สรุปเนื้อหา บทที่ 2055 ฟื้นขึ้นมา – เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น
บท บทที่ 2055 ฟื้นขึ้นมา ของ เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โอหยางวิ่น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ท่ามกลางความคลุมเครือมึนงง สติสัมปชัญญะลู่ฝานมองดูอริยบุคคลวุ่นวายกำลังพยายามกลืนกินร่างกายของเขา
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นยามปกติ ลู่ฝานจะต้องต่อสู้แลกชีวิตกับเธออย่างสุดฤทธิ์แน่นอน อย่างเลวร้ายที่สุดก็ดับสูญไปด้วยกัน
ทว่าในยามนี้ ลู่ฝานกลับเพียงแค่เฝ้ามองดูอย่างเงียบๆ อยู่ด้านข้าง หาได้ทำสิ่งใดๆ แต่อย่างไรไม่
เขาคล้ายดั่งละทิ้งยกเลิกการต่อต้านแล้ว เฝ้ามองดูอริยบุคคลวุ่นวายอาละวาดยุ่งเหยิงภายในร่างกายเขา
“หลิงเหยา!”
ลู่ฝานรำพึงชื่อของหลิงเหยาขึ้นเบาๆ ภายในใจ
จิตวิญญาณที่ทระนงองอาจภายในใจสูญสลายแล้ว โลหิตอันร้อนระอุกระตือรือร้นมอดมลายหมดสิ้น
สำหรับเขาที่เป็นคนลักษณะเช่นนี้แล้ว กายเนื้อได้รับการกระทบกระเทือนมากมายเพียงใด บาดเจ็บสาหัสมากมายแค่ไหน ต่างล้วนหาใช่ปัญหาใหญ่หลวงแต่อย่างไรไม่
แต่ยามใดจิตแห่งมรรคาดวงหนึ่ง สูญสิ้นกำลังขวัญความกล้าที่จะรุดหน้าต่อไปแล้วละก็ เช่นนั้นคนผู้นี้ก็ถือได้ว่าหมดสภาพโดยสิ้นเชิงแล้ว
ยามนี้จิตแห่งมรรคาดวงหนึ่งของลู่ฝานเริ่มพังทลายลงอยู่บ้างแล้ว
ถ้าหากพูดว่าการฝึกฝนบ่มเพาะของคนผู้หนึ่ง ก็ต้องผ่านภัยพิบัติหายนะเช่นกัน เช่นนั้นแล้วนี่ก็คือหนึ่งในจำนวนภัยพิบัติหายนะใหญ่หลวงที่สุด บนเส้นทางการฝึกฝนบ่มเพาะของเขานั่นเอง
ถูกบุคคลอันเป็นที่รักของตนแทงทะลุหนึ่งกระบี่ ประสบการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ทุกคนต่างล้วนมีได้ ภัยพิบัติหายนะชนิดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนล้วนสามารถผ่านพ้นได้เช่นกัน
ประจวบกับลู่ฝานกำลังผ่านประสบการณ์ยากลำบากแสนสาหัสที่สุดนี้พอดี
ภาพเหตุการณ์ฉากแล้วฉากเล่าแวบผ่านอยู่ภายในห้วงคำนึงของเขา
การพบหน้ากันครั้งแรกของเขากับหลิงเหยา การจุมพิตอย่างใกล้ชิดสนิทสนมครั้งแรก การเผชิญกับเภทภัยอันตรายครั้งแรก
เหล่านั้นคือความทรงจำสลักจารึกลึกซึ้งที่สุดภายในห้วงคำนึงของเขา ยามนี้ต่างล้วนทะลักหลั่งไหลออกมาแล้ว
ลู่ฝานนึกขึ้นมาได้แล้ว ภาพที่หลิงเหยาถึงตายก็ไม่ยอมแยกจากเขาตอนอยู่ในประเทศตันเซิ่ง
ได้ยินขึ้นมาได้แล้ว ฉากที่หลิงเหยาอยู่ในเมืองหลวง ต้องการติดตามเขาออกจากประเทศอู่อานให้ได้
ริมใบหูของเขา ได้ยินคำพูดในตอนนั้นของหลิงเหยาแล้ว
ได้ยินเสียงขลุ่ยจากความรักอันลึกซึ้งตรึงใจของของหลิงเหยาแล้ว
“ไม่ ถ้าหากเป็นหลิงเหยาจริงๆ แล้วละก็ เธอจะไม่ทำกับฉันเช่นนี้อย่างเด็ดขาด!”
ลู่ฝานนึกถึงสีหน้าอันเย็นชาของหลิงเหยาขึ้นมาได้อีก ตอนที่เธอแทงเขาทะลุในหนึ่งกระบี่ ถึงแม้ว่าจะเป็นใบหน้าคนเดียวกัน แต่ว่าคือสองคนที่แตกต่างกันอย่างเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง
สติสัมปชัญญะของลู่ฝานฟื้นฟูกลับคืนมาทีละน้อย
อริยบุคคลวุ่นวายซึ่งกำลังพยายามเต็มที่ต้องการกลืนกินลู่ฝานนั้น พลันรู้สึกว่าลู่ฝานกำลังค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว
“ช่างน่าชังนัก!”
อริยบุคคลวุ่นวายลอบสบถด่าคำหนึ่ง ยังคงซ่อนเร้นอยู่ภายในแขนขาและกระดูกของลู่ฝานอีกครั้ง
พลังแข็งแกร่งระลอกแล้วระลอกเล่าปกป้องร่างกายลู่ฝานเอาไว้ อริยบุคคลวุ่นวายก็ไม่มีวิธีการอันประเสริฐนักเช่นกัน
เธอยังคงจำเป็นต้องใช้วิธีการของวิญญาณคับแค้น ค่อยๆ กลืนกินลู่ฝานทีละเล็กทีละน้อย
ต้องการกลืนกินหมดสิ้นในคำเดียว ช่างยากลำบากเกินไปแล้วจริงๆ โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถทำสำเร็จโดยสมบูรณ์
จิตวิญญาณเปล่งประกายเรืองรองขึ้นอีกครั้ง สติสัมปชัญญะของลู่ฝานเริ่มฟื้นฟูกลับคืน
ลู่ฝานมองเห็นศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่นๆ เดินออกไปแล้ว ก่อนออกไปยังจัดการปิดประตูบ้านลงแล้ว
ข้างเตียงของเขา เจ้าสำนักหลีซีนั่งอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ในที่นั้น
เวลานี้ภายในเรือนบ้าน เหลือเพียงเขาและเจ้าสำนักหลีซีสองคนแล้ว
เจ้าสำนักหลีซีกระแอมไอเบาๆ สองครายิ้มและพูดว่า “ตื่นแล้ว? รู้สึกเป็นอย่างไร เจ็บปวดใจ? หรือว่าอับจนปัญญา? หรือว่ารู้สึกตลอดทั้งโลกล้วนพังทลายลงแล้ว? คนมีชีวิตอยู่นั้นไร้ความหมาย?”
ลู่ฝานตอบเสียงแหบพร่าว่า “เจ้าสำนักหลี สิ่งที่ท่านพูดมาเหล่านั้นเมื่อครู่นี้เป็นความจริงหรือ?”
เจ้าสำนักหลีซีหัวเราะเหอะเหอะพูดว่า “ในบางครั้งจริงหรือเท็จนั้นสำคัญอย่างยิ่งหรือ? เรื่องราวเรื่องหนึ่งจะเป็นความจริงหรือเท็จ ระดับความสำคัญใหญ่หลวงนั้น ขึ้นอยู่กับว่านายเชื่อมันหรือไม่เท่านั้นเอง”
ลู่ฝานพูดอย่างเคร่งขรึมจริงจังว่า “ฉันเชื่อ”
เจ้าสำนักหลีซีพยักหน้าพูดว่า “เช่นนั้นสิ่งที่ฉันพูดก็คือเรื่องจริง เอาล่ะ ลู่ฝาน นายนอนสลบไสลอยู่เป็นเวลาห้าชั่วยามเต็มบวกกับเวลาอีกหนึ่งป้านน้ำชาแล้ว พวกเราไม่มีเวลามากขนาดนั้นที่จะให้นายตระหนักถึงความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญของชีวิตต่อไป ตลอดจนความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอับจนปัญญาของการพลัดพรากจากกัน สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ ได้แต่เพียงเดินรุดหน้าต่อไปเท่านั้น เวลานี้ที่วางอยู่เบื้องหน้าพวกเรายังมีเรื่องราวอีกกองพะเนินเลยทีเดียว หากนายที่เป็นผู้นำนี้ล้มลงไปจริงๆ ละก็ เช่นนั้นพวกเราก็จัดการเรื่องราวยากลำบากแล้วล่ะ นายอาจจะยังไม่ทราบว่า ตอนที่นายกำลังนอนสลบไสลอยู่นั้น ฉันตลอดจนประมุขประเทศตันเซิ่ง ยังมีหวงฝู่อู่ เย่หนานเทียนและคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างล้วนขัดแย้งกับเฒ่าเทพเงินแปดทิศและอริยบุคคลแห่งจักรวาลพวกเขาแล้ว ยามนี้พวกเราโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ความช่วยเหลือแล้วจริงๆ สุดแสนอันตรายอย่างยิ่ง นายยังจะนอนอยู่อีกหรือ?”
ในดวงตาลู่ฝานกระพริบวูบวาบหวั่นไหวเป็นประกาย “เจ้าสำนักหลี ฉันเป็นคน หาใช่เทวะไม่ ฉันรู้จักเจ็บปวดใจและก็รู้จักล้มลงเช่นกัน ฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง”
เจ้าสำนักหลีซีนำรถเข็นไม้เข้ามาใกล้ลู่ฝานมากยิ่งขึ้นแล้ว เขาจ้องมองดูใบหน้าของลู่ฝาน
เจ้าสำนักหลีซีกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายเป็นอย่างดี คนหนุ่มเยาว์วัย ตอนนี้นายอาจรู้สึกว่าสูญเสียใครบางคนไปผู้หนึ่ง ก็เท่ากับสูญเสียตลอดทั้งโลกหล้าไปแล้ว แต่ฉันต้องการบอกนายว่า ขอเพียงนายหาได้สูญเสียชีวิตไปไม่ การสูญเสียไม่ว่าจะเป็นผู้ใดไปก็ตาม ล้วนไม่ใช่ข้ออ้างที่นายจะมาท้อแท้หมดอาลัยตายอยากทั้งสิ้น ถ้าหากฉันเล่าให้นายฟังว่า มีคนผู้หนึ่งถูกศัตรูติดตามไล่ล่าสังหารถึงบ้าน ส่งผลทำให้คนทั้งครอบครัวบิดามารดาภรรยาและบุตร ล้วนถูกเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณต่อหน้าเขา มองดูโลหิตสดๆ ของพวกเขาท่วมกลบร่างกายของตนจนมิด มองเห็นสีหน้าที่ตื่นตระหนกหวาดหวั่นพรั่นพรึงของพวกเขา ประทับอยู่ภายในความทรงจำของเขาตลอดไป นายคิดว่าเขาสมควรทำอย่างไร ถ้าหากฉันเล่าให้นายฟังว่า มีคนผู้หนึ่งถูกพี่น้องสนิทดีที่สุดของตัวเองทรยศหักหลัง สะบัดมือคราหนึ่งฟันใส่สามดาบอย่างต่อเนื่องซึ่งหน้า เสร็จแล้วถ่มน้ำลายถุยใส่หลายคำพูดว่าไอ้ตัวโง่เขลาคราหนึ่ง คนผู้นี้สมควรทำอย่างไรอีก ถ้าหากฉันเล่าให้นายฟังอีกว่า มีคนผู้หนึ่ง เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวในโลก ใต้หล้าไม่มีคนที่สามารถเชื่อถือไว้วางใจได้ มีชีวิตอยู่อย่างท่ามกลางความหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อความตายตลอดเวลาทุกเมื่อเชื่อวัน เขาเคยสังหารพี่น้อง เคยสังหารมิตรสหาย เคยสังหารคนที่เขารักที่สุด คนผู้นี้สมควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร? ลู่ฝาน ฉันต้องการจะบอกนายว่า บุรุษชายชาตรีได้แต่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเท่านั้น เพียงเช่นนี้เท่านั้นเองแหละ”
ลู่ฝานสูดหายใจเข้าลึกๆ คำหนึ่ง แข็งขืนฝืนลุกขึ้นมานั่งแล้ว เขาจ้องมองเจ้าสำนักหลีซีพูดว่า “สามคนนี้สามารถทำได้อย่างไร?”
เจ้าสำนักหลีซียิ้มน้อยๆ คราหนึ่งพูดว่า “สามคนหรือ? ไม่ใช่ คนเดียวเท่านั้น ส่วนสามารถทำได้อย่างไรนั้น เหอะ เหอะ”
พูดจาพลางเจ้าสำนักหลีซีดึงเสื้อผ้าของตัวเองออก เผยให้ลู่ฝานได้เห็นรอยบาดแผลสามแห่งที่อยู่บนร่างกายของตน พร้อมกับพูดว่า “ยังจะสามารถทำอย่างไรได้อีกล่ะ พยายามฝืนยืนหยัดมีชีวิตต่อไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
อ่านถึง 2276 แล้ว อยากอ่านต่อช่วยแนะนำหน่อยครับ ว่าอ่านต่อได้ทางช่องทางไหน...
รอนานมากครับเมื่อไรจะแปลต่อครับ...
มีใครรู้วิธีอ่านต่อมั้ยครับ ผมอ่านถึง2276เป็นรอบที่3แล้ว ก็ยังไม่มีต่อเลย จะหาอ่านต่อได้างช่องทางไหนบ้างครับ...
เจ้าของนิยายเนี่ยมันวิปริตหรือเปล่าวะเขียนๆอยู่แล้วก็จบแบบงงหลายเรื่องแล้ว...
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...