สรุปตอน บทที่ 1952 พูดชมตนเอง – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น
ตอน บทที่ 1952 พูดชมตนเอง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ลู่ฝานมองไปยังธิดาเทพแห่งไฟ โดยที่ไม่ได้พูดตอบเจี่ยหมิง
เจี่ยหมิงสับสนงุนงงไปหมดแล้ว ชี้ไปยังธิดาเทพแห่งไฟและพูดขึ้นว่า “เธอรู้จักเงามืดคนนี้ด้วยเหรอ? ”
ธิดาเทพแห่งไฟกัดฟันและมองไปที่ลู่ฝานและพูดว่า “นายอย่าเข้ามายุ่ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย ระวังจะถูกลงโทษ! ”
ลู่ฝานเข้าใจดีว่าคำพูดของธิดาเทพแห่งไฟหมายความว่าอย่างไร
ดูเหมือนว่า คำสั่งที่ให้ธิดาเทพแห่งไฟตามติดเจี่ยหมิงนั้น จะเป็นสิ่งที่เบื้องบนได้กำหนดมา
ถ้าไม่ใช่ความคิดของพวกผู้ฝึกชั่วร้ายอาวุโส ก็คงจะเป็นความคิดของเฟิงเทียน
แต่ลู่ฝานไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ได้แต่มองไปยังธิดาเทพแห่งไฟและพูดขึ้นว่า “เธอคิดจะขับไล่ฉันเหรอ? ต้องขอโทษด้วย ฉันคิดจะขับไล่เธอไปต่างหาก ฉันจะนับสามครั้ง ถ้าหากเธอยังไม่ไป ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ! ”
เจี่ยหมิงได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของลู่ฝานแล้ว ก็รู้สึกได้ว่ามีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลขึ้นแล้ว
ขณะนั้น เจี่ยหมิงก็ชักกระบี่ยาวของตนเองออกมา ชี้ไปยังลู่ฝานและพูดว่า “เงามืด นายอย่ามาก่อเรื่อง นี่คือผู้หญิงของฉัน! ”
สิบสามสายตาเย็นชา และก็ถือกระบี่ยาวในมืออย่างแน่น
ลู่ฝานเหมือนว่ามองไม่เห็นเจี่ยงหมิงอย่างไรอย่างนั้น โดยสายตาจ้องเขม็งไปที่ธิดาเทพแห่งไฟ
เขากำลังครุ่นคิดว่า ตอนนี้จะลงมือสังหารธิดาเทพแห่งไฟเลยหรือไม่
กำลังทำการพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียอยู่!
ธิดาเทพแห่งไฟตกใจและหวาดกลัวต่อท่าทีของลู่ฝานไปหมดแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมถอดใจ เพราะกว่าที่เธอจะล่อหลอกจนได้รับความเชื่อใจจากเจี่ยหมิงนั้นมันไม่ง่ายเลย แล้วจะมาล้มเลิกลงกลางคันได้อย่างไร อย่างนั้นก็เท่ากับว่าเมื่อครู่ถูกเจี่ยหมิงลูบคลำไปเสียเปล่า ๆ เลย ซึ่งเธอนั้นยังไม่เคยเสียเปรียบแบบนี้มาก่อน!
ธิดาเทพแห่งไฟค่อย ๆ พูดขึ้นทีละคำว่า “เงามืด นายเหมือนจะไม่ได้ฟังอย่างชัดเจนสินะ ที่ฉันบอกว่าเบื้องบน......”
ลู่ฝานขัดจังหวะคำพูดของธิดาเทพแห่งไฟ และพูดว่า “หนึ่ง! ”
เจี่ยหมิงมองไปที่ลู่ฝาน และก็มองไปที่ธิดาเทพแห่งไฟ แล้วก็ตะโกนขึ้นว่า “พวกเธอมองเห็นฉันบ้างไหม ฉันกำลังพูดกับพวกเธออยู่นะ! ”
สายตาของธิดาเทพแห่งไฟก็พลันเย็นชาขึ้น และพูดว่า “นายกำลังรนหาเรื่องอยู่ นายจะต้องตายลงอย่างอนาถ! ”
ลู่ฝานพูดต่อว่า “สอง! ”
เจี่ยหมิงรีบเคลื่อนตัวมายังด้านหน้าของธิดาเทพแห่งไฟ แล้วก็ใช้กระบี่ยาวชี้จ่อไปที่ลำคอของลู่ฝานและพูดขึ้นว่า “เงามืด นายมาเพื่อก่อเรื่องโดยเฉพาะใช่หรือไม่? ”
ลู่ฝานมองไปที่เจี่ยหมิง และพูดว่า “ฉันกำลังช่วยชีวิตนายอยู่! ”
ธิดาเทพแห่งไฟตะโกนพูดว่า “เงามืด นายรังแกกันเกินไปแล้ว! ”
ลู่ฝานยิ้มและพูดว่า “สาม! ”
ขณะที่พูด ใต้ฝ่าเท้าของลู่ฝานก็ปล่อยเขตวิถีออกมา
ทันใดนั้น ก็ทำให้เจี่ยหมิงพุ่งกระเด็นออกไปนับหลายสิบเมตร และล้มกระแทกลงที่พื้นอย่างรุนแรง!
ธิดาเทพแห่งไฟก็รีบปล่อยเขตวิถีของตัวเองออกมาด้วย ซึ่งเขตวิถีสีแดงเพลิงได้ปกคลุมตัวเธอเอาไว้ โดยแสงไฟก็ยังสะท้อนไปถึงดวงตาของเจี่ยหมิงด้วย
ขณะนั้น เจี่ยหมิงที่กำลังคลานลุกขึ้นจากพื้น ก็ตกตะลึงไปหมด!
กระบี่หนักไร้คม ก็พลันปรากฏขึ้นในมือของลู่ฝาน
ชูกระบี่หนักขึ้น ท่าทางของลู่ฝานก็เริ่มเปล่งพลังขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะสู้กับนายอย่างสุดชีวิตเลย! ”
ธิดาเทพแห่งไฟตะโกนขึ้น แล้วก็กลายร่างเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าสังหารลู่ฝานทันที
ลู่ฝานใช้กระบี่ฟาดฟันลงไปบนลำแสง อย่างไม่ลังเล
เจี่ยหมิงพูดพึมพำขึ้นกับตนเอง
ลู่ฝานสอบถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “นายพูดอะไรเหรอ? ”
เจี่ยหมิงส่ายศรีษะไม่หยุดและพูดว่า “ไม่มีอะไร คืนวันนี้ต้องขอขอบคุณที่สหายเงามืดได้ช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหากฉันมีอะไรต่อไปกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ ล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ตามมาคงจะเลวร้ายเกินคาดเดา”
ลู่ฝานหัวเราะฮ่าฮ่าและพูดว่า “สมควร มันสมควรอยู่แล้ว ฉันเคารพนับถือในตัวของสหายลู่ฝาน มาเป็นเวลานานแล้ว ได้ยินว่าคุณลู่ฝานหน้าตาหล่อเหลา กล้าหาญชาญชัย ผู้ใดพบเห็น ก็รักและชื่นชอบ ผู้หญิงพบเห็นก็ยิ่งจะอยากโผเข้ามาโอบกอด เด็ดเดี่ยวไม่สะทกสะท้าน โคแก่ชอบกินหญ้าอ่อน......”
ลู่ฝานเริ่มพูดชื่นชมประจบอย่างจริงจัง คุยโวจนน้ำลายแตกฟอง ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง
ภายในร่างกาย เจดีย์เสวียนเก้ามังกรทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว โดยได้ส่งเสียงออกมาว่า“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ตนเองชื่นชมตนเอง มันน่าสนุกนักเหรอ? ”
ลู่ฝานพูดตอบกลับในใจว่า “น่าสนุกแน่นอนอยู่แล้ว! ”
เจี่ยหมิงถูกลู่ฝานพูดชมจนเขินอายขึ้นบ้างแล้ว จึงส่ายมือไปมาและพูดว่า “ที่ไหน ที่ไหนกันล่ะ สหายเงามืดพูดชมเกินไปแล้ว ฉันจะดีเหมือนอย่างที่นายพูดได้อย่างไรกัน! ”
ลู่ฝานเหลือบตาขาวใส่ แอบพูดในใจว่า “เดิมทีก็ไม่ได้พูดชมนายสักหน่อย”
เจี่ยหมิงทำทียื่นมือขวาออกมา และพูดว่า“สหายเงามืด ขอบคุณนายที่ในคืนนี้ได้ช่วยเหลืออย่างชอบธรรม ฉันขอเชิญนายดื่มสักแก้ว”
ลู่ฝานยิ้มและพูดว่า “ได้เลย ฉันยังอยากฟังสหายลู่พูดเล่าเรื่องของการฝึกทั้งบู๊และชี่อีก ต้องขอโทษด้วยที่ฉันคนนี้พูดตรงไปตรงมาสักหน่อย ฉันอยากที่จะฟังเรื่องนี้ และเรื่องประวัติความเป็นมาของสหายลู่ด้วย ได้ยินว่าตำนานร่ำลือเกี่ยวกับนายนั้นมีอยู่มากมายเลย! ”
เจี่ยหมิงส่ายมือไปมาและพูดว่า “ก็แค่เรื่องเล็กน้อยที่ไม่สมควรจะไปพูดถึงหรอก แต่ในเมื่อสหายเงามืดอยากจะรับฟัง ฉันก็จะพูดเล่าให้กับนายฟัง! ”
เมื่อพูดจบ เจี่ยหมิงกับลู่ฝานก็ค่อย ๆ เดินลงมาจากรถม้า ทั้งสองคนพูดคุยหัวเราะกันไป อย่างกับทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ผู้ฝึกชั่วร้ายอาวุโสหลายคนกำลังมองดูเหตุการณ์นี้อยู่ในระยะไกล
ผู้อาวุโสที่มีใบหน้าซีกเดียวพูดขึ้นว่า “ควรจะทำอย่างไรกันดี? ”
ผุ้อาวุโสซู่มั่นยิ้มและพูดตอบกลับว่า “ควรจะทำอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...