มู่ซั่วยืนเงียบๆ อยู่ด้านหนึ่ง จากนั้นคนอื่นเริ่มแนะนำตัวทีละคน เหมือนได้รับอิทธิพลจากมู่ซั่ว คนพวกนี้พูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หน้าไม่อายขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชายร่างกายกำยำล่ำสันคนหนึ่ง เผยกล้ามเนื้อออกมา จนทำให้อาจารย์อดหัวเราะออกมาไม่ได้
สุดท้ายอาจารย์เซินถูพูดกับคนนี้ว่า “นายมาคณะกำแหง ฉันจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งดั่งหิน” จากนั้นก็เอาไป
แต่ไม่ใช่อาจารย์ทุกคน ที่มีสีหน้าดี เช่น อาจารย์ซิงยวนของคณะหยินหยาง มีสีหน้าเย็นชา ตั้งแต่ต้นจนจบ
ในสิบคน มีสี่คน อยากเป็นศิษย์คณะหยินหยาง เมื่อได้ยินคำพูดของสี่คนนี้ อาจารย์ซิงยวน ตอบเหมือนกันว่า “ได้”
เสียงไม่มีความรู้สึกอะไรเลย สายตาของอาจารย์ซิงยวน ราวกับมีด ทำให้คนพวกนี้ ไม่กล้าพูดอะไรมาก
ไม่นาน คนข้างหน้าแปดคน เลือกได้เรียบร้อย ไปคณะกระบี่สองคน ไปคณะหยินหยางสี่คน ไปคณะกำแหงสองคน ล้วนเป็นคณะอันดับต้นๆ ทั้งนั้น ส่วนคณะที่อยู่อันดับท้ายๆ ไม่มีใครเลือกเลย
เหลือสองคนสุดท้าย ลู่ฝานกำลังจะพูด แต่เห็นท่านผอ. หรี่ตามองเขา ประกายในแววตา กำลังพูดว่า “นายอย่าเพิ่งพูดอะไร”
ลู่ฝานไม่พูดอะไรอย่างรู้งาน รอให้เด็กผู้หญิงข้างๆ พูดก่อน
เด็กผู้หญิงคนนี้ หน้าแดงตลอดเวลา ไม่รู้เพราะตื่นเต้นดีใจหรือเพราะอย่างอื่น เธอตัวเตี้ยกว่าลู่ฝานเล็กน้อย แต่ร่างกายสมส่วน ตัวเล็กน่ารัก เหมือนดวงตาโตทั้งสองข้างพูดได้
“เธอล่ะ เธออยากเข้าคณะไหน”
อาจารย์เมิ่งอวิ๋นของคณะบังเหินเอ่ยถาม คิดไม่ถึงว่าจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครเลือกคณะบังเหินสักคน นี่จึงทำให้อาจารย์เมิ่งอวิ๋นหดหู่ใจ คณะบังเหิน อยู่ในอันดับสามแท้ๆ สูงกว่าคณะกำแหงนิดหน่อย สุดท้ายเซินถูเอาไปสองคน อย่างเบิกบานใจ เขากลับไม่ได้นักเรียนดีสักคน
ผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนโยนและอ่อนแอ อาจารย์เมิ่งอวิ๋น ดูการต่อสู้ของเธอเมื่อครู่ พื้นฐานไม่เลว สามารถเจียระไนได้ จึงถามออกมา
เด็กผู้หญิงกำชายเสื้อ แล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันชื่อหลิงเหยา ฉันอยากเข้า......ฉันอยากเข้าคณะสงบใจ”
เมื่อพูดออกมา เมิ่งอวิ๋นอึ้งไปทันที
อาจารย์อู๋โฉวของคณะสงบใจ ที่เอาแต่หรี่ตามองเรื่องสนุก ตอนนี้ได้ยินว่าหลิงเหยา จะเข้าคณะสงบใจ ตาของอาจารย์อู๋โฉว เป็นประกายราวกับฟ้าแลบทันที
สายตาของอาจารย์อู๋โฉว จ้องไปที่หลิงเหยา แล้วพูดว่า “หืม เธออยากเข้าคณะสงบใจเหรอ เพราะอะไรล่ะ”
หลิงเหยาคิดไม่ถึงว่าอาจารย์อู๋โฉว จะถามเธอว่าเพราะอะไร คิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบเสียงเบาว่า “เพราะฉันอยากวิชาบู๊สงบจิต ทำสมาธิ เดิมทีฉันรู้จักตาเฒ่าคนหนึ่ง เขาบอกว่าฉันเหมาะที่จะวิชาบู๊สงบจิตที่สุด เขายังให้อันนี้ฉันไว้ด้วย”
หลิงเหยาพูดแล้วยื่นมือออกมา กระตุ้นพลังปราณ ทุกคนเห็นในฝ่ามือเธอ มีแสงสว่างวาบขึ้นมา ปรากฏเป็นตัวอักษรรางๆ คำว่าบู๊ ถ้าไม่มองอย่างละเอียด คงไม่มีทางมองเห็น
อาจารย์อู๋โฉวยืนขึ้นทันที พูดอย่างตกใจว่า “จิตบู๊เข้าฌาน”
อาจารย์อู๋โฉว รีบเดินเข้ามาจับมือหลิงเหยา แล้วพูดว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอคือศิษย์ก้นกุฏิของฉัน ตอนนี้ไปคณะสงบใจกับฉันเถอะ”
ไม่พูดพร่ำทำเพลง อาจารย์อู๋โฉวพาหลิงเหยาไปทันที ตัวลอยขึ้นไปบนฟ้า เหาะออกไปไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...