เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2133

“ทุกท่าน เปิดเขตวิถีด้วย!”

อริยบุคคลน้ำแข็งเห็นท่าไม่ดีจึงร้องตะโกนขึ้น

แต่หลังจากตะโกนออกไป อริยบุคคลน้ำแข็งกลับก้าวถอยหลังเสียเอง

หลังการต่อสู้กับลู่ฝานครั้งก่อนจนถึงตอนนี้ พลังวิญญาณของเธอยังฟื้นฟูได้ไม่สมบูรณ์

เธอไม่สามารถรวบรวมความกล้าเผชิญหน้ากับลู่ฝานตรง ๆ ได้ ต่อให้วันนี้จะมีลูกสมุนมากมายอยู่ในสนามด้วย

หลังได้ยินเสียงตะโกนของอริยบุคคลน้ำแข็ง ผู้แข็งแกร่งที่มาจากนานาประเทศต่างพากันเขตวิถี

ทันใดนั้น ทั่วทั้งภูเขาน้ำแข็งบริเวณรอบนอกกว่าหลายพันลี้ เริ่มมีกลุ่มลมเมฆฝนและสายฟ้าก่อตัวขึ้น ประกายแสงต่าง ๆ ปกคลุมไปทั่วยอดเขา มองจากที่ไกล ๆ ราวกับทั้งผืนฟ้าเต็มไปด้วยเมฆสีรุ้ง ดั่งดอกไม้งามกำลังผลิบานแบบไม่มีที่สิ้นสุด

เขตวิถีต่าง ๆ ทำให้ใต้หล้าต้องแยกออกจากกัน ทั้งยังแบ่งส่วนอย่างชัดเจน ราวกับแผ่นทรงกลมหลากสีที่กระจัดกระจายออกสู่เบื้องนอก ขณะที่ตำแหน่งที่รวบรวมพลังทั้งหมดไว้ก็คือจุดที่ลู่ฝานยืนอยู่

ลู่ฝานกวาดสายตามองไปที่คนทั้งหมด สัมผัสได้ถึงพลังเต๋าที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่รอบ ๆ

ราวกับแม่น้ำเชี่ยวกรากที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา

ทว่าลู่ฝานกลับไร้ซึ่งความหวาดกลัว เพราะพลังที่รวมอยู่ในเขตวิถีเหล่านี้ ไม่มีพลังไหนที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงการถูกคุกคาม

ต่อให้เป็นผู้เฒ่าที่ดูท่าทางค่อนข้างดุร้ายผู้นั้น ทั้งเขตวิถีสีดำสนิททั่วร่าง ทั้งดูลึกลับซับซ้อน ยังไม่อยู่ในสายตาของลู่ฝานเลยสักนิด

แสงใต้ฝ่าเท้าชายหนุ่มสว่างไสวขึ้น ลู่ฝานเองก็ปล่อยเขตวิถีของตนเองออกมาเช่นกัน

เขตวิถีของเขาไม่เหมือนกับของผู้อื่น ด้านในไม่ได้มีกลิ่นอายของต้าเต๋าอยู่ สิ่งที่มีคือพลังที่ดูเหมือนว่างเปล่า ทว่ากลับเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง

เดิมทีการที่ลู่ฝานใช้เขตวิถีนี้ก่อนจะเข้าสู่อริยปราชญ์ก็เพราะว่าเขาในตอนนั้นไม่สามารถอัดพลังเต๋าของตนเองเข้าไปทั้งหมดได้ ทำให้เขตวิถีของเขาเป็นเหมือนชิ้นงานที่เกือบสมบูรณ์

แต่ในตอนนี้ลู่ฝานมีความสามารถในการควบรวมต้าเต๋าแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเต๋าแห่งไฟหรือเต๋าแห่งชีวิตล้วนทำได้ทั้งนั้น

ทว่าลู่ฝานกลับไม่ได้ทำลงไป เหตุผลมีอยู่สองประการ

ประการแรกคือ ลู่ฝานรู้สึกว่ายังมีต้าเต๋าที่เขาสามารถเรียนรู้ได้อีกไม่น้อย

ทั้งวิถีห้าธาตุ เต๋าแห่งชีวิต วิถีวิญญาณดับมอดหรือแม้กระทั่งเทพบู๊เสินเซียวแห่งวิถีลิขิตฟ้า ทั้งหมดนี้เขาเองก็ยังทดลองฝึกฝนอยู่

หากเขาควบรวมเขตวิถีของตนเองเพียงสิ่งเดียว ลู่ฝานคิดว่าเขาจะเสียเปรียบเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่จัดการเขตวิถีของตนเองให้เสร็จสมบูรณ์เสียที

ประการที่สอง ลู่ฝานไม่ได้รู้สึกว่าเขตวิถีของตนเองอ่อนแอเกินไป

เขาไม่ได้ฝึกชี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องใช้เขตวิถีทั้งหมดในการจู่โจมด้วย

เปรียบเทียบกันแล้ว ลู่ฝานชอบการพุ่งเข้าไปประชิดแล้วซัดหน้าคนอื่นเลยมากกว่า

เขาเองก็ไม่ใช่นักบู๊เพียงอย่างเดียวอีกเช่นกัน เขตวิถีนั้นไม่จำเป็นต้องมีพลังที่สามารถกักขังศัตรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ลู่ฝานที่มีวิชาสวรรค์อยู่ในมือ ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกที่ยืนอยู่ไกล ๆ หรอก

ต่อให้ไกลแค่ไหนก็จัดการได้อยู่ดี!

ดังนั้น ลู่ฝานจึงคิดว่าเขตวิถีของเขาเพียงสามารถต้านพลังได้ก็พอแล้ว

ในด้านนี้ลู่ฝานเองก็พยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของเขตวิถีตนเองอย่างสุดความสามารถ กระทั่งตอนนี้เขตวิถีของลู่ฝานยังไม่ต่างอะไรกับร่องน้ำ ที่คอยสกัดกั้นแรงกดดันจากเขตวิถีของคนทั้งหมด

ทั้งความแข็งแกร่งของปราณชี่และความแข็งแกร่งทางกายเนื้อ ลู่ฝานควบคุมพลังเต๋าไว้เพื่อเป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งในเขตวิถีของเขา

ลู่ฝานในปัจจุบันได้พัฒนาสิ่งเหล่านี้ไปมากยิ่งกว่าตอนที่อยู่ประเทศฉิงเทียนเสียอีก

เขตวิถีแผ่ขยายออก แสงสว่างใต้เท้าของลู่ฝานราวกับเป็นแสงอาทิตย์ที่กำลังขับไล่ความมืด คาดไม่ถึงว่าผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่อริยปราชญ์ทั้งหลายเหล่านี้ถึงกับต้องถอยหลัง

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

“เขาเป็นตัวอะไรกันแน่!”

“สกัดไว้ ห้ามอ่อนกำลังเด็ดขาด!”

คนกลุ่มหนึ่งกู่ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่ลู่ฝานแสดงออกมา มันเกินขีดจำกัดที่พวกเขาจินตนาการไว้

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ขุนพลังสุดเหนือฟ้าที่ฝึกต้าเต๋าสำเร็จและเป็นคนในแดนอริยปราชญ์อย่างเช่นพวกเขา

แต่เหตุใดความแตกต่างระหว่างพวกเขาและลู่ฝานถึงได้มากมายขนาดนี้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า