บทที่992 ช่วยดูแลแทน
ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามา
พอผู้จัดการในห้องโถงของโรงแรมเห็นหานชิงที่หน้าประตู ก็รีบเดินออกมาต้อนรับทันที
“คุณหานครับ ในที่สุดคุณก็มา พอผมได้รับข่าวแล้วก็รอคุณมาตลอดเลย”
ผู้จัดการในห้องโถงเป็นคนจีน แต่อาจเป็นเพราะอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน ตอนที่เขาพูดภาษาจีนเลยรู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสนทนา
หานชิงพยักหน้าให้เขาเป็นการตอบรับ จากนั้นก็หันไปพูดกับเซียวซู่ “ผมคงต้องขอตัวก่อน”
เซียวซู่ไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเขาไว้ จึงทำได้แค่มองดูผู้จัดการโรงแรมลากกระเป๋าสัมภาระของหานชิง แล้วเดินนำเขาเข้าไป
จากนั้น เซียวซู่ก็ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังจากไป
*
เพราะยู่ฉือจินรับปากให้เธอกลับประเทศแล้ว แถมยังมอบสร้อยที่แสนล้ำค่าเส้นนั้นให้หานมู่จื่อ
ดังนั้นหานมู่จื่อก็เลยเริ่มเตรียมดำเนินเรื่องเพื่อจะกลับประเทศแล้ว
แต่เธอไม่ได้รีบร้อนเท่าหานมู่จื่อ อีกอย่างทางนี้ก็จำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นหลังจากที่เธอกับเย่โม่เซินปรึกษากันแล้ว ก็เลยจัดการจองตั๋วเครื่องบินเป็นอีกหน้าวันหลังจากนี้
เมื่อกลับถึงประเทศ ก็ยังทันเทศกาลโคมไฟในประเทศอีกด้วย
ส่วนเรื่องที่ยู่ฉือจินมอบสร้อยเส้นนั้นให้เธอ หานมู่จื่อรู้สึกว่ามันล้ำค่าเกินไป เลยอยากจะเอาไปคืน แต่เย่โม่เซินกลับบอกว่า “ในเมื่อคุณตาให้เธอแล้ว เธอก็เก็บไว้เถอะ”
หานมู่จื่อเม้มปาก “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง ของสิ่งน้ำล้ำค่ามาก อีกอย่างวันนั้นพอฉันได้ฟังพวกคุณคุยกันแล้วก็กลับมาหาข้อมูลของสร้อยเส้นนี้......”
หัวใจจักรวาล
ตอนแรกเธอไม่รู้ แต่วันนั้นหานชิงกับเย่โม่เซินกลับรู้ดี
นั่นก็บ่งบอกได้ว่ามูลค่าของสร้อยเส้นนี้จะต้องไม่ธรรมดา ดังนั้นพอกลับมาแล้วเธอก็เลยถือโอกาสหาข้อมูล แล้วก็พบว่าหัวใจจักรวาลเมื่อก่อนเป็นเพชรเม็ดหนึ่ง ที่นักธุรกิจร่ำรวยคนหนึ่งที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการประมูลมา จากนั้นก็หาช่างเจียระไนให้เป็นหัวใจจักรวาล เพื่อมอบให้กับภรรยาของตัวเอง
ตอนนั้นเรื่องนี้ นอกจากคนภายในแวดวงธุรกิจแล้ว ก็ยังมีคนอีกมากมายที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลาย
จากนั้นหลังจากคนที่เป็นเจ้าของหัวใจจักรวาลเสียชีวิตไป สร้อยเพชรเส้นนี้ก็ไม่เคยออกสู่โลกภายนอกอีก ค่อยๆหายไปจากสายตาของสาธารณชน
จากนั้น ทุกคนก็ค่อยๆลืมเลือนมันไป
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของมันจะลดลงไปตามกาลเวลา
หลังจากที่หานมู่จื่อได้เข้าใจแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าถึงแม้ตอนนั้นจะประมูลมาด้วยราคาที่สูงมาก แต่พอเจียระไนสำเร็จ แล้วมอบให้กับผู้เป็นที่รัก สร้อยเส้นนี้ก็ได้กลายเป็นสมบัติที่ล้ำค่าหาสิ่งใดเปรียบได้
เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลก หายากที่สุด และสำคัญที่สุด
“วันนั้นเธอก็ได้ยินคุณป้าพูดแล้ว เดิมทีสร้อยเส้นนี้เป็นของคุณแม่ ถ้าคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ สร้อยเส้นนี้ก็ต้องตกเป็นของเธออยู่ดี”
ตอนที่พูดถึงคุณแม่ น้ำเสียงของเย่โม่เซินนั้นเรียบเฉย เพราะไม่มีความทรงจำ ดังนั้นเขาก็เลยจำเรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้
หานมู่จื่อจำครั้งแรกที่เขาพูดถึงคุณแม่ของเขาให้ตัวเองฟังได้ สีหน้าและแววตาในตอนนั้นดูเจ็บปวดมาก
คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้......
เห็นได้ชัดว่า การสูญเสียความทรงจำก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป
ถึงแม้จะทำให้หลงลืมสิ่งสำคัญบางอย่างไป แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ลืมความเจ็บปวดมากมายก่อนหน้านี้ไปด้วย
ก็เหมือนกับ......การได้เกิดใหม่
แล้วมันไม่ดีตรงไหน ขอแค่คนไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว
“ถ้าเธอยังรู้สึกไม่สบายใจ ถึงแม้จะเอากลับไปคืน คิดว่าคุณตาก็คงไม่รับหรอก”
“ทำไมล่ะ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่