บทที่ 570 ถ้าคิดจะตายผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ
มีใจที่สื่อถึงกัน เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กสามขวบหรือไงนะ พูดจามั่วซั่วยกเหตุผลมาโกหกเธออย่างนั้นหรือ
ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร การแสดงออกของเย่โม่เซินดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก หานมู่จื่อเดินไปยังหน้าประตูของเขาและสำรวจอยู่สักพักหนึ่ง แต่กลับยังมองไม่เห็นกล้องที่ตามหา
หาอยู่สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นหานมู่จื่อก็รู้สึกว่าการหาแบบนี้ต่อหน้าเขามันดูน่าขำ เข้ากล้าบอกว่ามีใจสื่อถึงใจ ปฏิเสธว่าตนเองได้ติดตั้งกล้องไว้ที่หน้าประตูของเธอ อย่างนั้นแสดงว่าเขามีเจตนาอะไรอยู่ในใจ
อาจจะเป็นเพียงกล้องขนาดจิ๋ว เธออาศัยตาเปล่าในการค้นหาละก็ คาดว่าก็คงจะหาไม่เจอ
คิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อมองไปยังเย่โม่เซินที่เอนตัวพิงอยู่อีกด้านหนึ่ง “เป็นกล่องขนาดจิ๋วใช่ไหม”
เย่โม่เซินจ้องมองเธอ เม้มริมฝีปากอันบางเป็นเส้นตรง ไม่ตอบคำถามของเธอ
หานมู่จื่อก็จ้องมองเขาเช่นกัน ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอยู่ชั่วขณะ จู่ๆ หานมู่จื่อก็หันกลับ “ช่างเถอะ ฉันก็ไม่สามารถจะคาดหวังกับการถามอะไรจากนาย เพราะนายเองก็คงไม่อยากจะพูด ฉันก็ไม่ถามแล้ว”
พูดจบ หานมู่จื่อก็ยื่นมือออกไปและกดปุ่มเพื่อลงลิฟต์อีกครั้ง รออยู่นาน ประตูลิฟต์ก็ค่อยๆเปิดออก หานมู่จื่อเดินตรงเข้าไปในลิฟต์
หลังจากเข้าไปในลิฟต์ เธอไม่ได้มองไปยังการแสดงออกของเย่โม่เซินเลย และตรงไปกดปุ่มปิดประตู เมื่อเห็นประตูลิฟต์ปิดค่อยๆปิดลง เย่โม่เซินที่ยืนพิงผนังอยู่จู่ ๆก็ขยับตัว ร่างที่สูงใหญ่มุ่งตรงเข้ามา
ในขณะที่บุกเข้าไป ประตูลิฟต์ก็ปิดสนิทพอดี
หานมู่จื่อตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเขา
“นายจะทำอะไรอีก”
“ตอนนี้ด้านนอกค่อนข้างอันตราย” เย่โม่เซินพูดไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณไม่ควรออกไปคนเดียว”
เขาขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงเธอ แต่หานมู่จื่อรู้สึกว่าเขาต้องการจะตามติดตัวเอง จากนั้นก็พูดติดตลกไป
“นายคิดมากไปแล้วหรือเปล่า นายมาตามติดข้างกายฉันตลอดขนาดนี้ แม้ว่ามันจะอันตราย ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”
เย่โม่เซิน “......”
คำพูดนี้ดูจะสมเหตุสมผล เขาพบว่าไม่มีทางจะหักล้างได้ ริมฝีปากเขาก็ขยับ จากนั้นไม่นานก็เข้าไปใกล้ตัวของหานมู่จื่อ แล้วพูดเสียงต่ำ “อย่างนั้นยิ่งดี”
หานมู่จื่อ “?”
เขาหมายถึงสุดท้ายก็จะติดตามตนเองไปใช่หรือเปล่า
หลังจากนั้นไม่นาน เย่โม่เซินก็ถามขึ้น “คุณต้องการจะไปไหน”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
หานมู่จื่อพิงตัวกับลิฟต์ ยืนเอามือทั้งสองข้างกอดอก เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าซีดเซียว เดิมทีเพิ่งจะหายดีจากการเป็นไข้สูง เธอรู้สึกเริ่มสดชื่นขึ้นนิดหน่อยจึงออกมาข้างนอก แต่เมื่อพลิกตัวเมื่อกี้นี้ เธอก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมาเล็กน้อยอีกครั้ง ยืนได้ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร ดังนั้นจึงต้องอาศัยผนังลิฟต์เป็นที่รองรับ
แต่จะอย่างไรก็ตามจะแสดงความเหนื่อยล้าอ่อนแอออกมาต่อหน้าเย่โม่เซินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกเขาติดตามแน่นอน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอจึงหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดเสริมขึ้นอีกประโยค “ฉันมีเรื่องที่ต้องไปทำ นายไม่ต้องตามฉันนะ”
เย่โม่เซินมองไปด้านข้าง เมื่อเห็นว่าเธอแทบจะปล่อยทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไว้กับผนัง คิ้วก็ขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงโง่คนนี้ กำลังดื้อรั้นอะไรต่อหน้าเขา
เมื่อลองคิดดูก็ใช่ เธอดื้อรั้นแบบนี้มาโดยตลอด
คิดถึงตรงนี้ เย่โม่เซินก็งอริมฝีปากอันบาง “ผมไปส่งคุณ”
ได้ยินดังนั้น หานมู่จื่อปฏิเสธเขาอย่างเย็นชา “ไม่ต้อง ฉันมีรถของตนเอง ไม่ต้องการให้นายไปส่ง”
เย่โม่เซินหยุดพูด ภายในลิฟต์ก็เงียบลงอีกครั้ง
ผ่านไปสักพัก ลิฟต์ก็ลงมาถึง
หลังจากประตูลิฟต์เปิดออก หานมู่จื่อก็ยืดตัวขึ้น ก้าวเท้าออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่