เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1448

สรุปบท บทที่ 1448: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอน บทที่ 1448 จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1448 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่เขียนโดย โอหยางวิ่น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ลู่ฝาน!”

เสียงตะโกนดังขึ้นไกลๆ ทะลุเมฆเข้ามา

ลู่ฝานหันไปมอง มีแสงสว่างสีทองปรากฏขึ้นบนหลุมลึก เป็นเงาของหลิงเหยา

ใบหน้ามีความตื่นเต้น หลิงเหยาวิ่งมาตรงหน้าลู่ฝานอย่างรวดเร็ว

แสงสีทองพาดผ่านด้านหลัง ทุกที่ที่ผ่านไปเต็มไปด้วยพลังน่ากลัวทำลายมิติ

หลิงเหยาโผเข้ามาหาลู่ฝาน แสงสีทองบนตัวเธอชนจนเกือบทำให้ซี่โครงลู่ฝานหัก

ลู่ฝานมองหลิงเหยาอย่างไม่อยากเชื่อ “หลิงเหยา พลังบนตัวเธอมาจากไหนกัน”

หลิงเหยากอดลู่ฝานแน่นแล้วพูดว่า “นี่คือพลังที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ฉัน ลู่ฝาน ฉันไม่อยากเป็นภาระนายอีกแล้ว ต่อไปถ้านายทิ้งฉันไว้แล้วไปเสี่ยงอันตรายคนเดียวอีก ฉันจะบ้าคลั่งไร้เหตุผลใส่นาย!”

ลู่ฝานพยักหน้าตอบรับหงึกๆ อันที่จริงเขาไม่ได้ฟังอะไรเลย

สัมผัสถึงพลังพลุ่งพล่านบนตัวหลิงเหยา ลู่ฝานตกใจเป็นอย่างมาก แสงสว่างระยิบระยับเหมือนอาวุธไร้เทียมทานเหนือทุกสิ่ง แม้ดูเหมือนทองในธาตุทั้งห้า แต่กลับเป็นอิสระออกมาจากห้าธาตุโดยสิ้นเชิง

ถึงขนาดที่ว่าลู่ฝานรู้สึกว่าพลังแห่งโลกในตัวเคลื่อนไหวอย่างพลุ่งพล่าน เหมือนจะเทียบกับแสงสีทองบนตัวหลิงเหยา

พลังบนตัวหลิงเหยาค่อยๆ หายไป เธอกลับมาอยู่ในระดับที่เกือบเข้าสู่แดนปราณดินอีกครั้ง

พลังสีทองไม่ได้เปลี่ยนแปลงร่างกายเธอ และไม่ได้ยกระดับวิทยายุทธของเธอ

เหมือนเครื่องรางอะไรบางอย่างที่เป็นอิสระ อยากใช้ก็ใช้ อยากเก็บก็เก็บ สะดวกเป็นอย่างมาก!

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาให้เขาซักถามรายละเอียด

ลู่ฝานมองไปด้านหลังหลิงเหยา ขมวดคิ้วพูดว่า “สิบสามกับฝ่าบาทล่ะ”

หลิงเหยาพูดว่า “พวกเขายังอยู่ในวัง ฉันตามนายออกมา น่าเสียดายที่ฉันเหาะไม่ได้ วิ่งช้ามาก”

จู่ๆ มีลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจลู่ฝาน

“รีบกลับไปกันเถอะ”

ลู่ฝานตบลงบนตัวเอง วินาทีต่อมาลายมังกรดำหายไป เจ้าดำปรากฏตัวขึ้นบนไหล่ลู่ฝาน มันแลบลิ้นออกมา ท่าทางเหนื่อยเป็นอย่างมาก

มีหรือที่ลู่ฝานจะไม่เข้าใจเจ้าดำ เขาเอายาออกมากรอกใส่ปากเจ้าดำ

ทันใดนั้นเจ้าดำยิ้มร่า ตัวใหญ่ขึ้นแล้วเงยหน้าคำรามเสียงมังกรออกมา!

ลู่ฝานตบลงบนหัวเจ้าดำ ไอ้ปัญญาอ่อนนี่ คำรามอะไรไม่รู้ จะเรียกนักบู๊ประเทศหลิงมาอีกหรือไง!

ลู่ฝานจับมือหลิงเหยา กระโดดขึ้นไปบนหลังเจ้าดำ

สยายปีกมังกรจนเกิดลมแรง เจ้าดำบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

มองลงมาจากฟ้า ลู่ฝานกับหลิงเหยาเห็นนักบู๊ที่รอดชีวิตนับไม่ถ้วนในเขาเทพ

กลุ่มคนชี้มาทางพวกลู่ฝาน แต่ไม่มีใครกล้าพุ่งขึ้นมาสักคน

อาจเป็นเพราะการต่อสู้เมื่อกี้ ทำให้พวกเขายังกลัวไม่หาย หรืออาจเป็นเพราะพวกเขาไม่มีความคิดสู้อีกแล้ว สรุปว่าพวกเขาไม่พุ่งเข้ามาอีกแล้ว

ลู่ฝานใบหน้าสงสัย เขาเตรียมพร้อมสู้แล้ว คิดไม่ถึงว่านักบู๊ประเทศหลิงจะตกใจจนขี้ขลาดไปหมดแล้ว

ในตำหนักที่มีแสงสว่างเจ็ดสีสว่างวาบ

สีหน้าซือหม่าเฟิงโหดเหี้ยม ใบหน้ามีรอยแผลจากกระบี่ กวาดตามองในตำหนักใหญ่ไม่หยุด

“ออกมา ไอ้เด็กทุเรศ ออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าวันนี้ฉันไม่หั่นนายเป็นหมื่นชิ้น อย่ามาเรียกแซ่ฉันว่าซือหม่า!”

ตะโกนเสียงแหบแห้ง ใช้พลังจนหมด เห็นได้ชัดว่าซือหม่าเฟิงโกรธสิบสามมาก

เดิมทีการฆ่านักบู๊แดนปราณดินควรเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขา

แต่จนถึงตอนนี้เขายังฆ่าคนไม่ได้ กลับเป็นเขาที่โดนโจมตีด้วยกระบี่ไม่น้อยเลย

ไอ้เด็กปลิ้นปล้อนเหมือนปลาไหลอย่างไรอย่างนั้น จับตัวไม่ได้สักที

จนถึงตอนนี้ซือหม่าเฟิงยังดูไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้ใช้เคล็ดวิชาบู๊หรือวิชาอะไร

แสงฟาดฟันไปมาในตำหนักใหญ่ สิบสามแบกฝ่าบาทหลินรั่วเสวี่ยนั่งยองอยู่มุมกำแพง

ตำแหน่งนี้ดีมาก เป็นจุดบอดมองไม่เห็นพอดี เมื่อคนใช้สายตามองจะละเลยตำแหน่งนี้ไปเลย

สิบสามกดลมหายใจตัวเองให้ต่ำมาก พลังปราณบนตัวเปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างคลื่น

เขาเหมือนงูตัวหนึ่ง เก็บพลัง ก้มตัวต่ำ เพื่อการโจมตีครั้งสุดท้าย

พูดขึ้นมาก็แปลก เขาอยู่ห่างจากซือหม่าเฟิงไม่ถึงร้อยฟุต แต่ซือหม่าเฟิงกลับหาเขาไม่เจอ

นี่คือวิชาลอบฆ่าที่สิบสามเรียนรู้ได้ตอนเรียนหนังสือในตระกูลหลู่กับลู่ฝาน วิถีลอบฆ่าอย่างแท้จริง แข็งแกร่งกว่าที่ลู่ฝานเรียนเพียงผิวเผินไม่รู้ตั้งเท่าไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า