อ่านสรุป บทที่ 2000 เอ้อระเหยลอยชายมาสาย จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น
บทที่ บทที่ 2000 เอ้อระเหยลอยชายมาสาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เปรี้ยง!
ฟ้าร้องสั่นสะเทือน และสายฟ้าแลบบนท้องฟ้า
ในก้อนเมฆสีดำ ดูเหมือนจะมีงูฟ้านับหมื่นพันตัวกำลังวิ่งห้อ แสงที่น่าหวาดเสียวนั้น ยิ่งอยู่ยิ่งสว่างขึ้นเรื่องๆ และฝนก็ตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
“เงามืด!”
ผู้คนนับไม่ถ้วนตั้งหน้าตั้งตารอ รอคอยการมาถึงของเงามืด
ในหอในระยะไกล เฟิงเทียนซึ่งสวมชุดเกราะเทพปีศาจ ก็จ้องมองไปที่เกาะ
ข้างกายของเขา ผู้อาวุโสซู่มั่นไม่อยู่ และมีเพียงผู้อาวุโสที่เหลืออยู่บางคนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีธิดาเทพแห่งความมืดที่ไม่ได้ปรากฏตัวเป็นเวลานาน
“คงจะไม่ใช่ว่าไม่กล้ามาหรอกนะ!”
ธิดาเทพแห่งความมืดพูดอย่างใจเย็น
นับตั้งแต่ที่เธอมีปัญหาในการดูแลตำหนักหมิงฉี่ครั้งก่อน ก็ส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองมาโดยตลอด
จนถึงวันนี้ ในที่สุดเธอก็ออกมาอีก
คุณชายเฟิงเทียนไม่ได้พูดอะไร ยังคงรออย่างเงียบ ๆ
บนเกาะ ซูตงก็รออย่างนิ่งสงบ สายตามองไประยะไกล!
เวลาหนึ่งก้านธูป สองก้านธูปก็ผ่านไป ลู่ฝานยังคงไม่ปรากฏตัว
ในเวลานี้ ท่ามกลางฝูงชน เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมาแล้ว
“วันนี้เกิดอะไรขึ้น เงามืดยังมาไม่ถึง สามอริยบุคคลก็ยังมาไม่ถึง และประมุขประเทศเกือบทั้งหมดก็มาไม่ถึง!”
“หรือว่าฉันจะจำเวลาผิดงั้นเหรอ? ทั้งที่วันนี้เป็นการนัดครั้งสุดท้าย? ซูตงก็มาแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น เงามืดได้ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขันหรือเปล่า แต่พวกเราไม่รู้!”
“หรือว่าเงามืดขี้ขลาดตาขาวรักตัวกลัวตายขนาดนี้เลยเหรอ? ในฐานะนักบู๊ จะไม่ได้ต่อสู้เพื่อเกียรติยศ เลือกที่จะถอนตัวในวินาทีสุดท้าย ทำให้ฉันดูถูกเขาจริงๆ!”
“เงามืด ต่อให้นายจะถอนตัว อย่างน้อยๆก็ต้องปรากฏตัวอธิบายอธิบายเหตุผลสิ!”
“เงามืดออกมา!”
……
บางทีอาจเป็นเพราะสภาพอากาศ บางทีก็อาจเป็นเวลาที่รอนานเกินไป
ทุกคนเริ่มโห่ร้องอย่างโกรธเคือง
ถึงขนาดบางคน เริ่มทำการด่าทอต่อลู่ฝาน ใครก็ตามที่รออยู่ท่ามกลางฝนตกหนักนานขนาดนี้ ผลปรากฏว่าไม่เห็นอะไรเลย ก็โกรธทั้งนั้น
บนเกาะ สายตาของซูตงเปลี่ยนเป็นเย็นชาลงทีละน้อย และพึมพำว่า “เงามืด นายไม่กล้ามาจริงๆสินะ ไอ้สารเลว!”
ในหอ คุณชายเฟิงเทียนรอจนหงุดหงิดมากอย่างเห็นได้ชัด
ใบหน้าเย็นชา ลุกขึ้นมาพูดว่า “น่าเบื่อ น่าเบื่อมาก ดันทำให้ฉันผิดหวัง ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ ฉันไม่ควรมองคนหน้าซื่อใจคดเหล่านี้ให้สูงส่งเลยจริงๆ พวกเขาขาดความเด็ดเดี่ยวมาแต่ไหนแต่ไร!”
คุณเฟิงเทียนยกมือขึ้น กำลังจะออกคำสั่งแล้ว
แต่ในขณะนี้ จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“ประมุข มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบ ดูเหมือนว่าเธอจะนำข่าวพิเศษบางอย่างมาให้”
คุณชายเฟิงเทียนหันหน้ามาพูดว่า “ข่าวอะไร? ให้เธอเข้ามา”
ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาอย่างสง่า เดินมาหยุดห่างจากคุณชายเฟิงเทียนสิบก้าว
ผ้าคลุมใบหน้า ท่าทางดูสง่างาม ถ้าไม่ใช่อู่คงหลิงจะเป็นใครไปได้อีก
เฟิงเทียนพูดว่า “เธอมีข่าวอะไรจะบอกกับฉัน? ฉันบอกกับเธอเลย ถ้าหากข่าวที่เธอพูด ทำให้ฉันรู้สึกน่าเบื่อ วันนี้เธอจะตายได้น่าเกลียดมาก!”
อู่คงหลิงก้มหัวลงไปทำความเคารพ และพูดว่า “รายงานประมุข สิ่งที่ฉันนำมาในวันนี้คือข่าวเกี่ยวกับลู่ฝาน!”
เฟิงเทียนพูดอย่างบูดบึ้ง “เธอกำลังพูดถึงไอ้เศษสวะที่ไม่สามารถแม้แต่จะสู้เข้ารอบสี่อันดับแรกได้เหรอ? ฉันไม่มีอารมณ์จะฟังเรื่องของเขา!”
อู่คงหลิงพูดเสียงดังว่า “คนคนนั้นไม่ใช่ลู่ฝาน! เขาชื่อเจี่ยหมิง เป็นผู้แอบอ้างลู่ฝานตัวจริง”
คุณชายเฟิงเทียนเลิกคิ้วพูดว่า “งั้นเหรอ? งั้นเธอจะบอกกับฉันว่าลู่ฝานตัวจริงอยู่ไหนเหรอ?”
อู่คงหลิงพยักหน้าพูดว่า “ใช่ หัวหน้าสำนักได้โปรดอดทนรอสักครู่ เขาจะมาในไม่ช้านี้แล้ว”
ดวงตาของคุณชายเฟิงเทียนเป็นประกาย ดูเหมือนจะคิดอะไรได้
ทั่วประเทศฉิงเทียน ทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลงบนพื้นดิน
เพียงแต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ถูกม่านแสงบนท้องฟ้าดึงดูดสายตาอย่างรวดเร็ว
เพราะลู่ฝานได้ลงมาอยู่บนเกาะในเวลานี้แล้ว
มีเสียงดังโครมคราม เจ้าดำพาลู่ฝานลงมาบนเกาะ
เพียงแค่ครู่เดียว ก็ทำให้เกาะเต็มไปด้วยรอยร้าว และเต่ามังกรที่อยู่ใจกลางเกาะก็หดคอกลับไป
“ฉันยังคิดว่า นายจะไม่มาแล้ว!”
ซูตงมองดูลู่ฝานด้วยสายตาเยือกเย็น และร่างกายก็เริ่มมีพลังเพิ่มขึ้น
เจ้าดำที่อยู่ภายใต้ร่างของลู่ฝาน กลายเป็นลำแสงเข้าสู่ในร่างกายของเขาในทันที
กระบี่หนักไร้คมยกขึ้นต่อหน้า ลู่ฝานพูดว่า “ทำอะไรต้องเสมอต้นเสมอปลาย ในเมื่อมาเข้าร่วมการแข่งนานาประเทศ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ต่อสู้จนจบ นอกจากนี้ การต่อสู้ระหว่างเธอกับฉันในครั้งนี้ ก็เป็นสิ่งที่เธอเฝ้ารอมานานแสนนาน แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเข้าใจว่า เป็นเพราะอะไรกันแน่”
ซูตงตอบว่า “เพราะนายทำให้ฉันเสียชีวิตของตัวเองไป นายทำให้ฉันกลายเป็นสภาพแบบนี้ นายทำให้ฉันมีพลังแบบนี้!”
ซูตงโบกฝ่ามือเบาๆ รอยฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นบนหน้าอกของลู่ฝานในทันที
จากนั้นก็ลงมือ คนอย่างซูตง ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อะไรเลยจริงๆ
ลู่ฝานยังคงไม่ขยับเขยื้อน และเช็ดรอยฝ่ามือบนร่างกายออกอย่างสบายๆ
เขารู้สึกได้ว่าฝ่ามือของซูตงใช้วิถีลิขิตฟ้า พลังอันทรงพลังก็พยายามจะฆ่าเขาในทันที
น่าเสียดาย ท่านี้มีผลกับผู้อื่น
สำหรับลู่ฝานที่มีวิถีแห่งชีวิต กลับมีผลไม่ค่อยมากนัก
ตอนนั้นผู้เป็นอมตะก็อาศัยวิถีแห่งชีวิตต่อสู้กับวิถีลิขิตฟ้าของเทพบู๊เสินเซียว แม้ว่าตอนนี้ลู่ฝานจะไม่มีระดับของผู้เป็นอมตะ แต่ซูตงก็ไม่มีระดับของเทพบู๊เสินเซียวไม่ใช่เหรอ?
รูม่านตาของซูตงหดตัวลงชั่วขณะ และเขาก็รับการเคลื่อนไหวของเธอไว้ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ?
ลู่ฝานยกกระบี่หนักไร้คมขึ้น ปลายกระบี่ชี้ตรงไปที่ซูตง
“วิถีลิขิตฟ้า พลังชีวิตผ่านไปเหมือนสายน้ำ ฉันเข้าใจแล้ว แต่ถ้าเธอคิดว่าทั้งหมดเป็นเพราะฉัน งั้นเธอก็คิดผิดแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...