บทที่107 คุณเสียงดังรบกวนเธอแล้ว
พอมาถึงช่วงเวลาแบบนั้น เธอยังคงเป็นห่วงเขา แต่ไม่ใช่ตัวเธอเอง
ใครเคยพูดกันนะว่าในยามวิกฤตจะสามารถมองเห็นธาตุแท้ของคนออกได้มากที่สุด
ครั้งที่แล้วลู่สุนฉางยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้วจะพุ่งเข้ามาฟาดเขา ภายใต้สถานการณ์ที่เธอไม่รู้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีได้ทัน เธอกลับพุ่งตัวเข้ามาเพื่อเอาตัวมาบังเขาไว้ ถ้าในตอนนั้นไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขาหลบได้ทัน เก้าอี้ตัวนั้นคงฟาดไปที่ตัวของเธอ
ทั้งทั้งที่....เป็นคนที่มีร่างเล็กๆแค่นั้น ถ้าโดนฟาดเข้าไปจริงๆละก็เหตุการณ์คงเลวร้ายจนไม่กล้าจะนึกคิด
แม้ในตอนนี้เย่โม่เซินลองมานึกย้อนดูก็ยังคงรู้สึกกลัว
แต่ตัวเธอเองล่ะ? ในตอนนั้นเธอมีความคิดแบบไหนกันถึงได้พุ่งตัวเข้ามาโดยที่คิดถึงตัวเธอเองเลยสักนิด?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ สายตาของเย่โม่เซินค่อยๆเหลือบขึ้นมาจ้องมองคนที่นอนอยู่บนเตียง
หรือว่า เธอจะไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้?
ภายในห้องพักนั้นเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงหัวใจเต้นของทั้งสองที่ดังอยู่ เย่โม่เซินปิดหนังสือนิตยสาร จากนั้นค่อยๆเก็บเข้าไปในกระเป๋า เขาค่อยๆเคลื่อนรถเข็นมาข้างหน้าแล้วจ้องมองเสิ่นเฉียวที่กำลังหลับสนิทอยู่
โครงหน้าของเสิ่นเฉียวนั้นดูดีใช้ได้ รูปหน้าของเธอคือรูปทรงไข่ห่านแบบดั้งเดิม เพียงแค่ในเวลาปกติเธอจะไม่ค่อยแต่งเติมอะไรให้ตัวเองมากนัก ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ได้ ดังนั้นเวลาปกติเธอจึงดูค่อนข้างเชย
ตอนที่เธอพึ่งจะมาเข้ามาในตระกูลเย่ ตอนที่สวมใส่ชุดแต่งงานเธอดูสวยมาก ต่อมาเมื่อเปลี่ยนมาใส่ชุดของตัวเองจึงเริ่มดูเชยขึ้นมาทันที
ทั้งทั้งที่ยังสาวอยู่แท้ๆ แต่เธอกลับแต่งตัวไม่เป็น
จะบอกว่าผู้หญิงแบบนี้คิดจะมายั่วยวนตัวเขา มันคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
แต่สุดท้าย...เย่โม่เซินกลับได้มาอยู่กับเธอ....
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เธอก้มตัวลงมาอยู่ด้านล่างของตัวเขา จากนั้นพูดขอร้องเขาหลายๆรอบ เรียกชื่อเขา หัวใจของเย่โม่เซินนั้นค่อยๆละลาย เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปปัดเส้นผมสีดำที่อยู่บนหน้าผากแล้วค่อยๆคล้องไปที่หลังหูของเธอ
*
ไม่รู้ว่าหานเส่โยวไปได้ยินข่าวมาจากที่ไหน เมื่อเธอรู้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเสิ่นเฉียว เธอรีบพุ่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที
ในตอนที่เธอมาถึงโรงพยาบาล เธอเห็นภาพที่เย่โม่เซินนั่งอยู่ตรงหน้าเตียงของเสิ่นเฉียว จากนั้นเย่โม่เซินกำลังยื่นมือไปจับที่ใบหน้าของเสิ่นเฉียว หานเส่โยวจ้องมองภาพที่อยู่ตรงหน้าผ่านกระจกของประตูห้องพักอย่างแน่นิ่งและไร้การตอบสนองเป็นเวลานาน
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เย่โม่เซินรู้สึกกับเธอ.....
“คุณหาน?” เซียวซู่มองเห็นหานเส่โยวกำลังเหม่อลอย เขาจึงเดินเข้ามาถามเธอ
หานเส่โยวดึงสติกลับ เธอยิ้ม “สวัสดี ฉันได้ยินมาว่าเกิดเรื่องกับเสิ่นเฉียว ดังนั้นฉันมาเยี่ยมเธอน่ะ”
เซียวซู่หันหน้าไปมองภายในห้อง ในห้องนั้นเงียบสนิทจนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเซียวซู่จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “คุณหาน ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงผู้ช่วยเสิ่น แต่ตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้ว เธอกำลังพักผ่อน ถ้าคุณหานเข้าไปในห้องตอนนี้อาจจะไปเสียงดังรบกวนเธอได้”
เมื่อฟังจบ หานเส่โยวเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูผิดหวัง แต่สักพักเธอค่อยๆพยักหน้า “โอเค ถ้าเธอไม่เป็นไรแล้ว ฉันก็สบายใจ ใช่แล้ว ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาคุณช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ย? หรือว่าฉันขอนั่งอยู่ที่นี่รอเธอจนกว่าจะตื่นได้มั้ย?”
“คือ…” เซียวซู่รู้สึกลังเลเล็กน้อย เขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเสิ่นเฉียวกับหานเส่โยวนั้นค่อนข้างดี เขานึกไปสักพัก จากนั้นจึงพยักหน้าตอบ
“โอเค ฉันเข้าไปรอนะ”
เมื่อพูดจบ หานเส่โยวผลักประตูเข้าไปทันทีโดยที่ไม่รอให้เซียวซู่เปิดปากพูด
เซียวซู่:“คุณหาน”
“ชู่!” หานเส่โยวหันมาหาเขาแล้วทำท่าทางที่บ่งบอกให้เงียบ เซียวซู่จึงปิดปากเงียบทันที
“ฉันจะเข้าไปรอข้างใน วางใจได้ ฉันจะไม่ส่งเสียงดังรบกวนแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่