บทที่ 2033 บุกฝ่าวงล้อม (2) – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2033 บุกฝ่าวงล้อม (2) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
น้ำเสียงที่เบาบาง สีหน้าท่าทางที่ยิ้มเยาะ นอกจากจะเป็นศิษย์พี่หานเฟิงแล้วยังจะเป็นใครได้อีก
สำหรับผู้ที่ติดตามศิษย์พี่หานเฟิงมานั้น ก็ยังมีศิษย์พี่ใหญ่ หานหยวนหนิง หลินหย่ารวมไปถึงหนานกงสิงด้วย
“ไอ้พวกจอมปลอม ยังกล้าที่จะปรากฏตัวออกมาอีก”
หัวหน้าสำนักทั้งหลายเมื่อเห็นผู้ที่มาช่วยเหลือลู่ฝานนั้น ไม่นึกว่าจะเป็นพวกเด็กวัยรุ่นกันทั้งหมด จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
แต่ศิษย์พี่หานเฟิงกลับไม่ต้องการที่จะเกรงใจต่อพวกเขาแต่อย่างใด ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็ลงมือจัดการเลยในทันที
“สังหาร! ”
เมื่อพลังปราณพุ่งออกไป กระบี่ฟ้าครามก็แวบผ่านตัวของหัวหน้าสำนักคนหนึ่งในทันที
เมื่อพลังปราณปะทุขึ้น ก็ทำให้หัวหน้าสำนักคนนี้เลือดทะลักพุ่งออกมาทันที
หนานกงสิงมีสีหน้าที่หนักอึ้ง โดยลู่ฝานรู้จักหนานกงสิงมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เห็นเขามีสีหน้าที่ย่ำแย่ขนาดนี้
หนานกงสิงกวัดแกว่งอาวุธในมือ เหมือนจะอัดอั้นความโกรธแค้นมาอย่างหนัก
แล้วก็โจมตีเข้าใส่ผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างบ้าคลั่งทันที!
“บ้าชะมัด ไม่ใช่บอกให้พวกนายรีบไปก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ! ”
ลู่ฝานแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลย
กว่าที่เขาจะส่งตัวพวกศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่น ๆ ให้ล่วงหน้าออกไปได้ก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ตอนนี้กลับพบว่าพวกคนกลุ่มนี้ ยังไม่มีใครหนีไปเลยแต่เพียงคนเดียว
เงาร่างของหลิงเหยาก็มาถึงอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานมองซ้ายมองขวา พบว่าทุกคนที่น่าจะมาถึงต่างก็มากันพร้อมแล้ว นอกเสียจากคนคนหนึ่ง!
“กลายร่างฟ้าดิน กระบี่กลายร่างเป็นมังกรเพลิง! ”
ร่างกายของลู่ฝานพลันขยายใหญ่ขึ้น และกวัดแกว่งกระบี่ จนทำให้ผู้ฝึกชั่วร้ายโดยรอบพากันถอยร่นลงไป
พวกหัวหน้าสำนักเหล่านี้ เดิมทีคิดที่จะอาศัยโอกาสในวันนี้ เพื่อแก้แค้นความอับอายที่ถูกลู่ฝานใช้หมัดชกหน้าอย่างหนักหน่วง เมื่อตอนที่อยู่ในเมืองฉิงเทียนนั้น
แต่เวลานี้พวกเขากลับพบว่า การคิดจะแก้แค้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
พลังความสามารถของลู่ฝาน เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีกมากเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ชกทำร้ายพวกเขาตอนที่อยู่ในเมืองฉิงเทียนนั้น
ควบคุมพลังหยินหยาง และใช้เขตวิถีโจมตีไปรอบทิศ
เขาคนเดียว สามารถที่จะต้านทานการโจมตีของหัวหน้าสำนักได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดคนเลย และยังจะทำให้พวกเขาต้องถอยร่นลงไปอีก
ลู่ฝานพลันดึงไปที่เสื้อของศิษย์พี่หานเฟิง และพูดเสียงดังว่า “แล้วอาจารย์หวูเฉินล่ะ? ”
หานเฟิงพูดขึ้นด้วยความตกใจว่า “เขาไม่ได้ไปหานายหรอกเหรอ? นายไม่ได้พบเจอเขาเหรอ? ”
ลู่ฝานแอบกัดฟัน
มาหาฉัน?
แม้แต่หลิงเหยาก็ยังมาหาเขาจนเจอ หรือว่าอาจารย์หวูเฉินไปที่ไหนอีกแล้ว
ไม่สนใจอะไรมากแล้ว ลู่ฝานจึงลากตัวของศิษย์พี่หานเฟิงให้ถอยร่นลงมาอย่างสุดกำลัง
ศิษย์พี่หานเฟิงตะโกนพูดขึ้นว่า “ทำอะไร? ฉันจะต่อสู้อ่า! ”
ลู่ฝานพูดตอบเสียงดังกลับว่า “ต่อสู้อะไรล่ะ เวลานี้ ต้องรีบหนีไป! ”
เมื่อพูดจบ ลู่ฝานก็นำบุกเข้าโจมตีต่อไป
ศิษย์พี่หานเฟิงและพวกพ้องชี้ไปยังทิศทางหนึ่งและพูดขึ้นว่า “ทางนั้น ไปทางนั้น”
ในขณะเดียวกัน ประมุขประเทศตันเซิ่งและคนอื่น ๆ ก็มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่ศิษย์พี่หานเฟิงพูด
ประมุขประเทศตันเซิ่งกำลังจะพุ่งเข้าโจมตี ก็พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ไปทางนี้ อริยบุคคลผู้เป็นอมตะ ยอดฝีมือทั้งหลาย”
ผู้หญิงที่มีผ้าคลุมหน้า และเต็มไปด้วยรอยยิ้มคนหนึ่ง ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน
ด้านหลังของเธอ พวกกลุ่มผู้ฝึกชั่วร้ายพลันปลีกตัวออก จนเกิดเป็นเส้นทางหนึ่งขึ้น
ประมุขประเทศตันเซิ่งมองไปที่เธออย่างระมัดระวัง และพูดขึ้นว่า “นี่เธอกำลังทำอะไร? ”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและพูดว่า “ก็มาส่งตัวทุกคนให้หนีไปยังไงล่ะ ลืมบอกไปว่า ฉันคือเพื่อนของลู่ฝาน ฉันชื่อว่าอู่คงหลิง! ”
แต่เรื่องที่น่าแปลกก็ปรากฏขึ้น พวกหนวดเหล่านี้ กลับไม่ได้จู่โจมทำร้ายหวูเฉิน
พวกมันแสดงท่าทางเหมือนกับที่พบเจอซู่มันเมื่อสักครู่นี้ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหวูเฉินแล้ว ต่างก็ขยับตัวเปิดทางออกให้อย่างอัตโนมัติ
หวูเฉินก็ค่อย ๆ เหาะเหินเข้าไปท่ามกลางหนวด โดยที่ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร ฝ่าเท้าของเขาก็เคลื่อนลงมา แล้วก็เหยียบอยู่บนหนวด
สีหน้าซับซ้อน เมื่อหวูเฉินเห็นว่าตนเองเข้ามาได้อย่างปลอดภัยไร้อันตราย ก็เหมือนจะเข้าใจได้ถึงอะไรบางอย่าง
พวกหนวดที่รวมตัวกันมากมายได้แผ่ออกราวกับดอกไม้เบ่งบาน เพื่อเปิดเส้นทาง ให้กับหวูเฉินเดินเข้าไป
ก้าวที่หนึ่งก้าวที่สอง หวูเฉินค่อย ๆ นับฝีก้าวของตนเองอย่างสงบ
สภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าช่างไม่น่าสนใจเลย จนมาถึงสุดขอบลับสายตา ก็ปรากฏลำแสงเจ็ดสีขึ้น
จากนั้น หวูเฉินก็มองเห็นหินก้อนหนึ่ง ซึ่งเป็นก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนกับซู่มั่นอย่างไรอย่างนั้น
“เข้ามาอีกคนหนึ่งแล้ว โลกนี้มันเป็นอย่างไรกัน ทำไมนายถึงสามารถเข้ามาได้อีก? ”
บนก้อนหิน เฟิงเทียนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยลำแสงเจ็ดสีที่โปร่งใส
หวูเฉินมองไปที่เขา แล้วก็ยื่นมือออกมา
บนมือของเขา คือมุกก้อนหนึ่ง ซึ่งก็คือมุกเวิ้งว้างของผู้ฝึกชี่
แต่มุกก้อนนี้นั้น ได้สลักคำว่าอู๋หมิงเอาไว้
หวูเฉินพูดขึ้นว่า“ฉันเข้าใจแล้ว ซู่มั่นอ่า ทำไมเธอต้องทำเรื่องที่โง่เง่าแบบนี้ด้วย”
หวูเฉินพูดไปพลาง และก็เดินต่อไปข้างหน้าด้วย
เฟิงเทียนมองไปที่เขา และพูดว่า “นายคงไม่ใช่คนที่ซู่มั่นได้จัดแจงให้มาสะสางเรื่องทั้งหมดหรอกนะ ถ้าหากเป็นแบบนี้จริง ฉันบอกกับนายได้เพียงว่า แม้แผนการของพวกนายจะล้ำเลิศแค่ไหน แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น! ”
หวูเฉินพูดขึ้นอย่างสงบว่า “เปล่า ที่ฉันมา ก็เพื่อพาซู่มั่นกลับออกไป”
เฟิงเทียนหัวเราะ และพูดว่า “พาหล่อนไป? นายคิดว่าเป็นไปได้ไหมล่ะ? ”
หวูเฉินเองก็หัวเราะ และพูดขึ้นว่า “เรื่องราวจะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความพยายามของคน! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...