เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2032

สรุปบท บทที่ 2032 บุกฝ่าวงล้อม (1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

อ่านสรุป บทที่ 2032 บุกฝ่าวงล้อม (1) จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

บทที่ บทที่ 2032 บุกฝ่าวงล้อม (1) คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

กระบี่เปล่งประกายลำแสงอย่างแรงกล้า จนผู้ฝึกชั่วร้ายต้องถอยร่นลงไป

กระบี่มาอยู่ที่ด้านหน้าของลู่ฝาน และฟาดฟันลงไปราวกับลำแสง จนทำให้กองทัพของผู้ฝึกชั่วร้ายแตกกระเจิง และมุ่งหน้าเข้าสังหารอย่างต่อเนื่อง

ประมุขประเทศตันเซิ่ง และไอ้อ้วนตงที่อยู่ด้านข้างก็ยังมีพลังอานุภาพที่เทียบกับเขาไม่ได้

นี่ไม่ใช่เพราะว่าวิทยายุทธของประมุขประเทศตันเซิ่งและไอ้อ้วนตงด้อยกว่าเขา แต่เพราะลู่ฝานเพิกเฉยไม่สนใจต่อทะเลโลหิตที่โจมตีถาโถมมายังตัวของเขาต่างหาก

เวลานี้ทุกคนพบว่า หลังจากที่ลู่ฝานได้รับการช่วยชีวิตจากประมุขประเทศตันเซิ่งแล้ว เขาก็เหมือนกับว่าจะไม่เกรงกลัวต่อทะเลโลหิตแล้ว

พวกวิญญาณพยาบาทที่โจมตีเข้ามาอย่างสุดกำลังนั้น ก็เหมือนจะเพิกเฉยไม่สนใจลู่ฝานเช่นกัน โดยที่ไม่ได้ไปลงมือกับเขาแต่อย่างใด เอาแต่พุ่งเข้าโจมตีใส่คนอื่นเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ลู่ฝานก็ยิ่งลงมือสังหารได้อย่างสะใจเลยทีเดียว

ด้วยพลังความสามารถของเขาแล้ว หากไม่มีวิทยายุทธระดับเซียนบุ๊สูงสุด แล้วคิดจะต้านทานเขา ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย

โดยเฉพาะในตอนนี้ ลู่ฝานได้เริ่มใช้วิชาฝึกทั้งบู๊และชี่อย่างไม่กังวลใจเลยแม้แต่น้อย

มือขวาใช้กระบี่หนักไร้คมที่แกร่งกล้า มือซ้ายใช้วิชาควบคุมฟ้า ที่ลี้ลับเกินคาดเดา

“วิชากลั่นเก้ามังกรระดับเทพ! ”

ลู่ฝานใช้ฝ่ามือกดไปที่อากาศธาตุ แล้วก็มีมังกรยักษ์เก้าตัวพุ่งทะยานขึ้นมาจากทะเลโลหิตและพุ่งชนเข้าใส่ผู้ฝึกชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหน้าจนกระเด็นกระดอน

พวกผู้ฝึกชั่วร้ายที่เพิ่งจะเหาะเหินนั้น ก็พลันเห็นกระบี่หนักที่ดำสนิทเล่มหนึ่ง ลอยมาอยู่ในระดับสายตา

“กระบี่มังกรเพลิงคำราม! ”

เก้ามังกรรวมเป็นหนึ่ง ลำแสงกระบี่ประกายร่วงตกไปทั่วฟ้า

ผู้ฝึกชั่วร้ายเก้าคนถูกกระบี่ฟันจนตัวขาดออกเป็นสองท่อน ส่วนผู้ฝึกชั่วร้ายคนอื่นที่ไม่ได้ถูกลำแสงกระบี่โจมตีอย่างซึ่งหน้านั้น ก็ถูกระลอกคลื่นพลังซัดกระเด็นไปไกล เลือดพุ่งทะลักทั่วร่างอย่างไม่หยุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นการทำคุณประโยชน์ให้กับทะเลโลหิตไปด้วยเลย

ทางด้านข้าง ประมุขประเทศตันเซิ่งก็มีเหงื่อไหลออกมาบนหน้าผากไม่หยุด

เขาไม่สามารถที่จะพุ่งเข้าจู่โจมอย่างกำเริบเสิบสานแบบลู่ฝานนี้ได้

วิญญาณพยาบาทที่อยู่บริเวณโดยรอบของทะเลโลหิต ก็เหมือนจะบ้าดีเดือดไปแล้ว โดยได้กระโจนพุ่งเข้าใส่ตัวเขาอย่างไม่หยุด

ในความเป็นจริงแล้วสำหรับขุนพลังสุดเหนือฟ้านั้น พวกของอย่างวิญญาณพยาบาทเหล่านี้ หากจะต้องต้านทานก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

แต่ของบางอย่างก็กลัวการก่อตัวรวมกันเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นพวกแมลง หนึ่งหรือสองตัว ก็สามารถเหยียบย่ำให้ตายได้โดยง่าย แต่เมื่อกลายมาเป็นฝูงแมลง ก็จะเกิดเป็นอันตรายภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง

วิญญาณพยาบาทก็เช่นเดียวกัน ด้วยจำนวนที่มากน่ากลัว จนถึงขนาดทำให้ขุนพลังสุดเหนือฟ้าเองก็รู้สึกเจ็บปวดหัวเช่นกัน

ประมุขประเทศตันเซิ่งเองก็รู้ดีว่า วิญญาณพยาบาทแต่ละดวงนั้นก็คือจิตวิญญาณของคนแต่ละคน

พวกผู้ฝึกชั่วร้ายต้องสังหารผู้คนจำนวนมากเท่าไรถึงสามารถรวมตัวกันจนเป็นทะเลโลหิตขนาดนี้ได้?

ต่อให้สังหารผู้คนโดยไม่หยุด ก็คงจะต้องสังหารเป็นเวลาหลายปีทีเดียว!

เตรียมการขนาดนี้ จึงจะสามารถทำให้ขุนพลังสุดเหนือฟ้ารู้สึกถึงความยากลำบาก

“มายืนที่ด้านหลังของฉัน! ”

ลู่ฝานตะโกนขึ้น เพื่อบอกให้ประมุขประเทศตันเซิ่งและคนอื่น ๆ มาอยู่ที่ข้างหลังของเขา แบบนี้ จะทำให้พวกวิญญาณพยาบาทที่อยู่โดยรอบก็เหมือนจะเกรงกลัวอยู่บ้าง จึงลังเลไม่กล้าที่จะขยับเคลื่อนขึ้นไปด้านหน้า

ลู่ฝานรู้สึกว่าตนเองก็เหมือนเป็นราชาแห่งวิญญาณพยาบาท โดยวิญญาณพยาบาทตนอื่นต่างก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ตัวเขาในตอนนี้

นี่เกรงว่าอาจจะเป็นเพราะอริยบุคคลวุ่นวายที่อยู่ภายในร่างกายของเขา ซึ่งลู่ฝานเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งนี้เป็นผลประโยชน์ที่อริยบุคคลวุ่นวายได้ทำให้กับเขาหรือไม่

การที่เซียนบู๊นำพาขุนพลังสุดเหนือฟ้าเดินลุยไปข้างหน้า เรื่องแบบนี้ เรียกได้ว่าพบเจอได้ยากมากในอดีต แต่ในวันนี้กลับเกิดขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว

ไอ้อ้วนตงกับประมุขประเทศตันเซิ่งรวมไปถึงเจ้าสำนักหลีซี ล้วนแต่เป็นผู้ที่ฉลาดมาก

เมื่อเห็นว่าลู่ฝานยังมีประโยชน์แบบนี้ แล้วทำไมจะไม่ทำตามล่ะ

“ขัดขวางพวกเขาเอาไว้! สำนักปีศาจสังหาร ลุยเข้าไป! ”

ทันใดนั้นผู้ฝึกชั่วร้ายที่ถือไม้เท้ายาวสีเทา ที่รวมกลุ่มกันอย่างเป็นระเบียบ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในระยะที่ไม่ห่างจากลู่ฝานและพวกพ้องมากนัก

พวกเขาชูไม้เท้าขึ้น และตะโกนพูดเสียงดังว่า “พวกมารปีศาจทั้งหลาย ที่ดับสูญไป ขอให้โครงกระดูกได้ผุดขึ้น มาจากวิถีแห่งขุมนรก! ”

ทันใดนั้นเจ้าสำนักหลีซีก็ตะโกนดังมาจากด้านหลังของลู่ฝานว่า “คือค่ายกลโครงกระดูกของสำนักปีศาจสังหาร ลูกศิษย์ของหอฝึกสัตว์ทั้งหลาย เชิญเลือดอสูรออกมา! ลู่ฝาน นายกำลังทำอะไร! ”

เมื่อเจ้าสำนักหลีซีพูดจบ พวกกลุ่มลูกศิษย์ของหอฝึกสัตว์ก็รีบหยิบขวดเลือดอสูรออกมาในทันที

ขณะที่กำลังจะใช้เลือดอสูรทำลายค่ายกล! แต่กลับเห็นว่าลู่ฝานราวกับคนบ้าคลั่งอย่างไรอย่างนั้น พุ่งจู่โจมเข้าไปยังท่ามกลางพวกผู้ฝึกชั่วร้ายที่ถือไม้เท้ายาวสีเทาเหล่านั้น

เขารวดเร็วอย่างมาก จนทำให้ประมุขประเทศตันเซิ่งที่เป็นถึงขุนพลังสุดเหนือฟ้าถึงกับอิจฉา

ในระยะไกล ราชาปีศาจผู้ปราบมังกรที่กำลังต่อสู้อยู่กับเทพเงินแปดทิศ ก็พลันยุติการต่อสู้ลง

เดิมทีด้วยพลังความสามารถของเขา หากคิดจะต่อสู้กับเทพเงินแปดทิศแล้ว ในความเป็นจริงยังเป็นรองอยู่บ้าง แต่วันนี้ภายใต้การสนับสนุนของทะเลโลหิต ไม่นึกว่าเขาจะสามารถกดดันและควบคุมสถานการณ์ต่อสู้ที่เหนือกว่าเทพเงินแปดทิศเอาไว้ได้ ถึงขนาดที่ในบางครั้ง ยังสามารถหันมองไปดูสถานการณ์ต่อสู้ตรงจุดอื่นได้เลยด้วย

“ไอ้เด็กหนุ่มนั่น มีชื่อว่าลู่ฝาน เดิมทีเป็นหัวหน้าสำนักที่สิบห้าในสำนักของพวกเรา”

ราชาปีศาจฝันร้ายเองก็เคลื่อนตัวกลับมา พร้อมกับแกว่งพัดครึ่งท่อนและพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม

ราชาปีศาจผู้ปราบมังกรพูดขึ้นว่า “คือหัวหน้าสำนักที่สิบห้าที่บ้าคลั่งคนนั้นเหรอ รู้สึกเหมือนว่าเขาจะเป็นคนทรยศ สำนักปีศาจสังหารฟังคำสั่ง จงสังหารไอ้หนุ่มคนนั้นทิ้งซะ”

เมื่อราชาปีศาจผู้ปราบมังกรโบกมือ ทันใดนั้น ยอดฝีมือผู้เก่งกาจของแต่ละสำนักก็เหาะเหินมุ่งหน้าไปทันที

ลู่ฝานที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น เมื่อเห็นว่าผู้ฝึกชั่วร้ายโดยรอบเกิดถอยร่นลงอย่างกะทันหัน ไม่ได้บุกตะลุยเข้ามาอย่างโง่เขลาอีกแล้ว ก็ทำให้เกิดพื้นที่ช่องว่างสำหรับเขาขนาดใหญ่

“มาสิ ทำไมไม่เข้ามาต่อสู้แล้วล่ะ! ”

ลู่ฝานถือกระบี่ตั้งตรง พร้อมกับพูดขึ้น

พวกผู้ฝึกชั่วร้ายดวงตาเป็นประกาย เวลานี้กลับเอาแต่จะถอยร่นท่าเดียว

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังกึกก้องผ่านมา และก็มีชี่มารทะลุผ่านทะเลโลหิตไปด้วย

ลู่ฝานพลิกมือกลับมา แล้วก็ใช้กระบี่ฟาดฟันลงไปบนเงาดำนั้น

ชี่สีดำลอยล่องออกมา แล้วก็ก่อตัวขึ้นเป็นร่างคนอยู่ในอากาศ

ลู่ฝานเงยหน้าขึ้นมอง ก็พลันพบว่านี่ไม่ใช่หัวหน้าของแต่ละสำนักอย่างนั้นหรอกเหรอ

ธิดาเทพแห่งไฟ ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย หล่อนนี่ช่างตายยากเสียจริงเลย!

“ลู่ฝาน วันนี้ คือวันตายของนาย! ”

หัวหน้าสำนักคนหนึ่งพูดตะโกนขึ้น

“อย่างนั้นเหรอ? ฉันว่า......”

ลู่ฝานยังไม่ทันจะพูดจบ อีกหลายเงาร่างก็พลันปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของหัวหน้าสำนักทั้งหมดนี้

“ศิษย์น้องลู่ฝาน นายนี่ช่างดุดันไม่เบาเลยนะ! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า