เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1674

บทที่ 1673 ความคิดเห็นที่ที่แตกต่าง

“พูดดีๆ แต่ดันไม่ชอบฟัง”

หยวนเย่าหันแทบไม่สนใจเลย ท่าทางการแสดงออกนั้นไม่แยแสแต่อย่างใด “เพราะยังไงแกก็ได้ฟังที่เธอพูดเมื่อครู่แล้วนี่ เจ้าตัวก็รู้แล้วว่าการที่เราเข้ามาตีสนิทนั้นเพราะอะไร ไหนๆ ก็รู้กันแล้ว แล้วทำไมต้องพูดให้เยิ่นเย้อไปด้วย?”

“พูดออกไปแบบนี้ ถึงแม้ว่าในใจของเขาจะรู้ชัดก็ตามที แต่ว่าการที่พูดออกมานั้นความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน”

“ชอบแบบไหนก็เป็นไปแบบนั้นสิ”

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

หยวนเย่าหันเพิ่งตื่นนอน ตอนที่กำลังเตรียมตัวจะไปล้างหน้าล้างตาอยู่นั้น พลันเห็นถางหยวนหยวนที่เพิ่งเดินออกมาจากด้านใน จนเธอตกใจจนอกสั่นขวัญหาย

“หยวนหยวน ทำไมตื่นเร็วขนาดนี้เนี่ย?”

ถางหยวนหยวนจากเมื่อวานที่เป็นคนเคร่งขรึมแต่เปลี่ยนนิสัยไปแทน แถมยังยิ้มเล็กน้อยให้เธอ “สวัสดีตอนเช้า”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หยวนเย่าหันหมดคำพูดไปทันที การที่เธอนอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา นี่ยอมรับการความเป็นจริงได้แล้วเหรอ?

เมื่อเห็นสีหน้าที่ไร้คำพูดจากหน้าของเธอ ถางหยวนหยวนก็พูดออกมาตรงๆ “ฉันคิดดีแล้ว ทุกคนต่างเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องให้มันดูทุเรศไปกันใหญ่ ต่อไปมีเรื่องอะไรเราก็สามารถทำร่วมกันได้”

แต่ว่าไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทที่แท้จริงเท่านั้นเอง แค่แสดงความสัมพันธ์แบบผิวเผิน ผ่านไปให้ได้เท่านั้นเอง

แม้ว่าตัวของถางหยวนหยวนเองก็รู้สึกว่าการที่ทำเช่นนี้มันดูเสแสร้งแกล้งทำมาก ทว่าเธอไม่อยากคาดการณ์จริงๆ กับการที่คนอื่นพยายามทำตัวตีสนิทกับตนเองนั้นมันเพราะเหตุใดกันแน่

ก็ทำเหมือนว่าพวกเธอคิดอยากจะเป็นเพื่อนกับตนเองจริงๆ ก็แล้วกัน การที่ทำเช่นนี้เธอก็จะไม่โดดเดี่ยวเกินไป

พูดแบบไม่ค่อยน่าฟังหน่อย แท้จริงแล้วก็คือต่างฝ่ายต่างมีประโยชน์ร่วมกัน

“ได้สิ” หยวนเย่าหันเผยอปากพูด “แกคิดได้ฉันก็ดีใจมาก รอให้ฉันอาบน้ำเสร็จก่อน เดี๋ยวเราไปกินข้าวเช้าด้วยกัน”

“อืม”

จากนั้นตอนที่หยวนเย่าหันกำลังแปรงฟันอยู่นั้น พลันหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูวีแชทไปด้วยพร้อมทั้งถามถางหยวนหยวน “ข้าวเช้าแกอยากกินอะไร? เราจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร หรือว่าจะกินข้างนอกกัน?”

เดิมทีถางหยวนหยวนอยากจะพูดว่า กินข้าวที่โรงอาหารก็ได้

แต่หยวนเย่าหันพูดประโยคต่อไปทันที “ไปกินข้าวข้างนอกเถอะ ช่วงนี้มีร้านเพิ่งเปิดใหม่รสชาติไม่เลวเลย ฉันกับเสี่ยวลู่เคยไปมาแล้ว วันนี้จะพาไปลองชิม”

ถางหยวนหยวนเริ่มแสดงความวิตกกังวลออกมา “ไปกินข้าวข้างนอกโรงเรียน กลับมาทันไหม?”

“ทัน ตอนนี้มันยังเช้าตรู่อยู่เลย พวกเรารีบไปหน่อยก็ทันแล้ว”

“ได้”

“เสี่ยวลู่ยังไม่ตื่นนอนเลย แกไปเรียกเธอให้ตื่น เพื่อจะได้ไม่ทำให้เธอคอยมาเป็นตัวถ่วงให้เราทีหลัง”

ดังนั้นถางหยวนหยวนเลยไปเรียกให้จางเสี่ยวลู่ตื่นนอน ทุกคนจัดการเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปด้วยกัน

เรื่องก็เป็นไปแบบนี้ การที่เสียพี่น้องเมิ่งเข่อเฟยในเวลานี้ ถางหยวนหยวน จางเสี่ยวลู่และหยวนเย่าหันเพื่อนร่วมห้องก็รวมกลุ่มกัน แม้ว่าฐานะทางบ้านของทั้งสองคนไม่ได้ดีเทียบเท่ากับเธอก็ตาม แต่ก็ถือว่าไม่เลว ทุกคนเมื่อรวมตัวอยู่ด้วยกันแล้วมันมีความคิดบางอย่างที่แสดงความเหมาะสมกันอย่างลงตัว

ตัวอย่างเช่น ตอนที่ซื้อเสื้อผ้า ทุกคนต่างเลือกแบบของเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดีและยังเป็นของแบรนด์เนม ส่วนเรื่องรองเท้าไม่ต้องพูดถึง การกินอยู่ก็เช่นเดียวกัน เพราะเน้นเรื่องของคุณภาพเป็นสำคัญ

ทว่าถางหยวนหยวนตอนอยู่กับเมิ่งเข่อเฟยนั้น เมิ่งเข่อเฟยเลือกสินค้าที่สวยแต่มีราคาย่อมเยา บางครั้งถางหยวนหยวนก็อยากจะช่วยเหลือเธอ แต่เธอก็ไม่ยอมรับมันสักครั้ง

ทั้งสองคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่เหมือนกันสักอย่างมาโดยตลอด

สองคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ถ้าไม่ใช่ว่าแกจำใจปล่อยไปตามฉัน ก็ต้องเป็นฉันที่จำใจยอมให้แกบ้าง ความจริงแล้วการทำเช่นนี้ถือว่ามีความสุขมาก ขอแค่ต่างใช้ชีวิตเป็นตัวของตนเองก็มีความสุขดี

เจ้าของร้านเป็นผู้ชายอายุ 40 กว่าต้นๆ ที่ดูซื่อสัตย์มาก เมื่อได้ยินดังนั้นเลยยิ้มให้พร้อมทั้งมองไปอีกทาง จากนั้นก็ชี้มือไป “เด็กหนุ่มทางนั้น บอกว่าเห็นคุณคนนี้กินแล้วช่างน่าสงสาร เลยให้ฉันเอาแบบน้ำซุปใสมาให้”

เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กสาวสามคนต่างตกตะลึง จากนั้นก็มองตามมือของเจ้าของร้านที่ชี้ไปดู

เป็นชายหนุ่มที่ผิวพรรณขาว การแต่งตัวสะอาด พร้อมทั้งใส่แว่นนั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นว่ากลุ่มพวกเธอมองไปทางนั้นแถมยังโบกมือให้พวกเขาอีก มองดูแล้วเป็นคนใจกว้างสายเปย์อยู่

“สาวน้อย ชายหนุ่มคนนั้นให้ฉันพูดกับคุณว่า คุณกินเผ็ดไม่ได้ก็ไม่ต้องไปบังคับพยายามกินเผ็ด กระเพาะมันรับไม่ไหว ถึงตอนนั้นจะปวดกระเพาะ มันทรมานจนทนไม่ไหว”

ถางหยวนหยวนสบสายตากับชายหนุ่มคนนั้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พลันรู้สึกว่าแววตาของเขามันช่างแผดเผามาก พลันรีบหลบสายตาของเขาอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี เลยพูดเสียงเบาออกไปประโยคหนึ่ง “ขอบคุณค่ะ เถ้าแก่ ฉันรู้แล้ว”

ชายหนุ่มไม่ได้เดินมา ส่วนถางหยวนหยวนก็ไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวที่เพิ่มความเผ็ดชามนั้นอีกเลย เพราะเดิมทีเธอก็คือจะไปสั่งบะหมี่น้ำซุปใสมาอีกชามอยู่แล้ว

ไม่คิดว่าจะมีคนสั่งแทนเธอก่อนแล้ว ตอนที่เธอก้มหน้าก้มตาซดน้ำแกงอยู่นั้น จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันพลันฉีกยิ้มรอยยิ้มไม่ประสงค์ดีออกมา

“อิๆ หยวนหยวนของเรา ในที่สุดก็มีคนมาจีบแล้วเนี่ย?”

“ชิ หยวนหยวนหน้าตาสวย ก่อนหน้านี้ไม่มีคนมาจีบเลย ฉันยังรู้สึกแปลกๆ อยู่เลย นี่ถือว่าเป็นการแสดงออกที่ถือว่าปกติ”

เมื่อได้ยินแล้ว สีหน้าของถางหยวนหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พวกแกอย่าพูดมั่ว”

“แกกลัวอะไร คนอื่นก็ไม่ได้ทำอะไรกับแกนี่ แค่ส่งบะหมี่เนื้อวัวให้แกชามหนึ่งเท่านั้นเอง”

แต่ว่าการกระทำเช่นนี้จะส่งผลกระทบกับถางหยวนหยวนเล็กน้อย เธอได้แต่เม้มริมฝีปากเอาไว้ แล้วก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ต่อ

หลังจากกินบะหมี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถางหยวนหยวนกับเพื่อนๆ เตรียมตัวไปจ่ายเงินนั้น แต่ทางเจ้าของร้านก็บอกกับพวกเธอไว้ว่าโต๊ะของพวกเธอมีคนจ่ายเงินแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใคร เพราะว่าเขาก็เพิ่งไปไม่นาน ถางหยวนหยวนได้แต่เร่งฝีเท้าเดินตาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่