เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1963

การประลองที่ดุเดือด จบลงด้วยวิธีการนี้ ซึ่งทำให้หลายคนตกตะลึงจริงๆ

มองดูท่าทางที่เจ้าดำบิดก้นอย่างต่อเนื่อง คนกลุ่มหนึ่งมีสีหน้าแปลกประหลาด และพูดอะไรไม่ออกสักคำ

เป็นเวลานาน ลู่ฝานถึงได้โบกมือให้กับเจ้าดำ

ทันใดนั้น ร่างของเจ้าดำก็หดกลับไปบนไหล่ของลู่ฝาน น่ารักเหมือนลูกหมา

เมื่อมองไปที่พื้นเกาะอีกครั้ง ที่นั่นมีหลุมลึกขนาดใหญ่อยู่แล้ว

ผงหินจำนวนนับไม่ถ้วนลอยหายไปกับสายลม และร่างของจั่วหยุนตงอยู่ที่ใจกลางของหลุมลึก

ไม่ว่ายังไงก็ตาม จั่วหยุนตงก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนปราณฟ้าชั้นสุดยอดที่มีร่างอมตะ เจ้าดำใช้ก้นบดขยี้เขาให้ตายจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้

แต่ว่า จั่วหยุนตงในเวลานี้ก็โดนนั่งจนเป็นลมหมดสติไปแล้ว

ไม่รู้ว่า โดนเจ้าดำนั่งทับจนหมดสติไป หรือว่าหมดสติไปเพราะเหม็นก้นของเจ้าดำ

ต้องรู้ว่า ในฐานะสัตว์อสูร เจ้าดำไม่มีนิสัยชอบเช็ดก้นหลังจากนั่งยองๆในห้องน้ำเสร็จ

หลังการต่อสู้จบลง ลู่ฝานบินออกจากเกาะ จั่วหยุนตงก็ถูกกลุ่มผู้ฝึกชี่ของประเทศฉิงเทียนลากตัวออกไป ได้รับการรักษาฉุกเฉิน เมื่อพิจารณาถึงสมรรถภาพทางกายแล้ว คาดการณ์ว่าใช้เวลาไม่นาน จะฟื้นขึ้นเอง

ในเวลานี้สามอริยบุคคลก็เริ่มเป็นผู้นำในการปรบมือ

นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มการแข่งนานาประเทศ

ส่วนประมุขประเทศทั้งหมดก็รีบปรบมือในทันที และฝูงชนด้านล่างโห่ร้องมากยิ่งขึ้น

สายตาของสามอริยบุคคลมองดูลู่ฝานดูเหมือนจะมีรอยยิ้ม

ทุกคนกำลังคาดเดาว่า สามอริยบุคคลจะต้องพิจารณารับลู่ฝานเป็นลูกศิษย์แน่ๆ

ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลู่ฝานแล้วว่าตัวเองจะเลือกใครเท่านั้นเอง!

ลู่ฝานเองไม่ได้คิดอะไร แต่คนอื่นๆก็เริ่มชื่นชมแล้ว

นี่คือสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน แต่เมื่อเกิดกับตัวของลู่ฝาน ยังสามารถเลือกได้ด้วย

คนที่ชอบเปรียบเทียบกับใครต่อใครช่างน่าโมโหนักจริงๆ

แม้ว่าตอนนี้ลู่ฝานจะเข้าสู่อริยปราชญ์แล้ว แต่การไหว้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเป็นอาจารย์ ก็ไม่มีปัญหา

เพราะสำหรับอริยบุคคล ปราณนอก ปราณดิน ปราณฟ้าและเซียนบู๊ ไม่มีความแตกต่างอะไร

เหมือนคนคนหนึ่งก้มดูมดตัวหนึ่ง มดตัวนี้อาจตัวใหญ่กว่ามดตัวอื่นนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นแค่มดเท่านั้นเอง

นอกจากมันกลายเป็นคน ไม่อย่างนั้นก็เหมือนกันหมด

ลู่ฝานบินลงมาข้างกายของหนานกงสิง อู่คงหลิงพูดกับลู่ฝานอย่างยิ้มแย้มว่า “ยินดีกับนายด้วย ในที่สุดก็ก้าวเข้าสู่แดนหยินหยางแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายก็เป็นเซียนบู๊ที่แท้จริง”

ใบหน้าของหนานกงสิงก็เต็มไปด้วยความอิจฉา ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “เซียนบู๊ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง มันยังเหลืออีกครึ่งทาง”

คำพูดแปลกๆนี้ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาได้ยิน คงจะไม่เข้าใจอย่างแน่นอน

แต่หนานกงสิงกับอู่คงหลิงก็เป็นคนที่เข้าใจ และทั้งคู่ก็เข้าใจความหมายในคำพูดของลู่ฝาน

ในฐานะผู้ฝึกทั้งบู๊และชี่ ตอนนี้สิ่งที่เรียกว่าเซียนบู๊ของลู่ฝาน ถือได้ว่าเป็นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

เมื่อไหร่ เขาทะลวงกลายเป็นอริยปราชญ์อีก ถึงจะเข้าสู่อริยปราชญ์อย่างสมบูรณ์

พลังของคนธรรมดาไม่สามารถเปลี่ยนพลังหยินหยางได้ ก็เป็นเพียงพลังเฉียนคุน

แต่สำหรับลู่ฝาน นี่ยังคงเป็นปัญหาของการเปลี่ยนแปลง เขาเห็นฉากที่เย่หนานเทียนเข้าสู่อริยปราชญ์ ก็พบหลักการเปลี่ยนปราณชี่กลายพลังหยิงหยาง ดังนั้นเขาเข้าสู่เซียนบู๊ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาปราณชี่ของเขาสามารถเปลี่ยนเป็นพลังหยิงหยางได้ตลอดเวลา

แต่ปราณชี่ของเขาไม่ได้หายไป พลังหยิงหยางก็ราวกับพลังวิญญาณ เพียงแต่เป็นมีวิธีหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นรอตอนที่เขารู้แจ้งพลังแห่งเฉียนคุน ปราณชี่ของเขาก็สามารถเปลี่ยนเป็นพลังเฉียนคุนได้โดยธรรมชาติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า