อ่านสรุป บทที่922 ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี จาก เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ โดย สือหวู
บทที่ บทที่922 ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย จีน เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย สือหวู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่922 ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
แกรก——
“วางผมลงไปนะ แด๊ดดี้นิสัยไม่ดี รีบวางผมลงไปเดี๋ยวนี้ ผมจะไปหาหม่ามี๊!”
เสียงอ้อแอ้ของเด็กน้อยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ดังชัดขึ้นมาจากทางด้านหน้าประตูทางเข้า
ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
ปัง!
ต่อจากนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงคนปิดประตูลง
หานมู่จื่อนิ่งอึ้งไปประมาณสองวิ จากนั้นก็ลุกขึ้นได้ไปทางด้านนอกประตูอย่างรวดเร็ว ส้งอานกับเสี่ยวเหยียนเองก็ลุกขึ้นตามมา ยู่ฉือจินกับหยูโปสบตากัน นัยน์ตาต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยออกมา
ผ่านไปสักพักนึง หยูโปก็เอ่ยปากถามออกมา “หรือว่า... คุณชายเซินจะกลับมาแล้ว?”
ยู่ฉือจินจึงรีบกุมไม้เท้าพยุงร่างให้ลุกขึ้นทันที
หานมู่จื่อยังไม่ทันได้เดินออกไป ก็เห็นเข้ากับเย่โม่เซินที่อุ้มเสี่ยวหมี่โต้วเข้ามา บนร่างของเขายังพกพาความหนาวเย็นจากข้างนอกกลับมาอีกด้วย ใบหน้าหล่อโดนความหนาวเย็นจนซีดเซียวออกมา แต่ร่างของเขากลับยังคงยืนตระหง่านดังเดิม ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อย
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตาข้างซ้ายของเขาเหมือนจะช้ำออกมาเล็กน้อย
เสี่ยวหมี่โต้วถูกเขาใช้แขนข้างนึงอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน เหมือนกับลูกไก่ตัวน้อยๆตัวหนึ่ง
“ปล่อยผมนะ แด๊ดดี้นิสัยไม่ดีคนนี้นี่!”
เสี่ยวหมี่โต้วอยากลงไปเดินเองตั้งแต่ที่อยู่ข้างนอกแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เย่โม่เซินก็ไม่คลายมือที่กำลังโอบอุ้มเขาออกไปเลย
ทั้งๆที่เพียงแค่มือข้างเดียวเท่านั้น แต่เสี่ยวหมี่โต้วก็ไม่อาจทำให้เขาสะทกสะท้านได้เลย
สุดท้าย เขาก็เหนื่อยจนหอบแฮ่กๆออกมา
เสี่ยวหมี่โต้วรู้สึกท้อใจขึ้นมาอย่างมาก เขาคิดอยู่ว่าแด๊ดดี้แรงเยอะเกินไปแล้ว สามารถที่จะมารังแกเขาผู้เป็นเด็กน้อยที่ยังไม่โต จึงไม่ได้มีพละกำลังคนนึงได้
“พวกคุณทำไม...” หานมู่จื่อลังเลใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดออกไปยังไง
ในเวลานี้เย่โม่เซินควรจะยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ทำไมจู่ๆถึงได้อุ้มเสี่ยวหมี่โต้วกลับมาได้
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันช่างเยอะเสียจริง
เย่โม่เซินที่เงียบมาหลายวันจู่ๆก็ได้ระเบิดออกมา ถามออกมาว่าเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของใคร เธอยังไม่ทันได้คิดหาคำแก้ตัวเอาไว้ ส่วนเสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ไกลถึงต่างประเทศจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่บ้านของเธอ จากนั้นก็ยังสั่งให้เย่โม่เซินย่อตัวนั่งลงให้เขาต่อยสักหมัด ต่อยแด๊ดดี้ของเขาจนต้องเข้าโรงพยาบาลไป หลังจากที่พวกเธอกลับบ้านมา จู่ๆยู่ฉือจินก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีก แล้วมาตอนนี้เย่โม่เซินก็ยังพาเสี่ยวหมี่โต้วกลับมาอีก
ไม่นะ หลายเรื่องประดังกันเข้ามามากเกินไปแล้ว เธอคิดว่าแนวป้องกันทางด้านจิตใจของเธอใกล้จะรับไม่ไหวอีกแล้ว
หานมู่จื่อโคลงหัวตัวเองไปมา ยกมือขึ้นมากดนวดหัวตัวเอง
เอาแต่คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาในวันนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง
หานมู่จื่อรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
จู่ๆก็มีมือคู่หนึ่งคว้าข้อมือบางของเธอเอาไว้ หานมู่จื่อชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นก็เห็นเข้ากับเย่โม่เซินที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เอื้อมมือข้างที่ไม่ได้อุ้มเสี่ยวหมี่โต้วข้างนั้นมากุมข้อมือเธอเอาไว้ พร้อมดึงมือเธอลงไป
จากนั้นมือใหญ่ของเขาก็ได้เข้ามาแทนที่มือของเธอ นวดลงไปบนจุดที่หานมู่จื่อกดลงไปเมื่อครู่นี้
“ไม่สบาย?”
เย่โม่เซินเอ่ยพูดด้วยเสียงแหบเบาออกมา
เสียงแหบเบาและความเย็นที่ปลายนิ้วของเย่โม่เซินดึงเอาหานมู่จื่อกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง เธอมองคนตรงหน้าไปอย่างนิ่งอึ้งค้างไป ในที่สุดก็รู้ตัวขึ้นมาได้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเย็นวันนี้ ล้วนแล้วแต่จะเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น
“หม่ามี๊ หม่ามี๊เป็นอะไรไปครับ?” เสี่ยวหมี่โต้วที่เดิมทียังคงทำการขัดขืนเย่โม่เซินอยู่นั้น ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเย่โม่เซินเอ่ยถามหานมู่จื่ออย่างนั้นออกมา มือเท้าเล็กๆของเขาก็หยุดลงทันที จ้องมองหานมู่จื่อพร้อมเอ่ยถามออกมาอย่างเป็นกังวล
สองพ่อลูกดูเป็นห่วงเป็นใยเธอขนาดนี้ หานมู่จื่อก็รู้สึกว่าตัวเองได้พบเจอกับความดีใจในสิ่งที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อนขึ้นมาทันที จมูกแสบร้อนเหมือนจะร้องไห้ออกมา จากนั้นเธอก็ส่ายหน้าออกไป “ไม่เป็นไร”
ยู่ฉือจินและหยูโปเดินเข้ามาหลังสุด ในตอนที่ได้ยินเสียงเย่โม่เซิน ยู่ฉือจินก็นึกถึงสิ่งที่ส้งอานพูดออกมาเมื่อสักครู่ขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่คำพูดนั้นของส้งอานได้ทิ่มแทงภายในใจของเขาไปอย่างแท้จริง
เขาไม่เพียงแต่จะแก่ชรา เวลาก็ยังเหลืออีกไม่มาก อีกทั้งชีวิตคนเราก็ยังมีเรื่องไม่คาดฝันมากมาย ไม่แน่ว่าอาจจะมีวันใดวันหนึ่งที่สองขานี้จะเหยียบออกไปจากโลกใบนี้ก็ได้
เมื่อถึงตอนนั้นแล้วสิ่งที่เขาฝืนให้มันเกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้นมันก็ไม่มีความหมาย?
ยู่ฉือจินถึงขนาดที่กำลังคิดเลยว่า ถ้าหากเย่โม่เซินนึกเรื่องทุกอย่างขึ้นมาได้ งั้นก็ปล่อยให้เขาไปทำตามที่เขาต้องการไปเถอะ ขอเพียงแค่ให้เขายอมรับตนผู้เป็นตาก็พอ
แน่นอนว่าความคิดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยู่ฉือจินเพิ่งคิดมาได้เมื่อครู่นี้ ไม่มีใครรับรู้
หลังจากที่เดินใกล้เข้าไปแล้วนั้น เพียงไม่นานยู่ฉือจินก็เห็นว่าในอ้อมแขนของเย่โม่เซินยังอุ้มเด็กน้อยคนนึงอยู่ ดูจากรูปทรงแล้วท่าทางน่าจะอายุประมาณราวๆสี่ห้าขวบ ยู่ฉือจินนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย มองหยูโปที่อยู่ข้างๆไปในทันที
หยูโปก็เห็นเข้ากับเด็กคนนั้นพอดี
เพียงแต่ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วกำลังบีบหน้าเย่โม่เซินอยู่พอดี ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงมองเห็นแค่เพียงท้ายทอยของเสี่ยวหมี่โต้วเพียงเท่านั้น ไม่เห็นหน้าเต็มๆของเขาเลย
แต่ในหัวของยู่ฉือจินก็ได้ประมวลผลไปอย่างรวดเร็ว
เขามองออกไปยังท้ายทอยเล็กๆนั้น และใบหน้านั้นของเย่โม่เซินที่ถูกทึ้งดึงจนแทบจะไม่เป็นรูปเป็นร่างแต่กลับไม่มีอาการโกรธเกรี้ยวออกมา กลับกันภายในแววตาคู่นั้นกลับมีเพียงความจนใจออกมา
หรือว่า...
ยู่ฉือ...นี่จะเป็นลูกของโม่เซิน?
ไม่ นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง? ตอนนั้นเขาก็ได้ให้คนไปสืบมาแล้วนี่ ก็เลยรู้ว่าถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะคบกันมานาน แต่เหมือนกับว่าจะไม่ราบรื่นนัก คบๆเลิกๆกันอยู่ตลอด อีกทั้งยังไม่มีลูกด้วยกัน
ดังนั้นแล้วเขาก็เลยแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกันไปอย่างใจร้าย
แต่ตอนนี้ อยู่ดีๆก็มีเด็กคนนี้ที่โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ ใครกัน?
เสี่ยวหมี่โต้วที่กำลังบีบหน้าเขาอยู่นั้น ทันใดนั้นเองก็รู้สึกได้ถึงการจ้องมองมาจากทางด้านหลังของตน เขาหยุดการกระทำในมือลง แล้วค่อยๆหันกลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่