บทที่1387ตายใจเถอะ
ไม่นาน หานชิงก็เคลียร์เรื่องเสร็จและกลับมาที่ห้องผู้ป่วยอีกครั้ง
ในห้องผู้ป่วยเงียบสงบ
สวี่เย็นหวั่นเงยหน้าขึ้นมา มองไปที่หานชิง
“ที่จริงคุณไม่จำเป็นวิ่งมาโดยเฉพาะหรอกค่ะ ที่โรงพยาบาลมีทุกอย่าง อุปกรณ์ครบถ้วน อีกทั้งยังมีบุคลากรเชี่ยวชาญด้วย พวกคุณรีบกลับไปเถอะค่ะ?”
หานชิงเม้มปากเดินมาที่ตรงหน้าเธอ จ้องมองแผลของเธอไปสักพัก ถึงพูดอย่างเย็นชา:“ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ดีที่สุดคุณอยู่ให้ห่างๆหน่อย ถ้าแก้ไขไม่ได้จริงๆก็แจ้งตำรวจ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยว ได้รับบาดเจ็บหนัก ผมจะสู้หน้าคุณลุงสวี่กับคุณป้าสวี่ที่เสียชีวิตได้ยังไง?”
สวี่เย็นหวั่นถูกเขาพูดจนอึ้ง และหลุบตาลง
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ”
เสี่ยวเหยียนที่อยู่ข้างๆคอยฟังอยู่เงียบๆ เธอก็ไม่พูดอะไร แค่กดเล่นมือถืออย่างเบื่อหน่าย
“ตอนนั้นฉันเห็นพวกเขาโต้เถียงกันไม่หยุด ก็พุ่งเข้าไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบเลย ก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าต้องให้พวกคุณมาลำบากเที่ยวนึง ฉันก็ไม่พุ่งเข้าไปแล้วค่ะ”
พูดถึงตรงนี้ สวี่เย็นหวั่นยกมือจับหน้าผากของตัวเอง ยิ้มอย่างขมขื่นและจนปัญญา:“เมื่อกี๊คุณหมอก็บอกแล้ว แผลของฉันต่อไปถ้าไม่ดูแลดีๆ อาจจะทิ้งรอยแผลได้ค่ะ”
ทิ้งรอยแผลไว้?
เสี่ยวเหยียนมองหน้าผากเธอทีนึง ถ้าบนหน้าผากทิ้งรอยแผลไว้ล่ะก็ สำหรับผู้หญิงรู้สึกจะเป็นเรื่องที่รับไม่ค่อยได้เลย
คิดถึงตรงนี้ แววตาที่เสี่ยวเหยียนมองเธอมีความเห็นใจเพิ่มมากขึ้น
เฮ้อ จู่ๆความเห็นใจของเธอก็ท่วมท้น
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกเมื่อกี้ก็ไม่ตอกกลับเธอแรงขนาดนั้นแล้ว อืม เสี่ยวเหยียนตัดสินใจแล้ว ถ้าครั้งหน้าเธอยั่วโมโหตัวเองอีก หรือว่าพูดคำพูดสวยหรูต่อหน้าตัวเอง ตัวเองก็ตอกกลับเธอเบาๆ!
“พวกคุณน่าจะยังมีเรื่องอย่างอื่นต้องทำมั้งคะ?”สวี่เย็นหวั่นยิ้มเล็กน้อย หน้าตาอ่อนโยนน่ารัก:“ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวได้ค่ะ พวกคุณไปยุ่งก่อนเถอะ ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอกค่ะ”
หานชิงมองสวี่เย็นหวั่น เงียบไปพักนึง จู่ๆได้หยิบมือถือออกไปโทรศัพท์
ตอนที่หลินสวี่เจิ้งได้รับสายของหานชิงยังค่อนข้างแปลกใจ
“เป็นแขกที่ยากจะโทรมาจริงๆ หลายปีถึงโทรหาฉันสายนึง ครั้งนี้โทรหาฉันเพราะเรื่องอะไรล่ะ?”
“สวี่เย็นหวั่นได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้พักอยู่ที่โรงพยาบาล”
ได้ยินชื่อของสวี่เย็นหวั่น หลินสวี่เจิ้งอึ้งไปครู่นึง จากนั้นเหมือนคิดอะไรได้ จึงขมวดคิ้ว:“อ๋อ เพราะฉะนั้นล่ะ?”
“ตอนเด็กๆนายประคบประหงมเธอมากไม่ใช่เหรอ?”หานชิงขมวดคิ้ว
หลินสวี่เจิ้ง:“นั่นมันสมัยเด็ก ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กผู้หญิงอยู่เลย ฉันประคบประหงมเธอในฐานะพี่ชายจะเป็นอะไรไป? ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว นายมาบอกกับฉันทำไม?”
หานชิงเม้มปากไว้ไม่ได้เปิดปากพูดอีก หรือว่าเขาจะโทรผิดเบอร์?
เห็นเขาไม่พูดจา หลินสวี่เจิ้งจึงพูด:“ทำไม? สมัยเด็กนายเองก็เป็นพี่ชายเธอเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เธอได้รับบาดเจ็บพักอยู่ที่โรงพยาบาล นายไม่ไปดูแลเธอหน่อย?”
“เหยียนเหยียนอยู่ที่นี่”
คำพูดเดียว หลินสวี่เจิ้งถือว่าเข้าใจความหมายของหานชิงแล้ว เขาอึ้งก่อน จากนั้นก็หัวเราะเสียงต่ำ
“เก่งหนิ นายมีสติปัญญาขึ้นมาได้สักทีนะ ฉันยังนึกว่านายจะให้เสี่ยวเหยียนและสวี่เย็นหวั่นอยู่ด้วยกันเสียอีก ในที่สุดช่วงนี้นายก็ตระหนักอะไรได้แล้วใช่มั้ย?”
ตระหนักได้?
หานชิงถามด้วยจิตใต้สำนึก:“อะไร?”
“สวี่เย็นหวั่นชอบนายไง เดินตามนายต้อยๆๆตั้งแต่เด็ก นายไม่รู้เหรอว่านายเย็นชากับเธอ แต่ยัยเด็กคนนี้ยังชอบมาตอแยนายเหรอ?”
หานชิง: “.......”
“ไม่ได้สังเกต”
คำพูดเดียว ก็ทำให้หลินสวี่เจิ้งยอมเขาโดยตรงเลย“คำพูดนายนี่มันทำร้ายจิตใจเกินไปแล้ว คนอื่นวิ่งตามนายต้อยๆๆนานขนาดนี้ นายกลับบอกว่าไม่ได้สังเกต ถึงจะหัวใจเย็นชาแค่ไหนก็ไม่ใช่แบบนี้มั้งหานชิง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่