บทที่46 เธอเป็นแค่คนนอก
เย่โม่เซินยิ้มกระหายในโลหิต
“ความหมายที่แท้จริง”
เซียวซู่แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา:“คุณชายเย่ต้องตัดไฟแต่ต้นลมเลยจริง ๆเหรอครับ?”
“นายคิดว่าฉันล้อเล่นกับนายอยู่เหรอ?”เย่โม่เซินกวาดสายตามองไปที่เขา เซียวซู่ขนหลังลุกวาบขึ้นมาในทันที:“เข้าใจแล้วครับ”
จากนั้นลู่สุนฉางก็ถูกลากออกไปจากร้าน
“เย่โม่เซิน!คนพิการอย่างที่นั่งอยู่บนวีลแชร์อย่างแก กล้ามาแตะต้องไขฉัน นายท่านเย่ต้องชดใช้กับสิ่งที่แกทำลงไป!”
เซียวซู่ฟังแต่คำสั่งของเย่โม่เซิน และไม่ได้กังวลถึงชื่อเสียงเรียงนามที่เขาเอ่ยถึงนายท่านเย่ ยังคงลากเขาออกไปข้างนอกให้พ้นจากสายตาผู้คน
เสิ่นเฉียวที่ยืนอยู่ข้างๆดูอย่างใจเต้นระรัว อดไม่ไหวเดินเข้าไปหาเย่โม่เซิน:“นั่น……”
“กล้าขอร้องแทนมันเธอก็เตรียมตัวตายได้เลย!”
คำพูดที่กำลังจะออกจากปากของเสิ่นเฉียวล้วนต้องกลืนลงไปจนหมด
บรรยากาศรอบ ๆตัวเย่โม่เซินเหมือนกับว่ามีกลุ่มควันสีดำลอยปกคลุมอยู่ ทำให้ตัวเขาดูโหดร้ายทารุณ แต่ถ้าไม่พูดออกไป ลู่สุนฉางเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่รอดแน่แล้ว
คิดถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวขึ้นไปข้างหน้าดันรถวีลแชร์ของเขา พูดออกมาเบาๆว่า:“เขาได้รับบทเรียนแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ”
เย่โม่เซินไม่พูดจา ความโกรธที่อยู่ในดวงตานั้นเหมือนกับพายุ ที่กำลังค่อยๆแผ่ขยายใหญ่
“ถ้าคุณฆ่าเขาจริงๆ นายท่านที่อยู่ทางนั้น……คงจบไม่สวยแน่ ฉะนั้น……”
“ยัยโง่ ไม่ใช่ว่าบอกให้เธอห้ามขอร้องแทนมันเหรอ ?”เย่โม่เซินกุมมืออันขาวผ่องของเธอไว้ แล้วมองไปที่เธอด้วยสายตาเย็นชา
เสิ่นเฉียวหยุด จากนั้นก็ขยับปากของเธอ:“ฉัน ไม่ได้กำลังอ้อนวอนแทนเขานะ…… ฉันแค่กลัวว่าความสัมพันธ์ของคุณกับนายท่านจะเลวร้ายลงไปอะไรแบบนั้น……”
ได้ยินแบบนั้น เย่โม่เซินก็นิ่งไป หรี่ตา
“เป็นห่วงฉัน?”
เสิ่นเฉียวพยักหน้าตอบไปแบบมึนๆ
ดวงตาของเธอเหมือนกับน้ำแข็ง ไม่แสดงอาการใด ๆออกมา และไม่ได้มีท่าทีขอร้องอ้อนวอนแทนลู่สุนฉาง
นิ่งไปสักพัก เย่โม่เซินก็ดึงมือกลับ“พาฉันกลับบ้าน”
“แต่ว่าเซียวซู่……”
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมากังวล”
เสิ่นเฉียวยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่เย่โม่เซินกลับหมุนล้อวีลแชร์ไปเอง เห็นได้ชัดว่าถ้าเสิ่นเฉียวตามเขาไปไม่ทันเขาก็ไม่สนเธอแล้ว จนปัญญา แม้ว่าเสิ่นเฉียวจะรีบเพียงใดเธอก็ไม่อาจปล่อยให้เย่โม่เซินไปคนเดียวได้ อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นข้างนอกถ้าไม่ได้ไปอยู่ข้างๆเย่โม่เซิน เขาคนเดียวคงทำอะไรได้ไม่สะดวก
คิดถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวก็เร่งฝีเท้าตามขึ้นไป
เธอมาดันรถวีลแชร์ที่กำลังจะออกตัวของเย่โม่เซินได้พอดี พนักงานกลับเดินมาข้างหน้าอย่างสั่นสู้:“คุณผู้ชายและคุณผู้หญิง กรุณารอก่อนค่ะ”
เสิ่นเฉียวทำได้เพียงหยุดลง:“มีอะไรคะ?”
“พวกคุณ……ทำลายข้าวของในร้าน ต้อง……ต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วยค่ะ” หลังจากที่พนักงานเห็นการทะเลาะเบาะแว้งเมื่อครู่แล้ว นี่เป็นอีกพาร์ทที่น่ากลัวสำหรับพวกเขา
เย่โม่เซินยังคงหน้านิ่ง และพูดด้วยเสียงเย็นชา:“จดชื่อร้านมา พรุ่งนี้จะมีของใหม่มาส่ง”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า จดชื่อร้านมาอย่างว่องไว
พนักงานเห็นออร่าที่ยิ่งใหญ่ของเย่โม่เซิน ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก ทำได้เพียงใช้สายตาส่งพวกเขาจากไป
เสิ่นเฉียวเข็นเย่โม่เซินออกมาจากร้านกาแฟ เดินไปตามทางที่เป็นหินเล็กๆ แล้วพูดขึ้นว่า:“คุณชายเย่คุณมาโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้ แล้วนายท่านทางนั้น……”
“คำก็นายท่าน สองคำก็นายท่าน ทำไม?ขอให้สิทธิพิเศษอะไรเธอล่ะ ถึงทำให้เธอโหยหาถึงเขาตลอดเวลาแบบนี้?”
ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวหยุดฝีเท้า กัดริมฝีปากแน่น:“คุณเลิกดูถูกคนอื่นได้แล้ว!ฉันเป็นห่วงเรื่องความสัมพันธ์ที่มันอาจเลวร้ายลงของพวกคุณทั้งสองจากใจจริง”
“นี่เป็นเรื่องที่เธอควรเข้ามายุ่งมั้ย?อย่าลืมสิ นี่เป็นเรื่องในบ้านของตระกูลเย่ ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมายุ่มย่าม”
“……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่