เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1352

สรุปบท บทที่ 1352: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปเนื้อหา บทที่ 1352 – เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

บท บทที่ 1352 ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เทียนชิงหยาง ถือกำเนิดขึ้นในวงศ์ตระกูลวิถีบู๊ สามขวบเริ่มฝึกฝนกระบี่ ห้าขวบศึกษาวิชากระบี่ และฝึกฝนเรื่อยมาจนถึงตอนนี้ จนเชี่ยวชาญกระบวนท่ากระบี่อย่างที่สุด หลอมรวมเป็นท่วงท่าที่เป็นธรรมชาติ เดิมทีคิดว่า การต่อสู้แบบประชิดตัวของเขา จะสามารถเหนือกว่าลู่ฝานได้ในพริบตาเดียว เพราะว่าแม้แต่ในตอนที่ต่อสู้กับสุ่ยสือฉวน เขาก็ยังไม่ได้ใช้พลังความสามารถที่แท้จริงออกมา แต่ตอนนี้ใช้พลังทุกกระบวนท่าออกมาทั้งหมดแล้ว เทียนชิงหยางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ยังจะมีใคร ที่สามารถต่อสู้รับมือกับตนเองได้อีก

แต่ความเป็นจริงมักจะไร้มนุษยธรรม วิชากระบี่ที่ลู่ฝานแสดงออกมานั้น กลับเหนือกว่าเขาอีกระดับขั้นหนึ่ง

บ่อยครั้งที่กระบี่ของเขายังไม่ทันจะไปถึงจุดหมาย กระบี่ของลู่ฝานก็ไปรอตรงจุดหมายที่กระบี่ของเขาจะไปถึงแล้ว อีกทั้งลู่ฝานใช้กระบี่หนักไร้คมที่มีขนาดใหญ่ ส่วนเขาใช้กระบี่มังกรคำรามที่มีขนาดเพียงสามฟุต เมื่อวิชากระบี่ของทั้งสองคนปะทะกัน แน่นอนว่าลู่ฝานเป็นฝ่ายได้เปรียบ จึงทำให้เทียนชิงหยางยากที่จะยอมรับได้ กระบี่ที่รวดเร็วของลู่ฝานนั้น คือวิชากระบี่อะไรกันแน่ ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าไม่ได้รวดเร็วไปกว่ากระบี่มังกรฟ้าคำรามของเขาเลย แต่กลับมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าอย่างที่สุด!

ลู่ฝานไม่บอกกับเขาอย่างแน่นอนว่า วิชากระบี่ที่เขาใช้นี้มีชื่อที่ไพเราะว่า

เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อปะทะกับยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว กระบวนท่ากระบี่ที่สวยงามนั้น ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจริง ๆ

การต่อสู้ในพื้นที่ขนาดเล็ก มีเพียงพื้นฐานเท่านั้น ที่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ลู่ฝานโชคดีอย่างมากที่เขาฝึกฝนวิชากระบี่อย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นฝึกฝนมาจาก !

ตึ่งง!

ในที่สุด เมื่อลู่ฝานฟาดฟันกระบี่ครั้งที่หนึ่งร้อยลงไปยังจุดตำแหน่งเดิมนั้น เทียนชิงหยางก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง และร่างกายก็ชะงักหยุดลงอย่างกะทันหัน!

เขาแทบจะกุมกระบี่ในมือเอาไว้ไม่อยู่ การปะทะกระบี่อันรวดเร็วในครั้งนี้ ชัดเจนว่าลู่ฝานเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า!

“มังกรหลบหลีก! ”

เทียนชิงหยางแกว่งมือแล้วใช้กระบี่ฟาดฟันไปที่ด้านหลัง ตำแหน่งตรงนี้ ก็คือทิศทางที่ลู่ฝานกวัดแกว่งกระบี่หนักฟาดฟันลงมา

บนกระบี่มังกรคำราม มังกรยักษ์แผดเสียงคำราม ส่วนลู่ฝานก็นำพาลมพายุพุ่งเข้าโจมตี กลายร่างเป็นพายุมังกร ปะทะกับมังกรยักษ์!

ตูมม! ตูมม! ตูมม!

เขตวิถีห้าธาตุใต้ฝ่าเท้า สั่นสะเทือนขึ้นชั่วขณะ พลังธาตุทองอันหนักหน่วง ถูกกดทับลงไปยังใต้พื้นผิวดิน แถบรอยแตกร้าว ปรากฏขึ้นบนแผ่นหินห้าธาตุ

เงาร่างของลู่ฝานกับเทียนชิงหยางพลันแยกออกจากกัน ชายเสื้อผ้าพลิ้วไสวไปตามสายลม

การปะทะกันเมื่อสักครู่นี้ พลังความสามารถที่แสดงกันออกมานั้น สร้างความตกตะลึงให้กับนักบู๊ทั้งหมดเสียจริง

รวมถึงเฟิงเสี่ยวชี่ที่เคยต่อสู้กับลู่ฝาน และยังรวมทั้งหลินหย่า และสุ่ยสือฉวนที่เคยพ่ายแพ้ต่อเทียนชิงหยางด้วย

พวกเขาพลันรู้สึกได้ว่า ที่ตนเองพ่ายแพ้นั้นถือเป็นความโชคดีอย่างมาก

หากว่าสองคนนี้ ตอนที่ต่อสู้กับพวกเขานั้นแสดงพลังความสามารถออกมาในแบบวันนี้แล้ว

เกรงว่าเมื่อพวกเขาขึ้นมาบนสังเวียน ก็คงจะล้มกองลงไปที่พื้นแล้ว!

แกร็ก บนเสื้อผ้าของลู่ฝาน ปรากฏรอยฉีกขาดขึ้นสิบกว่าจุด บนผิวหนังก็มีเลือดซึมออกมาบ้าง

เทียนชิงหยางบีบนวดไปที่ฝ่ามือ ขยับเคลื่อนไหวลำคอ กลืนเลือดที่ไหลย้อน ที่เกือบจะกระอักออกมาจากปากแล้วกลับคืนเข้าไป

ลู่ฝานฉีกเสื้อบนร่างกายท่อนบนของตนเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของตนเอง ถึงแม้ว่าจะไม่บึกบึนมากนัก โดยบนร่างกายไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้นักบู๊หลายคนต่างก็พากันตกตะลึง

ราวกับว่าโลกใบนี้ได้ระเบิดขึ้น ผู้ชมเกือบทุกคนต่างก็รู้สึกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้านั้นสูญหายไป ชั้นฟ้าชั้นดิน หลงเหลือเพียงแต่แถบลำแสงสีทอง

ความรู้สึกนี้ยาวนานติดต่อกันสักพักหนึ่ง ทุกคนจึงกระพริบเปิดตาขึ้น มองดูโลกที่ฟื้นฟูกลับคืนมา

พวกผู้ชมที่หวาดกลัวนั้น ได้มองไปยังสนามต่อสู้ ที่ตรงนั้นอลหม่านวุ่นวายไปหมด หินห้าธาตุที่ยืนหยัดค้ำจุนเขตวิถีห้าธาตุนั้น ถูกระเบิดจนไม่เหลือชิ้นดี ทั่วทั้งสนามบู๊ ได้กลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ไปแล้ว

เงาร่างของลู่ฝานได้หายสูญไป ทุกคนต่างก็ตะโกนพูดขึ้นว่า: “ลู่ฝานล่ะ? เขาตายไปแล้วเหรอ? ”

เทียนชิงหยางหอบเล็กน้อย หัวเราะเบา ๆ และพูดพึมพำว่า: “ก็แค่นี้เอง! ”

แต่ในขณะนั้น ลำแสงดวงหนึ่ง ก็ตกลงมาเหนือศีรษะของเทียนชิงหยางอย่างกะทันหัน

“ครั้งที่สี่ เมฆเฉียนคุน! ”

ตูมม!

เทียนชิงหยางทั้งคนและกระบี่ กระแทกลงไปบนพื้นดินทันที กำแพงบริเวณโดยรอบ ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นอย่างน่ากลัว ราวกับว่าจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ

ลู่ฝานลอยตัวอยู่กลางอากาศ ปราณชี่ในร่างกายแผ่กระจายไปทั่ว

เมื่อเห็นพลังปราณในตัวของเขาแล้ว นักบู๊กลุ่มหนึ่งก็อุทานเสียงหลงว่า: “ปราณดินชั้นแปด เขาฝึกฝนถึงขั้นปราณดินชั้นแปดตั้งแต่เมื่อไรกัน! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า