บนแท่นผู้ชม บริเวณที่นั่งตระกูลเทียน เทียนหลิงพลันลุกยืนขึ้น ในสภาพท่าทางที่เหมือนกับเห็นผีสางตอนกลางวัน และมองไปยังลู่ฝานที่ยืนอยู่ในอากาศ
โดยที่มีการคิดคาดการณ์ต่าง ๆ นา ๆ แต่เขากลับคาดการณ์ไม่ถึงว่า วิทยายุทธของลู่ฝาน จะสูงส่งขนาดนี้
จำได้ว่าเมื่อการต่อสู้คราวก่อน ตอนที่ต่อสู้กับผู้ฝึกชั่วร้ายเสอหลิงนั้น เหมือนว่าลู่ฝานยังเป็นเพียงแค่นักบู๊ปราณดินขั้นต้น อาศัยอสูรวิเศษสิงร่าง จึงจะสามารถมีพลังในระดับขั้นปราณดินชั้นสุดยอดได้
ทำไมเพียงแค่ครึ่งเดือนที่ไม่พบเจอ ลู่ฝานก็ก้าวกระโดดมาถึงขั้นปราณดินตอนปลายแล้ว ซึ่งห่างจากปราณดินชั้นสุดยอดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
ไม่เพียงแต่เขา หานเฟิงและคนอื่น ๆ ฉินซางต้าตี้ รวมถึงไอ้อ้วนตง ต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่า วิทยายุทธของลู่ฝานจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ นี่หากว่าฝึกฝนขึ้นมาตามระดับขั้นแล้ว ก็คงจะน่าประหลาดใจมากทีเดียว
หานเฟิงอุทานขึ้นว่า: “ฉันรู้ว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ศิษย์น้องลู่ฝาน มีพัฒนาการที่รวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่รวดเร็วถึงขนาดนี้ไปได้! ”
หลินหย่าที่นั่งอยู่ด้านหลังของหานเฟิง เอามือป้องปิดปากของตัวเองไว้
ครั้งก่อนเธอยังเคยถามลู่ฝานว่าทะลุขั้นแดนปราณดินชั้นเจ็ดชั้นแปดแล้วใช่ไหม แต่ในตอนที่ถามนั้น ก็ยังแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม แค่ถามไปเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น
แต่ใครจะไปคิดถึงว่า ลู่ฝานนั้นจะทะลุถึงขั้นแดนปราณดินชั้นแปดแล้วจริง ๆ
หลินหย่าแอบกัดฟันและพูดว่า: “ไอ้หนุ่มคนนี้ จะต้องแอบซ่อนพลังความสามารถเอาไว้เป็นแน่ ตอนนี้ถึงจะแสดงออกมาเท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลย ที่เพิ่งจะทะลุขั้นแดนในช่วงที่ผ่านมานี้ ไม่มีผู้ใดที่ภายในเวลาเพียงครึ่งเดือน จะสามารถทะลุขั้นแดนสี่ถึงห้าชั้นติดต่อกันได้”
ความคิดเห็นของหลินหย่า ก็คือความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้
ไม่มีใครที่จะเชื่อว่า ลู่ฝานเพิ่งจะก้าวกระโดดสู่ขั้นปราณดินชั้นแปดในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้
นี่มันช่างเป็นการ ล้มล้างกฎเกณฑ์และหลักเหตุผลโดยสิ้นเชิง เพราะนักบู๊ทั่วไปนั้น ต่อให้กินยาเซียนเข้าไป วิทยายุทธอย่างมากก็แค่ทะลุขั้นเพียงสามชั้น นี่ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกของผู้ที่มีพื้นฐานมั่นคงหนักแน่นอย่างมากแล้ว
การที่ทะลุขั้นแดนติดต่อกันสี่ถึงห้าชั้น นี่ไม่ใช่การเลื่อนชั้น แต่นี่คือการรนหาที่ตาย
นักบู๊แดนปราณดิน ก้าวข้ามหนึ่งชั้น ก็ถือว่าเป็นการก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่แล้ว โดยจะต้องใช้เวลามารักษาสมดุลของวิทยายุทธให้มั่นคง อย่างแรกคือเพื่อให้ร่างกายปรับตัวให้เหมาะสม อีกอย่างคือป้องกันสภาพที่ควบคุมไม่ได้
หากว่าก้าวข้ามชั้นติดต่อกันมากเกินไป ถึงแม้ร่างกายจะยืนหยัดไหว แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้
ผลลัพธ์มีอยู่เพียงอย่างเดียว ก็คือพลังปราณแปรปรวน จนร่างกายระเบิดและจบชีวิตลง
แต่ลู่ฝานทำมันได้สำเร็จ ซึ่งเหตุผลไม่มีอย่างอื่น
นั่นเป็นเพราะร่างกายของเขา มีเส้นลมปราณและเลือดเนื้อที่ไม่ใช่อย่างกับของคนธรรมดาทั่วไป
เขาที่มีร่างกายแอบซ่อนอยู่ในโลกใบเล็ก มีจิตญาณที่กว้างไพศาล ที่จริงแล้วต่อให้ก้าวข้ามขึ้นอีกหนึ่งชั้น ก็ยังคงสามารถควบคุมเอาไว้ได้
แต่ลู่ฝานนั้นต้องการความมั่นคง จึงไม่ได้ทะลุขั้นติดต่อกันอย่างบ้าคลั่ง
ในวันนี้ วิทยายุทธปราณดินชั้นแปด ก็เพียงพอที่จะจัดการกับเทียนชิงหยางได้แล้ว!
ต้องทราบว่า ตัวเขาไม่ใช่พลังปราณที่บริสุทธิ์ แต่เป็นปราณชี่ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวจากพลังปราณและพลังชี่!
แม้ว่าเป็นเพียงแค่ปราณดินชั้นแปด แต่พูดถึงการเปรียบเทียบระดับความเข้มแข็งของพลังแล้ว ลู่ฝานไม่ได้ด้อยไปกว่านักบู๊ครึ่งชั้นแดนปราณฟ้าอย่างเทียนชิงหยางเลย ถึงขนาดที่ว่ามีอยู่บางด้าน ที่ยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ
ท่ามกลางพื้นดิน เทียนชิงหยางพลันลุกยืนขึ้น และกระอักเลือดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...