เข้าสู่ระบบผ่าน

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1854

เสียงทรงพลัง ความอาฆาตพลุ่งพล่าน

ฮ่วนเย่ว์มองด้านหลังลู่ฝาน แววตาวูบไหว แก้มแดงระเรื่อ

อาจเป็นเพราะประโยคนี้ของลู่ฝานดุดันเกินไป หรืออาจเป็นเพราะประโยคนี้สะกิดใจเธอ

ฮ่วนเย่ว์รู้สึกว่าใจเต้นแรงตึกๆ เหมือนจะกระเด็นออกมา

หลีซุ่นเอียงคอมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายเป็นใคร เก่งมาจากไหนถึงมาสู้กับฉัน ฉันเป็นหัวหน้าหอฝึกสัตว์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่สู้กับบุคคลนิรนามหรอกนะ”

“หัวหน้าทางตะวันตกเฉียงเหนือเหรอ”

ลู่ฝานหันมามองฮ่วนเย่ว์อย่างไม่เข้าใจ

ฮ่วนเย่ว์รีบสะกดกลั้นความรู้สึกตัวเองแล้วพูดเสียงดังว่า “เป็นหนึ่งในหัวหน้าอายุน้อยทั้ง 8 คนของหอฝึกสัตว์”

ลู่ฝานพยักหน้าเข้าใจ เขาเคยอยู่ในตระกูลหั่วที่ประเทศตันเซิ่ง พอเข้าใจว่าหัวหน้าที่ว่าทำหน้าที่อะไร

ในเมื่อเป็นหนึ่งใน 8 หัวหน้าของหอฝึกสัตว์ งั้นฐานะก็ไม่ได้ต่ำต้อย

แต่ท่าทางอวดดีตอนไอ้หมอนี่พูดจา ทำให้สีหน้าลู่ฝานอึมครึม

ลู่ฝานก้าวเข้าไปหาหลีซุ่น

เจ้าดำที่อยู่บนไหล่คำรามเบาๆ ทุกก้าวของลู่ฝานทำให้มังกรทองห้ากรงเล็บที่อยู่ล่างตัวหลีซุ่นถอยไปด้านหลังอย่างระแวง เหมือนกำลังหวาดกลัว

บางครั้งสัตว์อสูรพิจารณาถึงอันตรายได้แม่นยำกว่ามนุษย์

สัมผัสถึงพลังแข็งแกร่งบนตัวลู่ฝาน แม้หลีซุ่นรู้ว่าลู่ฝานเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว แต่ไม่คิดว่าลู่ฝานสามารถข่มขู่เขาได้จริงๆ

“พลานุภาพไม่เลว ได้ ฉันจะเล่นกับนายสักสองกระบวนท่า!”

หลีซุ่นพูดเช่นนี้ ยื่นมือไปตบมังกรทองห้ากรงเล็บใต้ตัว

มังกรทองสิงเข้าไปในตัวหลีซุ่นทันที

ทันใดนั้นทุกคนเห็นดวงตาสองข้างของหลีซุ่นกลายเป็นสีทอง

เกราะบนตัวมีแสงเคลื่อนไหว หัวมังกรสีทองรวมตัวอยู่ที่หน้าอกเขา แขนขามีลายมังกรทองกะพริบอยู่ ส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์

พูดตามตรงว่าการแต่งกายของเขาสะดุดตามาก ดูเหมือนฮีโร่มาก!

หลีซุ่นยื่นมือออกมา พูดกับลู่ฝานที่กำลังเดินมาช้าๆ “วิญญาณมังกรคำราม!”

ลำแสงสีทองพุ่งออกมาจากมือเขา ทุกที่ที่ลำแสงพาดผ่านไป มิติแตกกระจาย พื้นดินพังทลาย พลังฟ้าดินรอบๆ โดนบีบอัดจนแน่น จากนั้นลำแสงพุ่งเข้าไปหาลู่ฝาน

กระบวนท่านี้แข็งแกร่งมาก

วิทยายุทธของหลีซุ่นอยู่ในระดับแดนปราณฟ้าชั้นสุดยอด อีกทั้งยังแอบรู้สึกว่ามีปราณหยินหยางเล็กน้อย

ดูจากจุดนี้ ระดับความสามารถของพวกคนอายุน้อยของหอฝึกสัตว์ไม่เลวจริงๆ

แต่สำหรับลู่ฝานก็แค่ไม่เลวเท่านั้น!

ลำแสงพุ่งเข้ามา ลู่ฝานสะบัดฝ่ามือออกไปโดยไม่มอง

ทุกที่ที่ฝ่ามือผ่านไป ปราณชี่ควบแน่น จากนั้นลำแสงที่พุ่งมาด้านหน้าเขาแตกกระจายเป็นประกายแสงเต็มท้องฟ้า

ลู่ฝานเดินไปด้านหน้าต่อ ฝีเท้าไม่ช้าไม่เร็ว แต่กลับมีพลานุภาพกดดันรุนแรงมาก

กระบวนท่าของหลีซุ่นโดนทำลาย จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนโดนภูเขาลูกใหญ่ทับตัว ตัวค่อยๆ จมลงไปทีละนิด

เมื่อถึงระดับแดนอย่างพวกเขา พลานุภาพที่ว่าไม่ใช่แค่พลังฟ้าดินธรรมดาๆ แล้ว

แต่คือวิถีส่วนหนึ่งที่รวมตัวอยู่ในนั้น หลีซุ่นรู้สึกว่าในตัวเริ่มร้อนระอุ นี่คือการควบคุมจากวิถีธาตุไฟชัดๆ

ถ้าเขาไม่สามารถกำจัดวิถีของอีกฝ่ายออกไปได้ อีกเดี๋ยวเขาคงกลายเป็นมนุษย์เพลิงแน่ๆ

หลีซุ่นเอากระบี่ออกมาชี้ลู่ฝาน

ขยับข้อมือ สะบัดกระบี่ยาว เงาเทพมังกรด้านหลังเชื่อมกับฟ้าดิน

ลมเมฆเปลี่ยนสี ดวงอาทิตย์โดนเมฆสีทองโผล่มาบดบัง หลีซุ่นแผดเสียงออกมา จากนั้นพูดทีละคำว่า “เทพมังกร ฟ้า......”

พลังร้อยเท่าของกระบี่ของนักบู๊แดนปราณฟ้าที่เหนือกว่าคนทั่วไปโจมตีลงมา หลีซุนเบิกตาโตทันที ใบหน้าตกตะลึง คมกระบี่ดุดันฟันลงบนตัวเขาเหมือนมีด

เขาอยากหลบ แต่พบว่าตัวเองไม่สามารถหลบได้

กระบี่ของลู่ฝานกลายเป็นกรงคุกฟ้าดิน พลังฟ้าดินรอบๆ รวมถึงวิถีแห่งฟ้าดิน ขังเขาไว้ข้างในโดยอัตโนมัติ

เขาอยากต้านทาน แต่รู้สึกว่าพลังของลู่ฝานเหนือกว่าขอบเขตที่เขาจะต้านทานได้

ตอนนี้เขาทำได้เพียงรวมพลังทั้งร่างกายไว้ที่ตัว เกราะสีทองรวมตัวเป็นทรงกลมปกคลุมเขาไว้ข้างใน พยายามต้านทานกระบี่ของลู่ฝาน!

ตูม!

เสียงระเบิดทำให้สะเทือนไปทั้งตำหนัก

ไม่ไกล จางเยว่หานที่กำลังทำงานอยู่ในตำหนัก เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

เศษพลังที่กระจายมาทำให้เธอหวาดผวา จางเยว่หานรีบเดินไปด้านหลังตำหนักโดยไม่สนใจเสียงตะโกนของคนข้างๆ

ฝุ่นควันลอยกระจายไปตามลม เมื่ออู่คงหลิง ฮ่วนเย่ว์และหนานกงสิงมองไปทางลู่ฝาน พวกเขาเห็นร่างเปื้อนเลือดนอนอยู่บนพื้น รวมถึงหลุมลึกขนาดใหญ่มาก

พลานุภาพจากการโจมตีด้วยกระบี่เดียวรุนแรงมาก

ลู่ฝานเหาะออกมา มองฮ่วนเย่ว์แล้วพูดว่า “เขาเป็นของเธอแล้ว จัดการได้ตามสบาย! แต่ห้ามปล่อยไปเด็ดขาด”

ฮ่วนเย่ว์พยักหน้าอย่างงุนงง เธอยังตกอยู่ในความตกตะลึง

ลู่ฝานเหาะมาข้างอู่คงหลิง จู่ๆ อู่คงหลิงเข้ามากอดแขนลู่ฝานแล้วพูดว่า “หัวหน้าสำนักเก่งมากจริงๆ เมื่อไรจะชี้แนะฉันบ้าง!”

ลู่ฝานพูดว่า “มีโอกาสอยู่แล้ว”

หนานกงสิงเดินไปที่ขอบหลุมขนาดใหญ่ มองหลีซุ่นที่อยู่ข้างในแล้วพูดว่า “หาเรื่องใครไม่หาเรื่อง ดันมาหาเรื่องถึงที่นี่ คนก่อกรรมทำชั่วสมควรตาย ครั้งนี้หอฝึกสัตว์ของพวกนายคงเสียหายอย่างหนักแล้วล่ะ!”

ระหว่างพูด หนานกงสิงปรบมือเรียกคนใช้รอบๆ พวกคนใช้รีบมาแบกหลีซุ่นออกไป

จินตนาการได้เลยว่าต่อไปหลีซุ่นคงใช้ชีวิตลำบากแล้วล่ะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า