เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1353

สรุปบท บทที่ 1353: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 1353 – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 1353 ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บนแท่นผู้ชม บริเวณที่นั่งตระกูลเทียน เทียนหลิงพลันลุกยืนขึ้น ในสภาพท่าทางที่เหมือนกับเห็นผีสางตอนกลางวัน และมองไปยังลู่ฝานที่ยืนอยู่ในอากาศ

โดยที่มีการคิดคาดการณ์ต่าง ๆ นา ๆ แต่เขากลับคาดการณ์ไม่ถึงว่า วิทยายุทธของลู่ฝาน จะสูงส่งขนาดนี้

จำได้ว่าเมื่อการต่อสู้คราวก่อน ตอนที่ต่อสู้กับผู้ฝึกชั่วร้ายเสอหลิงนั้น เหมือนว่าลู่ฝานยังเป็นเพียงแค่นักบู๊ปราณดินขั้นต้น อาศัยอสูรวิเศษสิงร่าง จึงจะสามารถมีพลังในระดับขั้นปราณดินชั้นสุดยอดได้

ทำไมเพียงแค่ครึ่งเดือนที่ไม่พบเจอ ลู่ฝานก็ก้าวกระโดดมาถึงขั้นปราณดินตอนปลายแล้ว ซึ่งห่างจากปราณดินชั้นสุดยอดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

ไม่เพียงแต่เขา หานเฟิงและคนอื่น ๆ ฉินซางต้าตี้ รวมถึงไอ้อ้วนตง ต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่า วิทยายุทธของลู่ฝานจะก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ นี่หากว่าฝึกฝนขึ้นมาตามระดับขั้นแล้ว ก็คงจะน่าประหลาดใจมากทีเดียว

หานเฟิงอุทานขึ้นว่า: “ฉันรู้ว่าในช่วงที่ผ่านมานี้ศิษย์น้องลู่ฝาน มีพัฒนาการที่รวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่รวดเร็วถึงขนาดนี้ไปได้! ”

หลินหย่าที่นั่งอยู่ด้านหลังของหานเฟิง เอามือป้องปิดปากของตัวเองไว้

ครั้งก่อนเธอยังเคยถามลู่ฝานว่าทะลุขั้นแดนปราณดินชั้นเจ็ดชั้นแปดแล้วใช่ไหม แต่ในตอนที่ถามนั้น ก็ยังแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม แค่ถามไปเรื่อยเปื่อยก็เท่านั้น

แต่ใครจะไปคิดถึงว่า ลู่ฝานนั้นจะทะลุถึงขั้นแดนปราณดินชั้นแปดแล้วจริง ๆ

หลินหย่าแอบกัดฟันและพูดว่า: “ไอ้หนุ่มคนนี้ จะต้องแอบซ่อนพลังความสามารถเอาไว้เป็นแน่ ตอนนี้ถึงจะแสดงออกมาเท่านั้น เป็นไปไม่ได้เลย ที่เพิ่งจะทะลุขั้นแดนในช่วงที่ผ่านมานี้ ไม่มีผู้ใดที่ภายในเวลาเพียงครึ่งเดือน จะสามารถทะลุขั้นแดนสี่ถึงห้าชั้นติดต่อกันได้”

ความคิดเห็นของหลินหย่า ก็คือความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้

ไม่มีใครที่จะเชื่อว่า ลู่ฝานเพิ่งจะก้าวกระโดดสู่ขั้นปราณดินชั้นแปดในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้

นี่มันช่างเป็นการ ล้มล้างกฎเกณฑ์และหลักเหตุผลโดยสิ้นเชิง เพราะนักบู๊ทั่วไปนั้น ต่อให้กินยาเซียนเข้าไป วิทยายุทธอย่างมากก็แค่ทะลุขั้นเพียงสามชั้น นี่ก็ถือว่าเป็นการแสดงออกของผู้ที่มีพื้นฐานมั่นคงหนักแน่นอย่างมากแล้ว

การที่ทะลุขั้นแดนติดต่อกันสี่ถึงห้าชั้น นี่ไม่ใช่การเลื่อนชั้น แต่นี่คือการรนหาที่ตาย

นักบู๊แดนปราณดิน ก้าวข้ามหนึ่งชั้น ก็ถือว่าเป็นการก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่แล้ว โดยจะต้องใช้เวลามารักษาสมดุลของวิทยายุทธให้มั่นคง อย่างแรกคือเพื่อให้ร่างกายปรับตัวให้เหมาะสม อีกอย่างคือป้องกันสภาพที่ควบคุมไม่ได้

หากว่าก้าวข้ามชั้นติดต่อกันมากเกินไป ถึงแม้ร่างกายจะยืนหยัดไหว แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้

ผลลัพธ์มีอยู่เพียงอย่างเดียว ก็คือพลังปราณแปรปรวน จนร่างกายระเบิดและจบชีวิตลง

แต่ลู่ฝานทำมันได้สำเร็จ ซึ่งเหตุผลไม่มีอย่างอื่น

นั่นเป็นเพราะร่างกายของเขา มีเส้นลมปราณและเลือดเนื้อที่ไม่ใช่อย่างกับของคนธรรมดาทั่วไป

เขาที่มีร่างกายแอบซ่อนอยู่ในโลกใบเล็ก มีจิตญาณที่กว้างไพศาล ที่จริงแล้วต่อให้ก้าวข้ามขึ้นอีกหนึ่งชั้น ก็ยังคงสามารถควบคุมเอาไว้ได้

แต่ลู่ฝานนั้นต้องการความมั่นคง จึงไม่ได้ทะลุขั้นติดต่อกันอย่างบ้าคลั่ง

ในวันนี้ วิทยายุทธปราณดินชั้นแปด ก็เพียงพอที่จะจัดการกับเทียนชิงหยางได้แล้ว!

ต้องทราบว่า ตัวเขาไม่ใช่พลังปราณที่บริสุทธิ์ แต่เป็นปราณชี่ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวจากพลังปราณและพลังชี่!

แม้ว่าเป็นเพียงแค่ปราณดินชั้นแปด แต่พูดถึงการเปรียบเทียบระดับความเข้มแข็งของพลังแล้ว ลู่ฝานไม่ได้ด้อยไปกว่านักบู๊ครึ่งชั้นแดนปราณฟ้าอย่างเทียนชิงหยางเลย ถึงขนาดที่ว่ามีอยู่บางด้าน ที่ยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ

ท่ามกลางพื้นดิน เทียนชิงหยางพลันลุกยืนขึ้น และกระอักเลือดออกมา

ยอดฝีมือจำเป็นต้องใช้ดวงตามองดูด้วยอย่างนั้นเหรอ?

ลู่ฝานพลิกมือแล้วใช้กระบี่ฟาดฟันสังหารไปที่ด้านหน้าทางซ้ายมือ ด้วยกระบวนท่าที่ดุดัน และแฝงไปด้วยลำแสงเก้าสี

ยอดกระบี่หวนคืน!

ตึ่งงง!

ลู่ฝานใช้กระบี่ฟาดฟันไปที่ร่างที่แท้จริงของเทียนชิงหยาง ภายใต้จิตเทพนั้น ไม่ว่าฟ้าดินจะผันผวนอย่างไร ล้วนแต่อยู่ในหัวสมองทั้งหมด แล้วนับประสาอะไรกับแค่เงาลวงตาเล็กน้อยนี้ กระบี่มังกรคำรามในมือของเทียนชิงหยางแผดเสียงคำรามออกมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งในแต่ละครั้งที่ลำแสงกระพริบ ก็จะแฝงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน ผ่านเข้าไปในร่างกายของลู่ฝาน

แต่กระบี่ของลู่ฝานเอง ก็ไม่ใช่อาวุธที่ธรรมดา

เขตวิถีได้เปิดขึ้น! ทันใดนั้นก็กดทับกระบี่มังกรคำรามของเทียนชิงหยางเอาไว้ ภาพเหตุการณ์นี้ เหมือนว่าเทียนชิงหยางเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

ลู่ฝานกำหมัดซ้าย แล้วก็ชกออกไป

หมัดมังกรเพลิงคำราม!

โครม!

พลังหมัดสั่นสะเทือนจนเม็ดฝนในอากาศกระจายไปทั่ว น้ำฝนแต่ละหยด ไม่นึกว่าจะราวกับเป็นอาวุธ กระแทกใส่เกราะป้องกัน จนเกิดเสียงดังปุงปัง

เทียนชิงหยางกัดฟัน โดยที่ไม่ถอยหลังแม้แต่ครึ่งก้าว แล้วก็พลิกมือและชกหมัดออกไป เข้าที่ด้านหน้าทรวงอกของลู่ฝานเช่นกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า