เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1118

บทที่ 1117 รอเธอโดยเฉพาะ

“ไม่จริงๆค่ะ ขอบคุณ” เสี่ยวเหยียนปฏิเสธอีกฝ่ายด้วยความกระดากอาย จากนั้นก็ก้มหน้าไม่คุยกับอีกฝ่ายอีกเลย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธออายเพราะเรื่องนี้

“เธอนี่หน้าบางมากจริงๆเลย แค่ถามเรื่องนี้ก็อายซะแบบนี้แล้ว เธอเป็นเสียแบบนี้จะจีบประธานหานได้อย่างไร?”

“...” เมื่อเสี่ยวเหยียนได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าปลายตามองซูจิ่ว “ความจริง...เมื่อก่อนตอนที่ฉันจีบเขา ฉันไม่เคยอายเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ ก็น่าจะอายอยู่บ้าง แต่ว่า...”

น่าจะเป็นเพราะพอเริ่มที่จะเป็นผู้กล้า เธอก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถทำได้ทุกอย่าง จนกระทั่งต่อมาโดนปฏิเสธอยู่หลายครั้งจึงค่อยๆหมดความหวัง

ความอายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แค่เพียงว่าตอนนั้นเธอมีความกล้าหาญ ใจนึกอยากทำอะไรก็ทำ

ซึ่งแตกต่างจากตอนนี้ที่มีความกลัวและความกังวลเป็นอารมณ์หลัก และความอยากก็วางอยู่ในตำแหน่งสุดท้าย

“แต่อะไร?”

“เปล่าค่ะ” เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าอารมณ์สนุกลดลงไปในชั่วขณะ เมื่อซูจิ่วเห็นเธอหลุบหน้าลงแบบนี้ก็เอื้อมมือมาตบไหล่เธอ “ไม่เป็นไรนะ เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้ อนาคตที่สวยงาม โอกาสและเวลากำลังรอเธออยู่ ”

คำพูดให้กำลังใจนี้มีพลังมาก เสี่ยวเหยียนพูดซ้ำๆอยู่หลายครั้งในใจของเธอและในที่สุดก็ยิ้มเห็นด้วยออกมา

“อืม!”

สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “แบบนี้สิถึงจะถูก เดี๋ยวพอไปงานเลี้ยงก็ต้องร่าเริงให้ได้แบบนี้นะ”

“ขอบคุณคุณค่ะเลขาซู”

เนื่องจากผิวของเสี่ยวเหยียนดีมาก ช่างแต่งหน้าจึงทำงานเสร็จได้อย่างง่ายดาย พอแต่งหน้าเสร็จก็ยังพูดว่า

“คุณผู้หญิงท่านนี้ผิวดีมากเลยค่ะ ฉันเป็นช่างแต่งหน้ามาหลายปีก็เพิ่งเคยเจอคนมีสภาพผิวดีไม่กี่คน แต่งเพียงนิดเดียวก็ได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาแต่งหนาๆ”

เสี่ยวเหยียนยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเขินอายเมื่อถูกช่างแต่งหน้าชม

ช่างแต่งหน้ายิ่งมองเสี่ยวเหยียนก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารัก เกือบอดยื่นมือไปลูบหัวเธอไม่ได้ แต่พอนึกถึงทรงผมที่ตัวเองใช้เวลานานกว่าจะทำเสร็จจึงได้แต่เก็บมือลง เพราะถ้าเกิดยุ่งขึ้นมาจะต้องทำอีกรอบ

หลังจากที่ทั้งสองออกมาท้องฟ้าก็มืดแล้ว ทั้งเมืองไม่ได้จมไปกับความมืด แต่กลับสว่างไสวขึ้นมาด้วยดวงไฟทีละหย่อมส่องสว่างในยามค่ำคืน

“เสร็จแล้ว แต่งได้สวยมาก ถ้าไม่มีอะไรขัดข้อง เย็นนี้เธอน่าจะเป็นผู้หญิงที่เฉิดฉายที่สุดในงาน”

เดิมทีเสี่ยวเหยียนก็ประหม่าจนต้องหายใจเข้าลึกๆอยู่แล้ว พอได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะหายใจไม่ออก

“อะ อะไรนะคะ? เฉิดฉายที่สุดในงาน?”

“ใช่แล้ว” ซูจิ่วขยิบตาให้เธอผ่านกระจกมองหลัง “หรือเธอไม่คิดว่าการแต่งตัวแบบนี้มันสวยมาก?”

“...ก็สวยจริงๆแหละ แต่...มันเป็นแค่ในความคิดของตัวเอง”

เธอรู้จักใบหน้าค่าตาของตัวเองดี ซึ่งมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าคนสวยเลย แล้วจะเฉิดฉายที่สุดในงานได้อย่างไร? อีกอย่างเธอก็ไม่อยากโดดเด่นอยู่ในงาน ถ้าเกิดสายตาทุกคนจับจ้องมาที่เธอ เธอก็คงทำตัวไม่ถูก

พอคิดถึงใบหน้าค่าตาของตัวเองที่ไม่มีความเป็นไปได้แล้ว เสี่ยวเหยียนก็ถอนหายใจ

อย่างไรก็ตามซูจิ่วก็เหมือนจะตั้งใจ เธอถอนหายใจอยู่ข้างๆและพูดต่อ “งั้นเธออาจจะเข้าใจตัวเองผิดไปบ้างแล้ว แม้เธอจะไม่ได้หน้าตาสะสวยมากนัก แต่เชื่อฉันเถอะว่าพลังในตัวเธอมันเฉิดฉายมากจริงๆ เธอประเมินเสน่ห์ประธานหานต่ำเกินไป เขาโสดมานานขนาดนี้และเหตุผลที่เขาปฏิเสธหญิงสาวคนดังมาตั้งหลายครั้งก็เป็นเพราะเขาไม่ได้มีคู่ควงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้ามีล่ะก็ พวกผู้หญิงที่เคยถูกเขาปฏิเสธพวกนั้นก็คงพากันกระโจนกัดคู่ควงเขาตายไปแล้ว”

กัดตาย...

เสี่ยวเหยียนเย็นหลังวาบ เหยียดหลังตรงพลางมองซูจิ่วไม่ยอมขยับ ในหัวได้จินตนาการภาพที่เธอพูดเอาไว้ทั้งหมด

หรือจะพูดได้ว่าเหตุผลที่เธอเฉิดฉายในงานคืนนี้ไม่ได้เป็นเพราะใบหน้าค่าตาของเธอ หรือเป็นเพราะชุดที่เธอสวม แต่เป็นเพราะ...เธอยืนอยู่เคียงข้างหานชิง?

หากเป็นเพราะเหตุผลนี้ ทุกอย่างก็ดูจะสมเหตุสมผล โดย99.9%จะต้องเป็นจุดสนใจของสายตาผู้คนในงาน เนื่องจากหานชิงคือจุดสนใจ และเธอก็ยืนอยู่เคียงข้างเขา...

ทันใดนั้นเสี่ยวเหยียนก็นึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมเธอต้องตอบตกลงมาเป็นคู่ควงของเขาด้วยนะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่