บทที่274 เย่โม่เซินหูแดง
เป็นครั้งแรก
เป็นครั้งแรกที่เสิ่นเฉียวกล่าวขอบคุณเขาอย่างอ่อนโยน เย่โม่เซินรู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ ที่แท้...การชอบใครสักคนมันรู้สึกอย่างนี้เอง
เย่โม่เซินที่ไม่เคยสัมผัสความอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน ในตอนนี้...เขาอาลัยอาวรณ์มันเป็นอย่างมาก
เขาติดอยู่ในความมืดมนมาเนิ่นนานเกินไป รวมถึงสถานะของเสิ่นเฉียวทำให้เขายิ่งต่อต้าน
แต่เมื่อได้อยู่ด้วยกันทุกวัน คิดไม่ถึงว่าเขาที่ถึงแม้จะยังพยายามควบคุมตัวเอง แต่ตัวเธอ...เหมือนกับมีเวทมนตร์ ที่ทำให้เขาอยากจะเขาจะปกป้องเธอ
เย่โม่เซินหลับตาลงและวางมือใหญ่ไว้ที่หลังเธอ โอบไว้ ทั้งสองกอดกันแน่น
นาทีนี้ เสิ่นเฉียวรู้ว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้สัมผัสกันผ่านทางร่างกาย แต่กลับอีกครั้งที่จิตวิญญาณของพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด
ในชีวิตของเธอนับจากนี้ต่อไป ต่อให้ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง แต่เธอจะหวนคิดถึงนาทีนี้ได้เสมอไป
*
อาจจะพูดได้ว่าเสิ่นเฉียวและเย่โม่เซินเปิดใจให้แก่กันแล้ว ถึงแม้ว่าเย่โม่เซินยังไม่บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขาและหานเส่โยว แต่ในเมื่อเป็นภรรยาของเขา เสิ่นเฉียวรู้สึกว่า...ตนเองควรเชื่อใจเขาและให้โอกาสเขาสักครั้ง
ดังนั้นเธอจึงไม่ถามเรื่องของหานเส่โยวอีก เธอตั้งใจรอคำตอบจากเขาอย่างเงียบ ๆ
เพียงแต่...ช่วงนี้เย่โม่เซินก็ยังไม่ยอมให้เธอออกไปข้างนอก เขาให้เธออยู่แต่ในวิลล่า ทุกวันจะมีคนดูแลเรื่องอาหารการกินให้เธอโดยเฉพาะ ทุกวันเย่โม่เซินจะออกไปทำงานตอนกลางวัน เมื่อกลับมาในตอนหัวค่ำก็จะทานอาหารเป็นเพื่อนเธอ วันเวลาผ่านไปแบบนี้อย่างมีความสุข
เหล่าสาวใช้เมื่อเห็นว่าวิลล่ามีนายหญิงเพิ่มมาอีกคนก็ต่างพากันยุ่งวุ่นวายหาวิธีเพื่อเอาใจเสิ่นเฉียว
วิลล่าที่เคยเงียบเหงาก็กลับกลายเป็นสถานตากอากาศที่ครึกครื้นขึ้นมาก เมื่อเซียวซู่เห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียวเขาก็พลอยมีความสุขไปด้วยและรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ได้ตลอดไปก็คงจะดี
เพียงแต่เย่โม่เซินยังไม่ยอมให้เสิ่นเฉียวติดต่อกับโลกภายนอก ข่าวคราวทุกอย่างเธอรับรู้ผ่านเย่โม่เซินเท่านั้น
ดังนั้นวันนี้ เสิ่นเฉียวจึงได้ขอโทรศัพท์มือถือคืนจากเย่โม่เซิน
“คุณเก็บมือถือฉันไว้ใช่ไหมคะ? คืนให้ฉัน”
เมื่อได้ยินเย่โม่เซินก็ขมวดคิ้ว: “เธอจะเอาโทรศัพท์ไปทำอะไร?”
“ก็ต้องเอาไปติดต่อเพื่อนของฉันน่ะสิ ทุกคนเขาเป็นห่วงฉัน ฉันก็ต้องส่งข่าวพวกเธอบ้าง”
เสิ่นเฉียวคิดถึงเสี่ยวเหยียนอยู่ตลอด ตัวเธอหายไปตั้งหลายวันแบบนี้คนที่เป็นห่วงตัวเธอที่สุดก็คงเป็นเธอนี่แหละ ดังนั้นเธอควรจะรายตัวกับเธอว่าสบายดี ยิ่งกว่านั้นเธอมีเรื่องอยากจะพูดเล่าให้เสี่ยวเหยียนฟังมากมาย
“ไม่ได้” เย่โม่เซินรีบปฏิเสธเธอทันใด
“ทำไมคะ?” เสิ่นเฉียวไม่เข้าใจ “หรือว่าชีวิตนี้ฉันจะต้องอยู่ที่นี่และไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือไปตลอดชีวิต?”
เย่โม่เซินจับข้อมือเธอไว้ “อยู่กับฉัน ไม่ดีเหรอ? เธอจะเอาโทรศัพท์ไปติดต่อใคร? เย่หลิ่นหาน? ใช่ หลายวันนี้เขาตามหาเธอแต่ฉันไม่ยอมให้พวกเธอได้เจอกันหรอกนะ ”
เย่หลิ่นหาน...
เขาตามหาตัวเองทำไม? เสิ่นเฉียวกะพริบตาจากนั้นก็มองดูท่าทางที่เย็นชาของเย่โม่เซินแล้วอดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปาก “ดังนั้นเหตุผลที่คุณเก็บโทรศัพท์ฉันไว้เพราะกลัวฉันจะโทรหาเขา?”
ดวงตาของเย่โม่เซินหดเล็กลงและไม่พูดอะไรต่อ
“คุณกำลังหึงเหรอคะ?” เสิ่นเฉียวโยนคำถามเพิ่ม
สาวใช้ยังยืนอยู่ข้าง ๆ นะ เมื่อได้ยินทั้งสองคนหยอกเอินกันก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองกลั้นเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะคิกคักเร็ดรอดออกมา เย่โม่เซินชักสีหน้าทันใดและหูของเขาก็แดงขึ้นมาอย่างน่าสงสัย
“ขำอะไร?” เขาตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไสหัวไป”
สีหน้าของสาวใช้เปลี่ยนไปทันใด แต่เมื่อเห็นหูแดงของเย่โม่เซินความกลัวก็หายไป พวกเขาออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
ในห้องเหลือเพียงเสิ่นเฉียวและเย่โม่เซินสองคน
เสิ่นเฉียวเอียงคอมองหูของเขาที่แดงไปครึ่งหนึ่งแล้วและแกล้งถามขึ้นอย่างไร้เดียงสา: “ทำไมหูแดงล่ะคะ?”
เย่โม่เซินกัดฟันแล้วจ้องไปที่เธอ: “ยัยโง่ เธอจงใจใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่