เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1340

บทที่1339 ไม่ได้ลืม

“ใช่แล้ว พี่เหวินเหวินทำไมสองวันนี้ไม่ออกมาพูดล่ะ? พี่เหวินเหวินพี่อยู่มั้ย?”

คนกลุ่มนั้นเริ่มเรียกหาเจี่ยงเหวินเหวินกัน เจี่ยงเหวินเหวินตอนนี้อยากควักหัวใจพนักงานประชาสัมพันธ์หน้าเคาน์เตอร์ก็ยังมี ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่เธอหยิบยกขึ้นมาในกลุ่มเองแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงผลักภาระมาให้เธอเสียอย่างนั้น

เพราะว่ามีคนแอดเธอมา เจี่ยงเหวินเหวินก็เลยตีมึนต่อไปไม่ได้อีก หลายนาทีต่อมาก็ได้ออกไปตอบคำถาม

“ขอโทษนะ งานค่อนข้างยุ่งนิดหน่อย เรื่องที่พวกเธอคุยกันช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้ติดตามข่าวอะไรเลย”

“พี่เหวินเหวิน พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ ทำไมพี่ไม่ตามดูสักหน่อยล่ะ? เธอทำงานภายใต้การจัดการของพี่ไม่ใช่หรือไง? พี่โทรไปถามสักหน่อยก็รู้แล้ว”

เจี่ยงเหวินเหวินเจอคำพูดนี้มา ก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาอยู่หลายส่วน

อะไรที่บอกว่าเธอโทรไปก็รู้แล้ว?

ถึงแม้ว่าเธอจะอยากโทรไปจริงๆ แต่คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งให้เธอทำ!

น้ำเสียงจำพวกที่ถูกสั่งถูกยุยงทำเอาเจี่ยงเหวินเหวินไม่พอใจ ดังนั้นแล้วเธอก็เลยพูดไปในกลุ่มนั้นว่า

“ใครอยากรู้ก็โทรไปเอง อย่ารังแต่จะรบกวนคนอื่นเขา”

หลังจากที่คำพูดนี้พูดออกมา ในกลุ่มก็ได้เงียบขึ้นมาทันที

ก็คงนึกไม่ถึงกันว่าจู่ๆเจี่ยงเหวินเหวินจะพูดออกมาอย่างนี้ อันที่จริงเมื่อก่อนตอนที่ทุกคนอยู่เม้าท์มอยกันจริงๆก็ขี้เม้าท์กันทั้งนั้น แต่จู่ๆเธอกลับปฏิเสธออกมา

พนักงานประชาสัมพันธ์หน้าเคาน์เตอร์เห็นคำพูดนี้ ภายในใจเองก็เกิดอาการไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเหมือนกัน พอคิดอยากจะพูดอะไรเพื่อโต้เจี่ยงเหวินเหวินออกไป ข้างหน้าก็มีร่างคุ้นเคยร่างหนึ่งเดินเข้ามา

เธอเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าตัวหลักของบทสนทนาในกลุ่มเมื่อสักครู่นี้ได้มาอยู่ตรงหน้า แล้วเธอจะยังไปถามในกลุ่มไปทำไม? ถามเจ้าตัวเองโดยตรงก็จบแล้วนี่?

คิดมาถึงตรงนี้ พนักงานประชาสัมพันธ์คนนั้นก็วางโทรศัพท์ลงเดินไปหาสวี่เย็นหวั่นอย่างรวดเร็ว

ตอนที่สวี่เย็นหวั่นเห็นคนที่มาขวางทางตัวเองนั้น สายตาก็ดูเย็นชาออกมาหลายส่วน จากนั้นเธอก็หยุดฝีเท้าลงมองพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์คนนั้น

“มีธุระ?”

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ถูกสายตานี้ของเธอทำเอาตกใจขึ้นมา เพราะว่าเมื่อก่อนตอนมาหาเธอ สวี่เย็นหวั่นไม่ได้ใช้สายตาอย่างนี้ออกมาเลย ตอนนี้ได้ให้ความรู้สึกเย็นชาเป็นพิเศษ แล้วยังเป็นความรู้สึกที่ไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยอีก

เธอก็เลยตะลึงไปเล็กน้อย นานกว่าจะตอบกลับไปว่า “ไม่ค่ะๆ ก็แค่ก่อนหน้านี้เห็นคุณเป็นลมไป ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายวัน ทุกคนก็เป็นคนบริษัทเดียวกันมั้ยล่ะคะ ก็เลยเป็นห่วงคุณกัน อยากรู้ว่าอาการคุณตอนนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ร่างกายคุณไม่มีอะไรร้ายแรงแล้วใช่มั้ยคะ?”

สวี่เย็นหวั่นได้ยินคำพูดนี้ก็อยากจะหัวเราะออกมา

ทั้งๆที่สิ่งที่ห่วงนั้นเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับหานชิงแท้ๆ เธอที่มีสถานะเป็นคู่หมั้นคนนี้จะเป็นไปตามความจริงหรือเปล่า แต่กลับพูดอ้อมโน่นอ้อมนี่ออกมาด้วยคำพูดที่จอมปลอมอย่างนี้ออกมา

เธอไม่เผยออกมา สวี่เย็นหวั่นเองก็ตัดสินใจที่จะแกล้งโง่ออกไป มองเธอไปด้วยรอยยิ้มจางๆ

“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ ร่างกายของฉันดีขึ้นมากแล้วล่ะ ไม่มีปัญหาใหญ่โตอะไร หลังจากนี้ก็สามารถทำงานได้แล้ว”

พูดจบ สวี่เย็นหวั่นก็หันร่างเตรียมจะเดินออกไป พนักงานหน้าเคาน์เตอร์คนนั้นจึงค่อนข้างร้อนใจเลยทีเดียว รีบเดินเข้าไปขวางเธอเอาไว้

“ยังมีเรื่องอื่นอีกหรอ?” สวี่เย็นหวั่นมองไปทางเธอ สายตาเหมือนกับว่าจะสามารถมองทะลุความคิดของเธอได้ก็ไม่ปาน พนักงานหน้าเคาน์เตอร์คนนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดไม่ออกเลย ทำได้เพียงมองเธอไปนิ่งๆ

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ถึงได้พูดออกไป “วันนั้น...ฉันเห็นประธานหานอุ้มคุณออกไปจากบริษัท แล้วข้างๆก็ยังมีแฟนของเขาตามไปด้วย”

สวี่เย็นหวั่นกะพริบตาปริบออกมา ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะต้องพูดออกมาแล้วสินะ?

“แล้วยังไงล่ะ?”

“เอ่อ...” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์คนนั้นถูกเธอถามเสียจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี นึกไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะถามมาว่าแล้วยังไงล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่