เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2046

สรุปบท บทที่ 2046 หลิงเหยาอีกคนหนึ่ง: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 2046 หลิงเหยาอีกคนหนึ่ง – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 2046 หลิงเหยาอีกคนหนึ่ง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะของผู้ฝึกชั่วร้าย  อารมณ์ความกรุณาปราณีและรักใคร่เมตตาเหล่านี้  ก็คือขยะที่ถูกสลัดทิ้งกากเดนของเสียที่ถูกขว้างทิ้งไปนั่นเอง

เหมือนเช่นอย่างจอมอสูรปีศาจคุณย่าเฉียนซึ่งออกมาจากท่ามกลางภูเขาซากศพทะเลเลือดผู้นี้  ไม่น่าเป็นไปได้มากนักที่จะมีอะไรแบบนี้เลยจริงๆ

ทว่าวันนี้คุณย่าเฉียนที่ถูกแสงสีทองระลอกหนึ่งชะล้างพลังกลิ่นอายอสูรปีศาจออกไป  และแข็งขืนบังคับเปลี่ยนอุปนิสัยแล้วนั้น  เมื่อได้เห็นทารกที่อยู่ตรงหน้า  กลับเกิดรักใคร่เมตตามิทราบมาจากที่ใดขึ้นมาแล้ว

ฝ่ามือเธอกำลังสั่นเทา  ประกายสายตาเธอกำลังกระพริบวูบวาบหวั่นไหว

พลังที่สมควรฟาดกระหน่ำลงนั้น  ผ่านไปเนิ่นนานแล้วกลับยังไม่ยอมปล่อยออกมา

ฝ่ามือน้อยๆ ของทารกน้อยนั้นกำลังลูบอยู่บนใบหน้าคุณย่าเฉียน  มิผิดประจุอสนีสายฟ้าอันน่ากลัว  ได้กระหน่ำโจมตีรุกเข้าไปตลอดทั่วทั้งร่างของคุณย่าเฉียนอย่างต่อเนื่องเป็นชุด

สายตาเธอค่อยๆ เปลี่ยนจากกระพริบวูบวาบหวั่นไหวกลายเป็นนิ่มนวลอ่อนโยน

สีหน้าท่าทางอันเมตตาปราณีที่ไม่เคยมีมาก่อน  ยามนี้กำลังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณย่าเฉียนแล้ว

คุณย่าเฉียนค่อยๆ ลดฝ่ามือลง  เธอจ้องมองดูทารกน้อยพูดว่า  “เพราะเหตุใด  ฉันจึงไม่สามารถสังหารเธอได้เลย!”

ทารกน้อยเบิกตากว้างจ้องมองดูคุณย่าเฉียน

สีหน้าแววตาที่สุดแสนกระจ่างสดใสแจ๋วแหวว  กอปรด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกหล้าและบริสุทธิ์ใสซื่อไร้เดียงสา  ช่างทำให้ผู้คนรู้สึกรักใคร่ทะนุถนอม

คุณย่าเฉียนวางฝ่ามือลงบนศีรษะของทารกน้อยแล้ว

แสงสว่างที่ปิดผนึกไว้เปล่งประกายขึ้นจนเจิดจ้า  ดวงตาของทารกน้อยหลับลงช้าๆ  สิ่งที่มีรูปลักษณ์คล้ายดั่งก้อนหินก้อนหนึ่ง  ได้ถูกคุณย่าเฉียนหยิบออกมาแล้ว

หลิงเหยาก็จดจำสิ่งนี้ขึ้นมาได้แล้วเช่นกัน  ไม่ใช่หินสีทองที่เธอกินลงไปนั่นเองหรอกหรือ

หลิงเหยาที่อยู่ด้านข้างเฝ้ามองดูจนหลั่งน้ำตานองหน้า  เวลานี้เธอทราบชาติกำเนิดของตัวเองโดยสิ้นเชิงแล้ว

และยามนี้เอง  ภาพตรงหน้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เงาร่างของคุณย่าเฉียนและเด็กทารกสลายหายไปจนไร้ร่องรอย  สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความมืดแถบหนึ่ง

หลิงเหยารู้สึกว่าตนเองเหมือนเช่นถูกความมืดมิดไร้ขอบเขตพันธนาการไว้  ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกาย  ตลอดทั้งร่างกายเย็นเฉียบ  และสติสัมปชัญญะหม่นหมองสลดหดหู่

หยาดน้ำตาตรงบริเวณหางตาล้วนถูกความมืดกลบเลือนหายไปแล้ว  เธอรู้สึกเคว้งคว้างไม่ทราบว่าตัวเองสมควรกระทำเช่นใด

และยามนี้เอง  แสงสว่างสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาจากส่วนลึกของความมืด  เหมือนดั่งดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก  ขับไล่ความมืดมิดสลายหายไปหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว

หลิงเหยาเห็นเงาร่างสายหนึ่งล่องลอยขึ้นท่ามกลางแสงสว่าง  หลังจากนั้นก็ปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้าตนแล้ว

เงาร่างนี้เธอคุ้นเคยอย่างยิ่งจนสุดจะเปรียบปาน  ก็คือตัวเธอนั่นเอง

เพียงแต่ว่า  ประกายภายในดวงตาของหญิงสาวที่เหมือนกับเธอทุกประการผู้นี้  นอกจากความหยิ่งผยองทะนงแล้วก็คือความเย็นชาอันเฉยเมย

เพียงครู่เดียวเธอก็มาถึงเบื้องหน้าหลิงเหยาโดยตรงเอ่ยปากพูดว่า  “ในที่สุดเธอก็หวนกลับมาถึงสถานที่สมควรกลับมาแล้ว  ฉันรอคอยช่วงเวลานี้มานานร่วมยี่สิบปีแล้ว”

หลิงเหยาแหงนหน้าขึ้นจ้องมองเธอพูดว่า  “เธอก็คือฉัน?  แหล่งต้นกำเนิดพลังทั้งหมดของเธอล้วนมาจากเธอหรือ?”

หญิงสาวพูดว่า  “มาจากแหล่งต้นกำเนิดของพวกเราเอง  เธอก็คือฉัน  ฉันก็คือเธอ  ระหว่างพวกเรายังจำเป็นต้องแบ่งแยกเราท่านอันใดอีกหรือ?”

“หลิงเหยา  หลิงเหยา!”

คุณย่าเฉียนที่กำลังบอกเล่าเรื่องราวในอดีตนั้น  พลันพบว่าหลิงเหยาจิตใจเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว  เธอรีบใช้ฝ่ามือผลักไหล่ของหลิงเหยา  พลางเขย่าตะโกนเรียกขึ้น

หลิงเหยาลืมตาทั้งสองขึ้นอย่างช้าๆ  แต่การแสดงออกของเธอในเวลานี้  สีหน้าแววตาของเธอนั้น  ล้วนแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงแล้ว

ภายในดวงตากอปรด้วยแสงสีทองอยู่บ้างเล็กน้อย  จ้องมองคุณย่าเฉียนพูดว่า  “ประเสริฐอย่างยิ่ง  เธอทำหน้าที่ของเธอสำเร็จลุล่วงได้ไม่เลวอย่างยิ่ง  ปรากฏว่าสวรรค์เบื้องบนมอบหมายเธอให้ฉันนั้นเพราะมีเหตุผลอยู่”

คุณย่าเฉียนตะลึงงันแล้ว  จ้องมองหลิงเหยาพลางบ่นพึมพำว่า  “เธอไม่ใช่หลิงเหยาแล้ว  ในที่สุดเธอก็ยังคงตื่นขึ้นมาแล้ว”

“หลิงเหยา”ยิ้มน้อยๆ พูดว่า  “เธอทราบแต่แรกเนิ่นนานแล้วว่า  จะต้องมีสักวันหนึ่งที่ฉันฟื้นตื่นขึ้นมา  เธอปิดผนึกจิตวิญญาณฉันไว้แล้ว  และก็ยังปิดผนึกพลังของฉันไว้แล้วอีกด้วย  พฤติการณ์ที่ลบหลู่ดูหมิ่นเทพเจ้าเช่นนี้  เดิมฉันสมควรจะทำลายซากร่างเธอแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  แต่เห็นแก่ที่เธอยังคงทำให้ฉันผ่านช่วงระยะเวลายี่สิบปีซึ่งยากลำบากแสนเข็ญที่สุดอย่างสันติปลอดภัย ฉันตัดสินใจยกโทษให้เธอ  ทาสรับใช้ของฉัน  เธอจากไปอย่างสบายใจเถอะ  บัดนี้ฉันจะไปเอาสรรพสิ่งที่เป็นของฉันกลับคืนมา  ตลอดทั่วทั้งฟ้าดิน  ก็จะต้องสั่นสะเทือนเนื่องเพราะการดำรงอยู่ของฉันด้วยเช่นกัน  ยุคสมัยประเสริฐที่สุดของฉันได้มาถึงแล้ว  สวรรค์เบื้องบนไม่ได้หลอกลวงฉัน”

คุณย่าเฉียนหดมือของตนเองกลับแล้วพูดว่า  “เธอจะไม่ประสบผลสำเร็จ  คนที่ต้องการสถาปนาเป็นเทพเจ้า  ทั้งหมดต่างล้วนเสียชีวิตอย่างน่าอเนจอนาถยิ่งนัก”

“หลิงเหยา”หัวเราะพูดว่า  “กระนั้นหรือ?  ฉันเคยผ่านความตายมาแล้ว”

หลิงเหยาลุกขึ้นและก้าวยาวๆ เดินออกไป  ยามนี้แสงสีทองบนร่างกายเธอแข็งแกร่งอย่างยิ่งจนสุดจะเปรียบปาน

เพียงย่างเท้าออกก้าวเดียวเท่านั้น  ตรงใต้ฝ่าเท้าของเธอก็มีแสงสว่างของเขตวิถีสว่างเรืองรองขึ้น  พลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง  กลิ่นอายแผ่ขยายกระจายออก

พลันคุณย่าเฉียนพูดขึ้นเสียงดังว่า  “หลิงเหยา  ตั้งสติให้มั่นคงอย่าได้สูญเสียจิตดั้งเดิมไป!”

“หลิงเหยา”เหลียวหน้ากลับมาถามด้วยความสงสัยว่า  “เธอกำลังพูดจากับฉันหรือ?”

คุณย่าเฉียนพูดว่า  “ไม่ใช่  ฉันกำลังพูดจากับเธออีกคนหนึ่งต่างหาก  ฉันกำลังรอคอยเธออยู่บนเส้นทางสายมรณะนั้น!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า