เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2047

สรุปบท บทที่ 2047 การยึดครองร่าง?: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

อ่านสรุป บทที่ 2047 การยึดครองร่าง? จาก เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

บทที่ บทที่ 2047 การยึดครองร่าง? คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

แสงสีทองบนฝ่ามือ“หลิงเหยา”โคจรพลุ่งพล่าน  คล้ายดั่งมีความคิดลงมือต่อคุณย่าเฉียน

แต่เงียบขรึมไปแล้วครู่หนึ่ง  “หลิงเหยา”ยังคงอดกลั้นความหุนหันใจร้อนของตนเองไว้แล้ว  เธอเผยรอยยิ้มดูแคลนต่อคุณย่าเฉียนคราหนึ่ง  เดินออกไปจากลานเรือนอย่างรวดเร็วแล้ว

บริเวณด้านนอก  ลู่ฝานได้รอคอยอยู่เป็นระยะเวลานานแล้ว

เมื่อได้เห็น“หลิงเหยา”ออกมา  ลู่ฝานจึงเข้าไปรับหน้าทักทายแล้วทันที

“หลิงเหยา  เวลานี้เธอรู้สึกอย่างใดบ้าง?”

ลู่ฝานยื่นมือออกไป  และคว้าแขนของ“หลิงเหยา”เอาไว้หมับ

พริบตาเดียว“หลิงเหยา”ก็สลัดมือของลู่ฝานออกไปโดยตรง  สายตาที่มองไปทางลู่ฝานแฝงไว้ด้วยเจตนาสังหาร

ลู่ฝานมองดูสีหน้าแววตาเช่นนี้จนตะลึงงันอยู่กับที่แล้ว

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าหลิงเหยาจะมองดูเขาด้วยสีหน้าแววตาเช่นนี้

“เธอเป็นไรไปแล้ว?”

ลู่ฝานขมวดคิ้วเอ่ยปากถามขึ้น

ภายในใจกลางฝ่ามือของ“หลิงเหยา”  แสงสีทองรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนแล้ว  เตรียมพร้อมลงมือได้ทุกเมื่อ

“หลิงเหยา”ได้พิจารณามองดูลู่ฝานขึ้นลงหลายคราแล้วพูดว่า  “วิทยายุทธไม่เลวเลย  กายเนื้อก็ไม่เลวเลยทีเดียว  นายยินยอมเป็นทาสรับใช้ของฉันหรือไม่?”

ลู่ฝานงวยงงสับสนฟังไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิงแล้ว  ถลึงตามองหน้าของหลิงเหยาพูดว่า  “ทาสรับใช้หรือ?  เธอกำลังพูดเรื่องอะไรกัน?”

“หลิงเหยา”เชิดศีรษะขึ้นพูดว่า  “นายฟังภาษาเผ่ามนุษย์ไม่เข้าใจเรอะ?  ทาสรับใช้สองคำนี้เข้าใจยากอย่างยิ่งหรือ?”

ลู่ฝานดูออกแล้วว่าบางอย่างผิดปกติ  กระบี่หนักไร้คมภายในมือของเขาปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ

“หลิงเหยา  ถ้าเป็นเธอละก็  การล้อเล่นเช่นนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย  ขอให้เธอหยุดทันที  หากไม่ใช่เธอละก็  ต้องขออภัยอย่างยิ่ง  วันนี้เธอไม่สามารถหนีรอดพ้นแล้ว!”

ลู่ฝานพูดเช่นนี้พลางยกกระบี่ขึ้น  จ้องมองตาของ“หลิงเหยา”เขม็งแล้ว

ดวงตาทั้งคู่นั้นช่างเย็นชาเฉยเมยและหยิ่งผยองทระนง  อีกทั้งยังกอปรด้วยแสงสีทองอันเข้มข้น  ทำให้ลู่ฝานรู้สึกแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง

นี่ไม่ใช่ดวงตาของหลิงเหยาที่เขารู้จักผู้นั้นพึงมีอย่างเด็ดขาด

“นายต้องการลงมือกับฉัน?”

สีหน้าของ“หลิงเหยา”ก็โกรธเคืองเช่นกัน  เธอยกฝ่ามือขึ้นแล้ว

แสงสีทองภายในมือ  โคจรพลุ่งพล่านแข็งแกร่งทรงพลังถึงระดับหนึ่งแล้ว

แต่ยามนี้เอง  พลันเธอก็ได้เห็นแหวนบนมือของลู่ฝานแล้ว

“หลิงเหยา”ถอยหลังด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงหลายก้าวทันที  คล้ายดั่งได้เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเข้าแล้วก็ปาน

ลู่ฝานชำเลืองมองที่นิ้วมือตนเองแล้วคราหนึ่งตามสายตาหลิงเหยา

ตรงนั้นมีแหวนเพียงสองวง  หนึ่งคือแหวนจิ่วเซียว  สองคือแหวนเจ้าบ้านแห่งตระกูลลู่ของพวกเขา

ลู่ฝานไม่ทราบว่าเธอกำลังหวาดกลัวแหวนวงไหน  ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมหลิงเหยาถึงหวาดกลัว

แต่เมื่อหลิงเหยาได้เห็นฝ่ามือของลู่ฝาน  ก็เหมือนเช่นเดียวกับพบผีสางกลางวันแสกๆ เข้าแล้ว  ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง  นอกจากนี้ยังรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

ลู่ฝานกำลังคิดจะเรียกให้เธอหยุด  หลิงเหยาก็หันหลังกลับเหินบินขึ้นไปแล้ว

และหายลับไปกลางนภากาศจนไร้ร่องรอยพร้อมกับแสงสีทอง

ลู่ฝานรีบเร่งพุ่งทะยานร่างขึ้นไป  ต้องการยื่นมือไปคว้าข้อเท้าของหลิงเหยาเอาไว้

ฝ่ามือตวัดผ่านวูบ  กลับคว้าถูกเพียงแสงสว่างสีทองส่วนหนึ่งเท่านั้น

“ให้ตายสิ  หลิงเหยา!”

ลู่ฝานตะโกนเสียงดังลั่นคำหนึ่ง  กลับหามีผู้ใดตอบเขาไม่

ลู่ฝานรีบถ่ายทอดพลังเต๋าแห่งชีวิตเข้าสู่ร่างกายของคุณย่าเฉียนอีกครั้ง  ต้องการช่วยชีวิตของคุณย่าเฉียน  แต่กลับพบว่าร่างกายของคุณย่าเฉียนกลายเป็นความว่างเปล่าอย่างกะทันหัน

อวัยวะภายในและโครงกระดูกตลอดจนเส้นชีพจรอันใด  ทั้งหมดสูญสลายหายไปหมดสิ้นจนไร้ร่องรอย

สายลมสดใสโหมพัดมาระลอกหนึ่ง  ร่างกายของคุณย่าเฉียนก็สูญสลายหายไปพร้อมกับสายลม  เหลือไว้แต่เพียงฝุ่นผงธุลีเล็กน้อยอยู่ท่ามกลางสายลม

สายลมโชยพัดหมุนเป็นกระแสวนจากไปไกล  ทุกสิ่งทุกอย่างหวนคืนกลับสู่ท่ามกลางฟ้าดิน

“ร่างต้นดับสูญลงแล้ว  ร่างแยกก็มอดม้วยสิ้นสลายตาม!”

ลู่ฝานกำหมัดจนแน่น  รู้สึกเพียงแค่แค้นใจที่ตัวเองไม่เข้ามาเร็วขึ้นอีกหน่อย

คุณย่าเฉียนยังไม่ได้อธิบายปัญหาให้เขาฟังอย่างเข้าใจกระจ่าง  เขายังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่เช่นเดิม

คนที่ปกติดีคนผู้หนึ่ง  หลังจากติดตามคุณย่าเฉียนเข้าไปสนทนากันไม่กี่คำแล้ว  เมื่อออกมาก็เปลี่ยนแปลงจนแตกต่างไปจากเดิมแล้วอย่างสิ้นเชิง  ไม่เพียงแต่พลังกลิ่นอายสีหน้าแววตาเปลี่ยนไปแล้วเท่านั้น  บุคลลิกภาพพลังความแข็งแกร่งต่างๆ ล้วนดูเหมือนว่าแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงแล้ว  โดยเฉพาะแสงสีทองบนฝ่ามือนั้น  ตอนนี้ลู่ฝานจึงนึกขึ้นมาได้  พลังความแข็งแกร่งนั้นสูงล้ำเหนือกว่าพลังปราณของเซียนบู๊ทั่วไปแล้วอย่างแน่นอน  เพียงชั่วขณะหนึ่งเมื่อครู่นี้  แม้แต่สัญชาตญาณของเขาก็ยังสัมผัสรับรู้ถึงอันตรายแล้ว

เหมือนเช่นเดียวกับว่าเธอได้เปลี่ยนเป็นคนละคนแล้ว......

รวมทั้งสิ่งต่างๆ!

พลันลู่ฝานนึกถึงสิ่งใดขึ้นมาได้แล้ว

เปลี่ยนคนนะหรือ?

หรือว่าคือการยึดครองร่างนั่นเอง!

สำหรับเรื่องเช่นนี้ลู่ฝานเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

กล่าวถึงที่สุดเขาก็ยังเคยเกือบถูกยึดครองร่างมาก่อนแล้ว  และก็ยังเป็นจำนวนถึงสองครั้งอีกด้วย!

ลู่ฝานกำหมัดแน่นกัดฟันกรอด

ถ้าหากเป็นลักษณะนี้จริงๆ ละก็  ลู่ฝานจะต้องทำลายจิตวิญญาณของคนที่ยึดครองร่างหลิงเหยาผู้นั้น  ให้พินาศดับสูญไปตลอดกาลอย่างแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า