนจึงเอ่ยชมซูปิงหยานออกไปตรงๆ
“นี่..เธอมองเห็นเรือนร่างของฉันหมดแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบด้วยนะ!”
ซูปิงหยานร้องบอกหลิงหยุนทันทีแต่ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจที่จะพูดออกไปแบบนั้น
หลิงหยุนพยักหน้ายิ้มๆ“ได้สิ! คุณซูอยากให้ผมรับผิดชอบยังไงก็ว่ามา รับรองว่าผมไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน!”
แล้วทั้งคู่ก็มองตากันอย่างเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายดี..
จากนั้นหลิงหยุนจึงพูดขึ้นยิ้มๆ“เอาล่ะ.. ให้ผมตรวจดูอาการบาดเจ็บของคุณก่อนดีกว่า!”
หลิงหยุนร้องบอกเพราะสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของซูปิงหยานนั่นเพราะระหว่างที่ล้มลงกระแทกกับพื้นนั้น กระดูกสะโพกด้านขวาซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่สงวนของซูปิงหยานนั้นมีปัญหา แต่ถ้าซูปิงหยานไม่อนุญาต หลิงหยุนก็ไม่กล้าที่จะทำการรักษา เขาจึงดูลังเล..
แต่ความจริงแล้ว..เป็นเพราะหลิงหยุนได้หลงลืมบางสิ่งบางอย่างในอดีตไป
สำหรับหลิงหยุนในเวลานี้แม้ว่าเสน่ห์ที่น่าหลงใหลในวัยผู้ใหญ่ของซูปิงหยานจะทำให้เขาถึงกับตกตะลึง แต่เขาก็ไม่ถึงกับหลงใหลใส่ใจมากนัก
แต่สำหรับซูปิงหยานนั้นต่างกันความทรงจำของหลิงหยุนหายไป แต่ความทรงจำของเธอไม่ได้หายไปด้วย ทั้งคู่เคยนอนอยู่บนเตียงนี้ด้วยกัน
ในคืนที่หลิงหยุนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นเขาสวมกางเกงชั้นในเพียงแค่ตัวเดียว และซูปิงหยานก็ได้จัดการทายา และประคบร้อนให้กับหลิงหยุนไปทั่วทั้งร่างกาย แม้กระทั่งในเวลาที่หลิงหยุนเพ้อ เธอก็ช่วยโอบกอดให้ความอบอุ่นกับเขาอยู่ตลอดทั้งคืน
ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ครุมเครือไม่ชัดเจน แต่เพราะอายุที่ห่างกันเป็นสิบปี ทำให้หลิงหยุนคนก่อนที่รู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยนั้น ไม่กล้าที่จะก้าวข้ามเรื่องนี้ และได้แต่เก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของตนเองไว้
แต่ตอนนี้..หลิงหยุนคนนี้ทั้งแข็งแกร่งและหล่อเหลา ทำให้ไฟปรารถนาในใจของซูปิงหยานกลับมาลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้งจนยากที่จะดับลงได้!
แต่ในเวลานี้ความรู้สึกของคนทั้งคู่นั้นแตกต่างกันแล้ว จึงนำไปสู่สถานการณ์ที่ทั้งดึงดูด และกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก
“คุณซูครับ..ใหนๆผมก็เห็นเรือนร่างของคุณหมดแล้ว ผมขออนุญาตทำการรักษาให้คุณเลยก็แล้วกัน เพราะถ้าไม่รีบรักษา คุณจะต้องเจ็บปวดมาก..”
ซูปิงหยานได้แต่เหลือบมองหลิงหยุนอายๆแต่ไม่ตอบอะไร
หลิงหยุนกระแอมเบาๆจากนั้นจึงค่อยๆเอื้อมมือออกไปเปิดผ้าขนหนูที่ปิดทับต้นขาของซูปิงหยานขึ้น และค่อยๆวางฝ่ามือที่ร้อนผ่าวลงบนสะโพกข้างขวาของเธอ
“สะโพกข้างขวาบวมและฟกช้ำเล็กน้อย”
“คุณซูครับ..ผมจะค่อยๆนวดคลึงให้อย่างเบามือ เดี๋ยวเดียวก็หายแล้ว!” หลิงหยุนบอกอย่างมั่นใจ
ซูปิงหยานถึงกับถอนหายใจเบาและได้แต่คิดในใจว่า ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะล้มให้หนักกว่านี้ด้วยซ้ำไป และนึกอยากให้หลิงหยุนไม่ต้องมีทักษะทางการแพทย์ที่เก่งนัก อีกทั้งยังนึกอยากให้หนุ่มน้อยนอนอยู่บนเตียงเป็นเพื่อนเธออีกด้วย
หลิงหยุนนั่งขัดสมาธิลงบนเตียงจากนั้นจึงยื่นมือขวาออกไปนวดที่สะโพกให้ซูปิงหยานอย่างเบามือพร้อมกับถ่ายเทพลังชีวิตลงไปด้วย
รอยบวมช้ำเพียงแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหลิงหยุนมากเขาแทบไม่ทำให้ซูปิงหยานต้องรู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ และเพียงแค่นวดเบาๆสองสามครั้ง อาการของซูปิงหยานก็หายเป็นปลิดทิ้ง
แต่หลิงหยุนยังไม่วางใจเขาจึงเรียกยันต์บำบัดระดับสี่ออกมา หลังกจากใช้ยันต์รักษา อาการบวมช้ำและรอยแดงต่างๆก็หายไปทันที
แม้ว่าจะเป็นสัมผัสเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆจากหลิงหยุนแต่ซูปิงหยานก็ได้ดื่มด่ำจนมึนเมาไปแล้ว ภายในห้องจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของหญิงชายที่ถูกกระตุ้นเร้าอารมณ์
หลิงหยุนร้องบอกซูปิงหยานหลังจากที่ทำการรักษาให้กับเธอเรียบร้อยแล้วจากนั้นจึงเอื้อมมือไปปิดผ้าเช็ดตัวไว้ให้ดังเดิม หลิงหยุนมองซูปิงหยานที่สีหน้ากำลังมีความสุขพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“คุณซูครับ..นี่คุณกำลังล่อลวงเยาวชนอยู่นะครับ!”
“ฉันนี่นะล่อลวงเธอ!”
ซูปิงหยานทำเสียงโมโหและรีบขยับตัวลุกขึ้นนั่งทันที ร่างของเธอนั่งเผชิญหน้ากับหลิงหยุนในระยะกระชั้นชิด จนสามารถรับรู้ได้ถึงไอร้อนที่ออกมาจากปากและจมูกของอีกฝ่ายได้
“คุณซูครับ..คุณทำแบบนี้จะไม่เป็นผลดีต่อเยาวชนนะครับ..” หลิงหยุนพูดพร้อมกับจ้องมองเรือนร่างส่วนบนของซูปิงหยาน
“ผมยังเป็นเด็กบริสุทธิ์อยู่เลยเพิ่งจะสอบเอนทรานซ์เสร็จ ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำไป..” หลิงหยุนตอบยิ้มๆ
สีหน้าของซูปิงหยานเปลี่ยนไปทันทีใบหน้าของเธอซีดเผือด ดวงตาที่เป็นประกายก็เริ่มสลดลงพร้อมกับถามเสียงเบา
“หลิงหยุน..เธอ.. เธอคงคิดว่าฉันแก่เกินไปที่เราสองคนจะ..”
“หรือ..หรือเธอคิดว่าฉันไม่สวยพอเมื่อเทียบกับสาวน้อยรอบตัวเธอ”
ซูปิงหยานนึกถึงสาวๆที่เธอพบเห็นในวันเปิดคลินิกของหลิงหยุนไม่ว่าจะเป็นหลินเมิ่งหาน เหมี่ยวเสี่ยวเหมา เสี่ยวเม่ยหนิง หรือว่าเหยาลู่..
หลิงหยุนส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปยิ้มๆ“นี่คุณซู.. คุณคิดไปถึงใหนแล้ว ในความคิดของผมคุณยังดูเหมือนเด็กสาวอายุยี่สิบต้นๆด้วยซ้ำไป!”
“คุณซูทั้งสวยแล้วก็มีเสน่ห์มากสาวๆอีกหลายคนยังสาวและสวยสู้คุณไม่ได้เลย!”
แม้ว่าหลิงหยุนจะพูดเกินไปหน่อยแต่ซูปิงหยานในวัยสามสิบเอ็ดนั้น ก็ดูเหมือนหญิงสาวอายุยี่สิบเจ็ดเท่านั้น ไม่ได้แก่หรือดูเท่ากับอายุจริงเลย อีกทั้งยังมีเสน่ห์มากอีกด้วย และในวันข้างหน้า หลิงหยุนก็จะสามารถทำให้ผู้หญิงดูอ่อนกว่าวัยได้หลายสิบปีเลยทีเดียว
ดังนั้นอายุจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาสำหรับตัวซูปิงหยานเองเสียมากกว่า
หลังจากที่หลิงหยุนพูดจบซูปิงหยานก็นึกถึงปัญหาอีกหนึ่งข้อขึ้นมาได้ นั่นก็คือเธอไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร