เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2053

สรุปบท บทที่ 2053 ใต้หล้าแบ่งแยกเป็นสอง(2): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

บทที่ 2053 ใต้หล้าแบ่งแยกเป็นสอง(2) – ตอนที่ต้องอ่านของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

ตอนนี้ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2053 ใต้หล้าแบ่งแยกเป็นสอง(2) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“หวงฝู่อู่  นายกำลังพูดจาเหลวไหลอะไร  รีบมาทางด้านนี้!”

เมื่อประมุขประเทศว่านจุนเห็นยามนี้หวงฝู่อู่กลับเดินถึงข้างกายลู่ฝานอย่างช้าๆ  เขาอดที่จะตวาดตำหนิเสียงลั่นขึ้นมาไม่ได้

เวลานี้ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บรรดาคนรุ่นเยาว์ของประเทศว่านจุน  คำพูดของหวงฝู่อู่  โดยหลักการแล้วมีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง  คือการแสดงถึงจุดยืนของประเทศว่านจุนนั่นเอง

ดังนั้นประมุขประเทศว่านจุนจึงได้รู้สึกร้อนรุ่มกระวนกระวายใจมากถึงเพียงนี้  เขาไม่ต้องการให้หวงฝู่อู่ต้องมาดับสูญพร้อมลู่ฝานอยู่ในสถานที่แห่งนี้  ควรทราบว่าสำหรับประเทศว่านจุนแล้ว  หวงฝู่อู่ก็คืออนาคตเลยทีเดียว!

หวงฝู่อู่คร้านที่จะหันไปมองดูประมุขประเทศว่านจุนแม้แต่น้อยนิดด้วยซ้ำ

ตอนนั้นยามที่อยู่ในประเทศว่านจุน  เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องมากมายนักกับราชวงศ์

ยามนี้ประมุขประเทศว่านจุนพูดกับเขา  หวงฝู่อู่จึงเมินเฉยทำเป็นไม่ได้ยินด้วยซ้ำ  ประมุขประเทศว่านจุนมองดูจนสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำไปแล้ว

สีหน้าท่าทางของเทพเงินแปดทิศหมองคล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ  เขาคิดไม่ถึงว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้  หวงฝู่อู่กลับยืนอยู่ข้างของลู่ฝานผู้นี้แล้ว

นี่ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาการเลือกข้างของหวงฝู่อู่คนเดียวเท่านั้น  เรื่องนี้กำลังหมายความว่ายังมีคนที่ไม่เชื่อถือพวกเขาอยู่

เทพเงินแปดทิศพูดว่า  “หวงฝู่อู่ที่เป็นคนหนุ่มเยาว์วัย  แได้กระทำการตัดสินใจไม่ฉลาดอย่างยิ่งแล้วครั้งหนึ่ง!”

หวงฝู่อู่จ้องมองเทพเงินแปดทิศยิ้มแล้วพูดว่า  “ฉลาดหรือไม่ฉลาด  ไม่ต้องให้นายมาพูด”

เทพเงินแปดทิศแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่งพูดว่า  “ถ้าหากนายคิดว่านายลุกขึ้นมาแล้วก็สามารถปกป้องลู่ฝานได้ละก็  เช่นนั้นก็คือความผิดพลาดอย่างมหันต์แล้ว”

พูดจบประกายแสงสว่างในฝ่ามือของเทพเงินแปดทิศก็เรืองรองเจิดจ้าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  เขากำลังรวบรวมพลัง

“ถ้าอย่างนั้นหากรวมฉันเข้าไปด้วยเล่า?”

เงาร่างคนสายหนึ่งร่อนลงมา  ทุกคนเพ่งมองดูคราหนึ่ง  พบว่าคนผู้นี้พวกเขาก็รู้จักเช่นกัน

เย่หนานเทียน แห่งประเทศเสวียนนั่นเอง

ประมุขประเทศเสวียนทอดถอนหายใจคราหนึ่ง  ประมุขประเทศเฟิงหยู่ก็ไม่ทราบสมควรจะพูดอะไรแล้วเช่นกัน

เทพเงินแปดทิศยังคงกำลังรวบรวมพลังในฝ่ามือ  เขาหาได้งำประกายตัวเองหยุดชะงักลงสืบเพราะการปรากฏตัวของเย่หนานเทียนไม่

แต่ว่าจั่วหยุนตงก็ร่อนลงมาจากกลางนภากาศอย่างกระชั้นชิดเช่นกัน

“เรื่องเช่นนี้ทำไมจึงสามารถขาดฉันไปได้เล่า?  เทพเงินแปดทิศ  ฉันเห็นแก่ศักดิ์ฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโส  ขอน้อมเตือนท่านสักคำ  การเป็นคนอย่าได้กระทำจนเกินเลยมากเกินไป!”

เทพเงินแปดทิศแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่ง  แต่ยังมิทันรอให้เขาได้พูดสิ่งใด  อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ในเวลาเช่นนี้  มาเข่นฆ่ากันเองอีกเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะ!”

พร้อมๆ กับเสียง  ประมุขประเทศตันเซิ่ง  ตลอดจนเริ่นหยู่และคนอื่นๆ ก็พากันร่อนลงมา

เจ้าสำนักหลีซีหันหน้ามองดูประมุขประเทศตันเซิ่งคราหนึ่ง  สำหรับที่ประมุขประเทศตันเซิ่งปรากฏตัวออกมาปกป้องลู่ฝานนั้น  เขากลับไม่รู้สึกเหนือความคาดหมายอะไรมากมายนัก

เขาทราบบุญคุณความแค้นระหว่างประมุขประเทศตันเซิ่งกับเทพบู๊เสินเซียวยังมีสำนักจิ่วเซียวในตอนนั้น  ตลอดจนเขายังทราบจากภายในวัสดุของหอฝึกสัตว์  เคยล่วงรู้บุญคุณความแค้นความบาดหมางระหว่างประมุขประเทศตันเซิ่งกับเทพบู๊เสินเซียวและคนอื่นๆ แล้ว

ประมุขประเทศตันเซิ่งคนผู้นี้  เขาอาจยังคงมีความเกลียดชังต่อสำนักจิ่วเซียว

แต่ถ้าเทียบความเกลียดชังนี้กับความเกลียดชังที่เขามีต่อสามอริยบุคคลแล้วละก็  นั่นก็คือเรื่องราวอันเล็กจ้อยไปแล้ว

“อมตะ  นายแน่ใจว่าต้องการยืนหยัดด้วยกันกับลู่ฝานแล้วหรือ?”

ดวงตาของอริยบุคคลแห่งจักรวาลหยีขึ้นมาแล้ว

ประมุขประเทศตันเซิ่งมองดูอริยบุคคลแห่งจักรวาลคราหนึ่งพูดว่า  “ใช่แล้ว”

อริยบุคคลแห่งจักรวาลพูดต่อว่า  “นายน่าจะทราบว่า  นายการกระทำของนายเช่นนี้  จะนำมาซึ่งปัญหาความยุ่งยากอย่างใหญ่หลวงมาให้นาย”

ประมุขประเทศตันเซิ่งยิ้มน้อยๆ พลางจ้องมองอริยบุคคลแห่งจักรวาลพูดว่า  “ปัญหาความยุ่งยาก  พวกเราผู้ฝึกพลังชี่  ไม่กลัวปัญหาความยุ่งยาก  พวกเราคนของประเทศตันเซิ่ง  ยิ่งไม่ครั่นคร้ามต่อปัญหาความยุ่งยาก  ลู่ฝานคนผู้นี้ฉันก็ไม่ชื่นชอบเช่นกัน  หากครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของประเทศฉิงเทียนละก็  ฉันพบเขาอีกครั้งจะต้องปลิดชีวิตเขาเสียอย่างแน่นอน  แต่เวลานี้ฉันยินยอมปกป้องเขาครั้งหนึ่ง  ไม่ใช่เนื่องเพราะเขาประเสริฐมากมายเพียงใด  เพียงแต่เนื่องเพราะเหตุผลที่พวกท่านต้องการฆ่าคนนั้น  มันช่างเหลวไหลไร้สาระเกินไปแล้วจริงๆ  ฉันถามนายสักคำก็แล้วกัน  หากวันนี้ลู่ฝานถูกพวกคุณสังหารไปแล้ว  เนื่องเพราะความโกรธเคือง  ไอ้หนุ่มคนนั้นที่ด่าเทพเงินแปดทิศแล้วคำหนึ่ง  ก็ถูกนายสังหารไปแล้วเช่นกัน  ถ้าอย่างนั้นต่อไปภายภาคหน้า  ทุกคนที่ความคิดเห็นแตกต่างกับท่าน  พวกท่านก็ล้วนสามารถสังหารได้ทั้งสิ้นใช่หรือไม่?  ถ้าเช่นนั้นพวกคุณก็จงไปต่อสู้กับพวกที่สถาปนาเป็นเทพเจ้าและสถาปนาสวรรค์แล้วด้วยตัวเองก็แล้วกัน  พวกเราจากไปก็ถูกต้องแล้ว  เพื่อหลีกเลี่ยงวันใดเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วถูกสังหารสิ้นชีวิต!”

แต่สำหรับคนของแดนตะวันออก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอู่อาน  ชื่อนี้ถือได้ว่าเลื่องลือระบือนามดุจดั่งอสนีบาตฟาดกรอกหู  พวกเขาเคยได้ยินมาหลายครั้งแล้ว

พร้อมกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนออกมา  ประมุขประเทศอีกหลายท่านก็เดินตามออกมาเช่นเดียวกัน  ยืนอยู่ข้างกายประมุขประเทศตันเซิ่งแล้ว

ประมุขประเทศตันเซิ่งกวดสายตามองเล็กน้อยคราหนึ่ง  ส่วนใหญ่ล้วนสามารถจำได้ว่าประมุขประเทศต่างๆ เหล่านี้คือใคร

ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งของแดนตะวันออก  ถึงแม้จะเหลือเพียงไม่กี่คน  ทว่าแต่ละคนกลิ่นอายไม่อ่อนด้อยเลยทีเดียว  อย่างน้อยล้วนเป็นเซียนบู๊ชั้นสุดยอดทั้งสิ้น

การปรากฏตัวของคนเหล่านี้  ทำให้เทพเงินแปดทิศและอริยบุคคลแห่งจักรวาลบันดาลโทสะหงุดหงิดแทบตายแล้ว

บนใบหน้าเจ้าสำนักหลีซีกลับผุดรอยยิ้มขึ้นมา

ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ได้เลวร้ายมากถึงขนาดนั้นกระมัง  มีประมุขประเทศตันเซิ่งอยู่ด้วย  คล้ายดั่งคนแดนตะวันออกต่างล้วนสนับสนุนอย่างยิ่งเลยทีเดียวนะเนี่ย

ถึงแม้แดนตะวันออก  จัดอยู่ในอาณาจักรดินแดนซึ่งอ่อนแอที่สุด  ท่ามกลางสี่อาณาจักรดินแดนของใต้หล้า

ประมุขประเทศว่านจุน  และประมุขประเทศเสวียนคล้ายดั่งล้วนรู้สึกลังเลใจขึ้นมาบ้างแล้ว

เจ้าสำนักหลีซีกวาดสายตามองผ่านคราหนึ่ง  คล้ายดั่งภายในเก้าประเทศที่ทรงพลังนั้น  สีหน้าของสี่ประมุขประเทศทรงพลังล้วนไม่ค่อยแน่ใจอยู่บ้าง

เจ้าสำนักหลีซีกระแอมไอเบาๆ สองคราแล้วพูดว่า  “เทพเงินแปดทิศ  อริยบุคคลแห่งจักรวาล  ฉันทราบว่าพวกคุณทั้งสองไม่ชื่นชอบลู่ฝาน  แต่สถานการณ์ตอนนี้พวกคุณก็เห็นแล้วเช่นกัน  การฆ่าคนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้  ฉันคิดว่าพวกเราสามารถนั่งลงมาหารือกันดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้สักครา  พวกคุณคิดว่าเป็นอย่างไร?”

เทพเงินแปดทิศแอบลอบกัดฟันกรอด  เขาย่อมดูออกแล้วเช่นกันว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้

เทพเงินแปดทิศเงียบขรึมชั่วขณะหนึ่งแล้วส่ายหน้าพูดว่า  “หลีซี  ฉันจะไม่หารือกับพวกโง่เขลากลุ่มหนึ่งอย่างเด็ดขาด  ในเมื่อพวกคุณต้องการปกป้องลู่ฝานถึงขนาดนี้  เช่นนั้นพวกคุณก็ค่อยๆ ปกป้องเขาเอาไว้เถอะ  พวกคุณคิดว่าเขาเป็นดาวนำโชคผู้ช่วยให้อยู่รอดหรือ?  เขาคืออนาคตหรือ?  ช่างน่าขบขันนัก”

พูดจบเทพเงินแปดทิศก็หันกายจากไป

อริยบุคคลแห่งจักรวาลพูดตามขึ้นว่า  “ฉันเห็นว่า  พวกเราไม่สามารถอยู่ร่วมกันเคลื่อนไหวดำเนินการด้วยกันได้อีกแล้ว  ไม่สู้แยกย้ายกันไปทางใครทางมันตรงนี้เถอะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า