เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2193

มือของผู้อาวุโสหกเริ่มสั่นแรงขึ้น พลังจิตวิญญาณในร่างลู่ฝานเป็นเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ซัดใส่ร่างเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

นับตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสหกเริ่มฝึกเคล็ดวิชาพลังจิตนิรันดร์ที่เป็นวิชาเฉพาะของสำนักจิ่วเซียว เขาก็สามารถควบคุมพลังด้านจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดี จนแทบจะไม่มีผู้ใดมาเป็นคู่ต่อสู้ได้

แต่ใครจะไปคิดว่าวันนี้เด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ครบยี่สิบปีอย่างลู่ฝานจะสามารถกดพลังเขาไว้ได้อย่างอยู่หมัด

ในความทรงจำของผู้อาวุโสหก พลังวิญญาณที่พอจะเทียบกับเขาได้ในใต้หล้านี้มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่เป็นผู้ฝึกชั่วร้ายเหล่านั้น

แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าลู่ฝานฝึกวิถีวิญญาณอันเป็นแก่นวิชาที่สำคัญที่สุดของผู้ฝึกชั่วร้ายสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ยามนี้หลังจากที่พลังจิตวิญญาณแผ่ขยายออกมาอย่างเต็มที่แล้ว พลังของลู่ฝานจึงไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกชั่วร้ายที่ฝึกพลังจิตวิญญาณมาทั้งชีวิต

ก่อนหน้านี้ที่เคยสู้กับราชาปีศาจผู้ปราบมังกร พลังจิตวิญญาณของลู่ฝานก็สามารถปล่อยกระบวนท่าสังหารออกมาได้แล้ว

ยามที่ชาแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดถูกกลืนลงไป ลมปราณของลู่ฝานไม่เพียงหยุดอาการเอื่อยเฉื่อย แต่กลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ผู้อาวุโสรองและคนอื่น ๆ ต่างเอ่ยถามขึ้นพร้อมกัน “ผู้อาวุโสหก เกิดอะไรขึ้น?”

“เห็น ๆ กันอยู่ว่าตัวเขายังอยู่ในแดนมายา ทำไมเขาถึงยังดื่มชาที่เหลือลงไปได้อีก?”

“แบบนี้ถือว่าเขาผ่านด่านแล้วใช่ไหม?”

คำถามจากเหล่าผู้อาวุโสแต่ละคน ผู้อาวุโสหกล้วนตอบไม่ได้

ลู่ฝานทำอย่างไรกันแน่จึงสามารถดื่มชาที่เหลือได้ทั้ง ๆ ที่เขายังอยู่ในแดนมายา?

ชาแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดถูกดื่มลงไปจนหมด หากอิงตามคำพูดของผู้อาวุโสหก เช่นนี้ก็แสดงว่าลู่ฝานได้ผ่านด่านทดสอบแล้ว

แต่ลู่ฝานยังไม่ออกมาจากแดนมายา หากว่ากันตามจริงแดนมายาของชาถ้วยแรกเขายังทำลายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เช่นนี้จะนับได้อย่างไร ผู้อาวุโสหกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไรดี

เหล่าศิษย์ที่กำลังดูลู่ฝานอยู่ด้านข้างต่างก็แสดงความคิดเห็นกันมากมาย พวกเขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับวิธีผ่านด่านทดสอบของลู่ฝานแล้วเช่นกัน

“ลู่ฝานผู้นี้ถือว่าโกงรึเปล่า ใช้โอกาสที่ตัวเองได้สติขึ้นมาครู่หนึ่งดื่มชาเข้าไปจนหมด!”

“วิธีการแบบนี้ไม่นับว่าผ่านแน่นอน ไม่อย่างนั้นด่านสุดยากรอบนี้จะไปยากอะไร”

“ใช่ ในเมื่อเขาดื่มชาแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดลงไปแล้ว เช่นนั้นก็ต้องให้เขาออกมาจากแดนมายาแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ดให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นก็จะถือว่าไม่ผ่าน!”

...

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าศิษย์สายเลือดเสินหวง ผู้อาวุโสแต่ละท่านต่างก็ได้ยินเต็มสองหู

ผู้อาวุโสรองจึงหันไปถามผู้อาวุโสใหญ่ว่า

“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านคิดว่าควรจะนับอย่างไร!”

ผู้อาวุโสใหญ่จึงยิ้มพร้อมตอบกลับ “ง่ายนิดเดียว! แค่รอให้ลู่ฝานออกมาจากแดนมายา หากเขาออกมาไม่ได้ เขาก็ต้องกลายเป็นคนที่วิญญาณแหลกสลาย เช่นนี้ยังต้องคุยเรื่องผ่านไม่ผ่านอะไรอีก”

คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่เรียบง่ายและชัดเจน ผู้อาวุโสที่เหลือต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

ผู้อาวุโสหกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็หลับตาลงพร้อมสัมผัสเข้าไปถึงแดนมายาของลู่ฝาน

แสงสว่างบนมือข้างซ้ายขยายใหญ่ขึ้น คนทั้งหมดขยับเข้ามาอีกเล็กน้อย เฝ้ามองเหตุการณ์ที่ลู่ฝานต้องเผชิญอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน ในแดนมายาของลู่ฝานกลับไม่มีคนอื่นเหลืออยู่แล้ว มีเพียงลู่ฝานที่สวมชุดดำร่างหนึ่งและสวมชุดขาวร่างหนึ่งยืนอยู่คนละฝั่ง

แดนมายาเช่นนี้ทำเอาผู้อาวุโสหกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

เขาไม่เคยรู้เลยว่าการดื่มชาลงไปพร้อมกันทั้งเจ็ดถ้วยจะเกิดแดนมายาเช่นนี้

ในแดนมายา ลู่ฝานทั้งสองคนสบตากัน แต่กลับแยกไม่ออกว่าใครคือตัวจริงใครคือตัวปลอม

หรือบางทีทั้งสองอาจจะเป็นทั้งตัวจริงและตัวปลอม

“นายเป็นใคร?”

“แล้วนายเป็นใคร?”

ทั้งสองเอ่ยถามขึ้นช้า ๆ คนหนึ่งมีสีหน้าเย็นชา ส่วนอีกคนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า