เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2001

สรุปบท บทที่ 2001 ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง (1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 2001 ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง (1) – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2001 ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง (1) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าฉันฆ่านายได้ ฉันก็รอด ถ้าฉันฆ่านายไม่ได้ ฉันก็แค่ตาย ง่ายๆ!”

ซูตงกล่าวอย่างหนักแน่น สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยเพราะคำพูดของลู่ฝาน

สำหรับเธอแล้ว เหตุผลอะไรนั่น ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาคิดคำนึงอีกต่อไป

สิ่งที่สำคัญมีเพียงผลลัพธ์เท่านั้น!

ทันใดนั้นเสียงร่ายรำดาบก็ดังขึ้น มันดังสั่นสะท้านไปทั่วท้องฟ้า แสงสว่างที่อยู่โดยรอบถูกกลืนกินไปจนหมดสิ้น ในหูเหลือเพียงเสียงดาบที่ดูเหมือนจะไม่มีวันหยุดลงเลย

สายตาของเกือบทุกคน จมดิ่งลงสู่ความมืดในทันที

ร่างของลู่ฝานและซูตงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ทันใดนั้น เสียงดาบที่ดังก้องอยู่ในหูของทุกคนก็กลายเป็นเสียงระเบิดแห่งความโกรธเกรี้ยว

เสียงฟ้าร้องบนท้องฟ้า ขณะนี้ถูกปกคลุมด้วยเสียงระเบิด

ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามลืมตาอย่างไร ก็ยังคงมองไม่เห็นอะไรเลย

ในขณะที่พวกเขากระวนกระวายใจ

ทันใดนั้น ลมหายใจที่เฉียบคมก็พุ่งเข้ามา

ไม่ว่าใคร ไม่ว่าจะมองจากมุมใด ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ทันที ราวกับว่ามันได้แทรกซึมผ่านเข้าไปในร่างกายของพวกเขาด้วยวิญญาณแห่งความมืด ซึมซาบเข้าไปในโครงกระดูกของพวกเขา

แม้แต่คนที่มองดูผ่านม่านแสง ต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้น ความมืดในดวงตาของพวกเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

ราวกับว่าผืนผ้าใบสีดำที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาถูกฉีกออก และในที่สุดทุกคนก็เห็นร่างทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนท้องฟ้า

หากบอกว่ามันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่ความจริงแล้วพวกเขาสองคนไม่ได้เคลื่อนไหวเลย เป็นเพียงการปะทะกันของอาวุธเท่านั้น

ในขณะนี้ทั้งสองคนต่างหลับตาลง

ในเขตวิถี ปราณชี่ในร่างกายพลุ่นพล่านอย่างบ้าคลั่ง

ในขณะนี้ ลู่ฝานจึงได้แสดงความสามารถที่แท้จริงของเขาออกมา

แรงระเบิดของปราณชี่อันน่าสะพรึงกลัว ถูกปลดปล่อยออกมาจากเขตวิถี ลู่ฝานต้องการใช้เขตวิถีของตนเพื่อเข้าจัดการกับซูตง

แต่สิ่งที่ลู่ฝานคิดไม่ถึงก็คือ ช่วงเวลาที่พลังของเขาสัมผัสกับซูตง ทันใดนั้นลู่ฝานก็สังเกตเห็นว่า พลังจากดาบในมือของซูตงนั้นมีไม่มากเท่าไหร่นัก

โดยเป็นการรวมตัวกันของเขตวิถีร่างกาย เพียงแต่เขตวิถีที่ซูตงรวบรวมเอาไว้นั้น ไม่ใช่เขตวิถีของตัวเอง มีเพียงแต่วิถีลิขิตฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว

ความคิดของทั้งสองคล้ายกัน

พวกเขาต่างใช้พลังดุเดือดเพื่อจัดการกับคู่ต่อสู้ ตราบใดที่ได้เปรียบ จงเข้าโจมตีทุกทาง

แต่น่าเสียดายที่ความคิดของทั้งสองคนไม่เป็นจริงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเขตวิถีของลู่ฝานจะแข็งแกร่ง และระเบิดได้ แต่เมื่อเทียบกับวิถีลิขิตฟ้าก็ยังคงอ่อนแอกว่าเล็กน้อย

แม้เขตวิถีของซูคงจะเลวร้าย แต่นั้นคือวิถีลิขิตฟ้า อันแข็งแกร่ง

เพราะเธอไม่ใช่คนที่ฝึกฝนทีละขั้นตอน ดังนั้นสำหรับการควบคุมของเขตวิถี เธอจึงไม่แข็งแกร่งเท่าลู่ฝานที่อยู่ในเขตวิถี

แต่ถึงกระนั้น ลู่ฝานก็สามารถต่อสู้กับเธอในสถานการณ์ที่เสมอกัน

พลังทั้งสองปะทะกัน ทุกสิ่งรอบตัวระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ

ในสถานการณ์ที่ลู่ฝานและซูตงเผชิญหน้ากัน ทั้งสองต่างไม่มีเจตนาที่จะถอยเลยแม้แต่น้อย กลับกันยิ่งเพิ่มพลังในมือมากขึ้นกว่าเดิม

ในขณะที่ทั้งสองใช้เขตวิถีมาต่อสู้กัน ขณะเดียวกันก็เผชิญหน้ากันด้วยกำลังทางกาย

ในขณะนี้ ร่างของซูตงเริ่มเผาไหม้ด้วยเปลวไฟโลหิต

ร่างกายของลู่ฝานก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟดำ

หากไม่ใช่เพราะร่างของทั้งคู่ไม่มีออร่าปีศาจ ไม่เช่นนั้นฉากในตอนนี้คงจะดูเหมือนมีปีศาจสองตัวกำลังต่อสู้กันอยู่จริงๆ

“เปลี่ยน!”

ทันใดนั้นซูตงก็คำรามออกมาเสียงดัง เธอรู้สึกได้ว่า หากยังต่อสู้กับลู่ฝานเช่นนี้ต่อไป เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะชนะได้หรือไม่

หากต้องการจะชนะจริงๆ ก็จำต้องแสดงเล่ห์เหลี่ยมออกมา!

ทันทีที่คำว่า “เปลี่ยน” ออกมา มันก็กระตุ้นพลังฟ้าดินและพลังแห่งเต๋าจำนวนนับไม่ถ้วนในทันที ลู่ฝานก็พบว่าเขตวิถีของตนไม่เป็นไปตามคำสั่งเล็กน้อย อีกทั้งปราณชี่ในร่างกายของเขายังมีแนวโน้มที่จะถูกยับยั้ง

ลู่ฝานกัดฟันแน่น และทันใดนั้นก็ดึงกระบี่หนักไร้คมกลับมาขวางข้างหน้าเขา

ฝืนชะตาฟ้าลิขิต ที่สำคัญคือ คำว่า ‘เปลี่ยน’ คำนั้น

เธอฝืนบังคับเปลี่ยนวิธีโจมตีเขตวิถีของลู่ฝาน และยังต้องการเปลี่ยนปราณชี่ในร่างกายของลู่ฝาน ให้ลู่ฝานพังทลายลงด้วยตัวของเขาเอง

โดยต้องบอกว่า อุบายนี้ร้ายกาจมาก และยังทรงพลังมากพอสมควร

มีเพียงผู้ที่ครอบครองวิถีลิขิตฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถใช้วิชาที่ทรงพลังอย่างยิ่ง และแม้แต่ผีและเทพก็ไม่สามารถทำนายได้

ทว่าลู่ฝานไม่ใช่คนที่จะสามารถจัดการได้ง่าย

ทันทีที่สิ้นเสียงของซุตง ลู่ฝานก็เข้าไปตบไหล่ของซูตงทันที

ฝ่ามือนี้รวดเร็วราวกับสายฟ้า

ก่อนที่ซูตงจะทันได้ตั้งตัว เธอก็ถูกฝ่ามือของลู่ฝานเข้าเต็มๆ

“พลังระเบิด!”

พลังฝ่ามือนั้นไม่มากนัก เพียงแต่มีบางสิ่งที่น่าสนใจ ฝ่ามือของลู่ฝานเปล่งประกายด้วยแสง ซูตงยืนนิ่งราวกับกลายเป็นหิน

ซูตงส่งเสียงทอดถอนใจออกมา ลู่ฝานเองก็กัดฟันของตัวเองไว้แน่น

ทั้งสองตกลงมาจากท้องฟ้าทันทีในเวลาเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า