บทที่1055 ผมไปด้วย
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าการกินของพวกนี้เป็นบางครั้งบางคราวก็ไม่ได้มีผลอะไรมาก แม้ว่าจะเป็นสารหนู แต่ถ้าพูดถึงความร้ายแรง หากการกินในแต่ละครั้งโดยไม่พิจารณาปริมาณก็ยังถือว่าเป็นอันตรายตัวฉกาจ
ขอแค่ไม่กินมาก ไม่กินบ่อย นานๆกินทีละครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไร
แต่เย่โม่เซินก็ยังไม่ยอมให้เธอกินของพวกนี้ หนึ่งเพราะไม่ถูกสุขอนามัย สองคือมีสารกันบูด
พอต่อมาเห็นว่าหานมู่จื่อไปค่อยมีความอยากอาหาร บวกกับคำแนะนำของคนรับใช้ที่บอกว่าตัวเองสามารถทำเองที่บ้านได้โดยการซื้อวัตถุดิบหม่าล่ามาทำ ซึ่งจะสะอาดกว่าซื้อกินข้างนอกและไม่เป็นการเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์
เย่โม่เซินพยักหน้าในท้ายที่สุด
ก่อนที่หานมู่จื่อจะกินหม้อไฟเล็ก เธอก็คิดว่าเสี่ยวหมี่โต้วยังไม่กลับมาเลย ดังนั้นจึงคิดจะโทรศัพท์ไปหาเสี่ยวหมี่โต้วเพื่อถามว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ก็เหลือบตาไปเห็นร่างเล็กๆที่อยู่ตรงหน้าประตูกำลังเดินเข้ามา
“เสี่ยวหมี่โต้ว?”
“หม่ามี๊”
เสี่ยวหมี่โต้วเรียกเธอพร้อมกับเดินเข้าไปกอดหานมู่จื่อ
“ทำไมน้าเสี่ยวเหยียนไม่เข้ามากับหนูล่ะ?” พอพูดเสร็จ หานมู่จื่อก็มองตามไปยังด้านหลังของเธอ
“หม่ามี๊ พ่อของน้าเสี่ยวเหยียนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อยู่ที่โรงพยาบาล เธอจะต้องไปส่งข้าวที่โรงพยาบาล”
เมื่อได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อก็ตกใจ เธอนิ่งเหมือนท้ายทอยโดนกระแทก “ลูก ลูกว่าอะไรนะ? พ่อของเสี่ยวเหยียนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์? อยู่ที่โรงพยาบาล?”
เสี่ยวหมี่โต้วพยักหน้า
ร่างกายของหานมู่จื่อรู้สึกไม่สบายไปในชั่วขณะ เธอปล่อยเสี่ยวหมี่โต้วให้ยืนขึ้นและฝีเท้าลุกลี้ลุกลนอยากวิ่งออกไปข้างนอก
“หม่ามี๊!”
ขณะนี้ที่บ้านก็มีเพียงแค่เธอกับเสี่ยวหมี่โต้วเท่านั้น ดังนั้นพอเสี่ยวหมี่โต้วเห็นว่าเธอจะวิ่งออกไป เขาจึงได้แต่รีบห้ามเธอไว้ “หม่ามี๊จะไปไหนฮะ? น้าเสี่ยวเหยียนนั่งรถออกไปแล้ว หม่ามี๊ไปตอนนี้ก็ไม่เจอน้าเสี่ยวเหยียนหรอก”
หานมู่จื่อหยุดเท้า เธอสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วทำใจเย็น “งั้นตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง? เสี่ยวหมี่โต้วรู้อะไร บอกหม่ามี๊มาให้หมด”
“อืม”
หลังจากที่เสี่ยวหมี่โต้วเล่าสถานการณ์คร่าวๆให้หานมู่จื่อฟัง หานมู่จื่อก็ถึงจะเบาใจลงได้ด้วยสีหน้าผ่อนคลาย แต่พอหานมู่จื่อนึกถึงเสี่ยวเหยียนคนเมื่อก่อน เธอก็รู้สึกเจ็บปวด
ตอนนั้นเสี่ยวเหยียนจะเสียใจมากสักแค่ไหน และเธอก็ปฏิเสธที่จะเจอหานมู่จื่อ เนื่องจากหานมู่จื่อเป็นน้องสาวของหานชิง ดังนั้นหานมู่จื่อจึงไม่กล้าปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเสี่ยวเหยียนได้ตามสะดวก
เนื่องจากเป็นคำขอของเสี่ยวเหยียน ดังนั้นเธอจึงทำตามที่เสี่ยวเหยียนขอ
แต่ตอนนี้ล่ะ? เธอได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อของเสี่ยวเหยียนประสบอุบัติเหตุ ในช่วงเวลาที่เสียวเหยียนลำบากที่สุดเนื่องจากคนในครอบครัวประสบอุบัติเหตุ เธอผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นพี่สาวน้องสาวที่แสนดีกลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเสี่ยวเหยียนเลย
เสี่ยวเหยียนข้ามผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไร?
พอคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็รู้สึกเจ็บปวดใจ ไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
“หม่ามี๊?”
เสี่ยวหมี่โต้วสังเกตได้ว่าสีหน้าของหานมู่จื่อดูไม่ค่อยดีนัก เขาจึงรีบทำให้เธอคลายกังวล “หม่ามี๊ ไม่ใช่ว่าน้าเสี่ยวเหยียนไม่อยากบอกหม่ามี๊ แต่เธอแค่คิดว่าในท้องหม่ามี๊ยังมีน้องอยู่ ถ้าบอกหม่ามี๊ไป หม่ามี๊จะเป็นห่วงเอาได้ก็เลยไม่ได้บอก อีกอย่างตอนนี้ลุงจางก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว หม่ามี๊ไม่ต้องเป็นห่วง”
หานมู่จื่อกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง ใช่แล้ว ลุงจางไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เธอไม่ต้องกังวลใจอะไร แต่เธอแค่เป็นห่วงเสี่ยวเหยียนเท่านั้นเอง
แค่พูดถึงลุงจาง หม่ามี๊ก็เสียใจมากขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรเสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่กล้าเอ่ยเรื่องที่วันนี้น้าเสี่ยวเหยียนเจอกับคุณน้าและยังเรื่องที่น้าเสี่ยวเหยียนเสียใจ
เสี่ยวหมี่โต้วประคองหานมู่จื่อไปนั่งบนโซฟา
“หม่ามี๊ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้ว ต่อไปเสี่ยวหมี่โต้วจะทำหน้าที่ไปอยู่เป็นเพื่อนน้าเสี่ยวเหยียนทุกๆวันแทนหม่ามี๊เอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่