เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 607

บทที่ 606 ไม่รู้จักแยกแยะ

ทั้งสองพูดคุยโต้ตอบกันไปมา

หานมู่จื่ออายเล็กน้อยกับบทสนทนาอันน่าอึดอัด

“ไม่ทราบว่าคุณคือ?” พี่สาวจ้องหน้าเย่หลิ่นหานด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผู้ชายคนนี้หล่อมาก อีกทั้งสายตาของเขาเอาแต่จ้องไปที่หานมู่จื่อทันทีที่เดินเข้ามา ในขณะนี้พี่สาวเหมือนมีลูกไฟลุกโชนขึ้นมาในตัว เนื่องจากท่าทีของหานมู่จื่อที่มีต่อเย่โม่เซินจึงทำให้พี่สาวสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเหยียบเรือสองแคมใช่หรือไม่ หรือเป็นการปั่นหัวผู้ชายทั้งสอง

แต่หลังจากคิดอีกแง่หนึ่ง จากการเพิ่งพูดคุยกันเมื่อกี้นี้เธอกลับไม่ได้รู้สึกว่าหานมู่จื่อจะเป็นคนประเภทนั้น ดังนั้นพี่สาวจึงล้มเลิกความคิดนี้ไปและหันกลับมามองหานมู่จื่อกับเย่หลิ่นหานอีกครั้ง

“คุณมาทำอะไรที่นี่?” หานมู่จื่อถือโอกาสถามเขาในตอนที่เย่โม่เซินไม่อยู่

เย่หลิ่นหานยิ้มเล็กน้อย “ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเป็นความบังเอิญ?”

“จริงหรือ?” หานมู่จื่อจะเชื่อได้อย่างไร? จากการบังเอิญเจอกันสองครั้งก่อนหน้านี้ รวมไปถึงเรื่องพวกนั้นที่เขาทำที่บริษัท เธอคิดได้อยู่อย่างเดียวว่าการพบกันอย่างบังเอิญล้วนเป็นเจตนาของเย่หลิ่นหาน

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยคุยกับเขาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถตบตาหานมู่จื่อได้ตามสบาย

เนื่องจากมีคนอื่นอยู่ใกล้ๆ ดังนั้นหานมู่จื่อจึงพูดอย่างมีไหวพริบ อย่างไรก็ตามพี่สาวก็ไม่ใช่คนโง่ เธอจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าระหว่างทั้งสองมีคลื่นใต้น้ำอยู่ในความสัมพันธ์นั้น

เธอยิ้มอย่างเก้อเขิน แต่กลับไม่ได้ปลีกตัวออกไป

หานมู่จื่ออดไม่ได้ที่จะชื่นชมพี่สาวคนนี้ที่รู้งาน ถ้าหากในเวลานี้พี่สาวบอกมาตรงๆว่าจะไม่รบกวนพวกเขา ให้พวกเขาได้คุยกัน พอถึงตอนที่เย่โม่เซินกลับมา เมื่อเห็นว่าเย่หลิ่นหานกับหานมู่จื่ออยู่ด้วยกันสองคน จะต้องเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแน่ๆ

หานมู่จื่อเหลือบมองพี่สาวอย่างตื้นตันใจ เธอกระซิบเบาๆ

“พี่สาวยังอยากซื้ออะไรไหมคะ?”

“ไม่ต้องๆ ฉันซื้อมาเกือบหมดเเล้ว เดี๋ยวค่อยไปซื้อกระดาษทิชชู่ที่มุมนั้นหน่อย แล้วพวกเราค่อยกลับที่พักกัน”

หานมู่จื่อพยักหน้า “ค่ะ งั้นฉันไปเป็นเพื่อน”

จากนั้นหานมู่จื่อก็มองไปทางเย่หลิ่นหาน “ประธานเย่หลิ่นหาน ฉันต้องไปซื้อของกับพี่สาวแล้ว คงต้องขอตัวก่อนนะคะ” พอพูดเสร็จเธอก็ยิ้มให้เขา พลางคล้องเเขนพี่สาวและเข็นรถเข็นออกไป

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าวพี่สาวก็หันกลับมา “เขาตามพวกเรามา!”

พอได้ยินดังนั้นหานมู่จื่อก็ขมวดคิ้ว เธอบอกเขาไปอย่างชัดเจนแล้วนี่นา ทำไมเย่หลินหานถึงยังตามเธอมาอีก?

“เขาชอบเธอใช่ไหม?” จู่ๆพี่สาวก็เอียงหน้าเข้ามาถามอยู่ข้างหูจนเธอตกใจ เธอส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ใช่หรอกมั้งคะ?”

แม้ตอนนั้นเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีใจให้เธอ แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อห้าปีก่อน อีกอย่างตอนนั้นเธอก็ยังเป็นภรรยาของเย่โม่เซิน แต่เย่หลิ่นหานยังเลือกที่บอกความในใจกับเธอ และนั่นก็มักจะทำให้หานมู่จื่อคิดว่าเป็นแผนการของเขา เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะต้อนน้องชายตัวเองให้จนมุมได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามตอนที่เขาปกป้องเธอจากเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ทำให้หานมู่จื่อคิดว่าเขาอาจจะมีใจให้เธออยู่บ้าง

แต่เวลาก็ผ่านมาห้าปีแล้ว และเรื่องทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปหมดแล้ว

แม้ว่าเขาจะเคยชอบเธอมาก่อน แต่ตอนนี้คาดว่าความรู้สึกคงจืดจางไปนานแล้ว ดังนั้นหานมู่จื่อจึงไม่เคยเก็บเรื่องนี้กลับมาคิดอีก

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ สายตาที่เขามองเธอเมื่อกี้นี้เธอไม่เห็นหรือไง?

หานมู่จื่อส่ายหน้า “ไม่นี่คะ”

“นี่เธอไร้เดียงสาจริงๆหรือแกล้งไร้เดียงสากันแน่เนี่ย? แววตาที่เขามองเธอเต็มไปด้วยความรักไม่ต่างอะไรกับแววตาของสามีเธอเลย เธอดูไม่ออกจริงๆหรือ?”

แววตาที่เย่โม่เซินมองเธอ หานมู่จื่อรู้สึกงงงวยเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะถาม “ที่คุณพูดมา สามีของฉันใช้สายตาแบบไหนมองฉันนะคะ?” เธอเรียกเขาว่าสามีอย่างลืมตัว ดังนั้นพอพูดคำว่าสามีเธอถึงกับหยุดชะงัก จากนั้นก็เรียกสติกลับมา

ภรรยาของลุงอ้วนคิดเพียงว่าเธอเป็นคนขี้อายจึงไม่ได้ถามเจาะลึก พลางหรี่ตาอธิบาย “เวลาที่ชอบใครสักคน พอได้เจอเขาดวงตาของเธอจะเป็นประกาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่