บทที่1054 หยอกเธอเล่น
คราวนี้เสี่ยวเหยียนแน่ใจแล้วว่าจะยอมแพ้แล้วจริงๆ
ถ้าเมื่อก่อนเป็นเหมือนเรื่องราวในวันนี้ เธออาจจะเดินจากไปไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ... เธอควบคุมตัวเองได้และไม่ทำตัวอ้อยอิ่งอยู่ต่อหน้าเขาหรือไม่ไปมองเขาอีก
ขอเพียงแค่เธอยืนหยัดทำต่อไป เธอจะต้องลืมหานชิงได้อย่างแน่นอน
“น้าเสี่ยวเหยียน...”
เสี่ยวหมี่โต้วดูเหมือนอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เสี่ยวเหยียนก็พูดตัดบท “เอาล่ะ เธอเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมากขนาดนั้น ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เดี๋ยวน้าเสี่ยวเหยียนจะไปทำกับข้าวให้เธอกิน เธอค่อยๆถือชานมไปดื่มที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ พอน้าเสี่ยวเหยียนทำเสร็จแล้วจะเรียกเอง”
พอพูดเสร็จ เสี่ยวเหยียนก็ไม่สนใจท่าทีของเสี่ยวหมี่โต้ว เธอปิดประตูห้องครัวโดยตรง
เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เสี่ยวหมี่โต้วถามอะไรอีก
ดูเหมือนว่าเธอจะเสียใจมาก เสียใจมากๆ เสี่ยวหมี่โต้วเองก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
เขาถือชานมกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างเงียบๆ ปกติเขารู้สึกว่าชานมอร่อยมาก แต่ในตอนนี้ได้สูญเสียความหอมหวานและรสชาติไปเสียแล้ว พอดื่มแล้วรู้สึกว่ามันเอียนอย่างมาก
เสี่ยวหมี่โต้วดื่มไปไม่กี่คำก็วางลง จากนั้นก็มองไปยังห้องครัว
เขาควรจะบอกน้าเสี่ยวเหยียนดีหรือไม่ว่าคุณน้าเป็นคนพาเขามาส่งเมื่อกี้นี้
อีกอย่าง คุณน้ายังรู้ที่อยู่ของเธออีกด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นท่าทีของน้าเสี่ยวเหยียนแล้ว ถ้าเขาบอกไปก็ไม่รู้ว่าเธอจะยิ่งโกรธกว่าเดิมหรือไม่?
ในเวลานี้ เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกตัดสินใจยากเหลือเกิน
คุณน้านิสัยไม่ดี เขาจะต้องทำเรื่องไม่ดีกับน้าเสี่ยวเหยียนแน่ๆ แต่ว่าเสี่ยวหมี่โต้วไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นและน้าเสี่ยวเหยียนเองก็คงไม่ยอมบอกเขาแน่ๆ
ตอนที่เสี่ยวเหยียนยกชามบะหมี่ออกมา เธอก็จัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหมี่โต้วดื่มชานมไปได้ไม่เท่าไหร่ก็แปลกใจ “ทำไมล่ะ ชานมไม่อร่อยเหรอ?”
เสี่ยวหมี่โต้วรีบตอบ “ไม่ใช่ฮะ ชานมอร่อยมาก แต่เสี่ยวหมี่โต้วกลัวว่าถ้าดื่มเยอะไปจะกินบะหมี่ไม่ได้ ก็เลยเหลือท้องว่างไว้กินบะหมี่”
เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบแก้มของเขา “เธอเนี่ยนะ แต่มันก็ใช่ รู้ความสำคัญของอาหารหลักเป็นเรื่องดี บะหมี่ทำเสร็จแล้ว รีบกินเถอะ”
ในขณะที่เสี่ยวหมี่โต้วกินบะหมี่ เขาก็สังเกตการแสดงออกของเสี่ยวเหยียนและพบว่าเธอดูเหมือนกับคนไม่ได้เป็นอะไร เขาจึงยิ่งไม่กล้าพูดคำพูดเหล่านั้นที่อยากจะพูดออกไปเพราะกลัวว่าพูดไปแล้วจะกระทบกระเทือนจิตใจ
“ใช่แล้วล่ะ เมื่อกี้นี้ตอนที่น้ากำลังต้มบะหมี่ น้าโทรศัพท์ไปบอกหม่ามี๊เธอแล้วนะว่าเธออยู่กับน้าที่นี่ เธอนี่เถลไถลจริงๆ ยังมาโกหกน้าอีกว่าโทรศัพท์ไปบอกหม่ามี๊แล้ว ถ้าน้าไม่ได้โทรไปหาเธอ เธอก็คงไม่รู้หรอกว่าเสี่ยวหมี่โต้วอยู่ที่นี่”
เสี่ยวหมี่โต้วซดบะหมี่ “อืม”
เขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่โทรหาแม่ แต่เขาไม่อยากทำลายบรรยากาศของหม่ามี๊กับคุณพ่อ
“ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ เข้าใจไหม? ”
“เข้าใจแล้วฮะน้าเสี่ยวเหยียน”
เสี่ยวหมี่โต้วถามในขณะที่กำลังกินอยู่ “น้าเสี่ยวเหยียนจะเปิดร้านของตัวเองเหรอ?”
“อืม” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า “จะเปิดร้านราเม็งแบบที่เธอกินตอนนี้น่ะ เป็นเมนูใหม่ของน้าเสี่ยวเหยียน ชิมแล้วไม่รู้เหรอว่ารสชาติต่างจากของเมื่อก่อน?”
เสี่ยวหมี่โต้วรีบพูดเอาใจ “อ๊ะ จริงเหรอฮะ? มิน่าล่ะอร่อยถึงขนาดนี้ น้าเสี่ยวเหยียน พอถึงตอนนั้นเสี่ยวหมี่โต้วไปกินบะหมี่ที่ร้านทุกวันได้ไหมฮะ?”
“ได้สิ พอถึงตอนนั้นถ้ามาแล้วน้าจะไม่คิดเงิน แต่จะให้ใช้แรงงานแทน”
“แรงงาน?”เสี่ยวหมี่โต้วเอียงศีรษะเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่