เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2195

หลังด่านที่สี่จบลง คนทั้งหมดต่างก็แยกย้าย บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

ดูเหมือนด่านที่ห้าต้องรออีกสิบวันเต็ม ๆ ถึงจะจัดการต่อได้

เป็นธรรมดาที่ลู่ฝานไม่ต้องการวิธีการเช่นนี้ เขาแทบอยากจะผ่านด่านที่เหลือทั้งหมดภายในวันนี้วันเดียว

ทว่าผู้อาวุโสแต่ละท่านที่ได้กล้วยไม้สวรรค์แห่งหุ้นตุ้นไป ดูเหมือนจะไม่ได้รีบร้อนกับด่านสุดยากที่เหลือ

ราวกับพวกเขามีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าต้องไปทำ เดิมทีตกลงกันว่าอีกสามวันจะเริ่มด่านที่ห้า คาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะเปลี่ยนเป็นสิบวัน

ด้วยเหตุนี้ผู้อาวุโสใหญ่จึงไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่มอบฐานะที่สามารถเข้าออกเขาเสินหวงได้ตามต้องการให้แก่ลู่ฝาน

จากนั้นก็ปล่อยลู่ฝานให้ใช้ชีวิตอยู่บนเขาเสินหวงเองโดยไม่ถามอะไรอีก

ด้วยเหตุนี้ลู่ฝานจึงรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ถูกยอมรับให้เป็นเจ้าสำนักของสายเลือดเสินหวง

การตัดสินใจของผู้อื่น เขามีแต่ต้องเคารพเท่านั้น

ด้านล่างเขาเสินหวง ภายในเมือง

ในภัตตาคารขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง บนโต๊ะในห้องส่วนตัวชั้นสองเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส

“มาเร็ว สหายลู่ฝาน ฉันขอคารวะนายสักจอก เดี๋ยวผ่านด่านสุดยากอีกไม่กี่ครั้ง นายก็จะได้เป็นเจ้าสำนักคนแรกที่ได้รับการยอมรับของพวกเราสายเลือดเสินหวงจริง ๆ แล้ว นายวางแผนจะพาเราออกจากหุ้นตุ้นไปสู้กับพวกผู้ฝึกชั่วร้าย หรือว่าตั้งใจจะให้พวกเราสายเลือดเสินหวงเป็นปราการสุดท้าย ขนย้ายของสำคัญเข้ามาเหรอ?”

เฟิงเสี่ยวชี่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เอ่ยถามลู่ฝานไปพลาง พร้อมทั้งคารวะเหล้าอีกฝ่ายไปด้วย

อีกด้านไอ้อ้วนตงกระดกเหล้าเข้าไปอึกใหญ่ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

ลู่ฝานกินอาหารไปพลาง ส่วนมือข้างหนึ่งก็กำลังคลึงมุกสองสามเม็ดนั้นเล่น “เรื่องพวกนี้ล้วนต้องดูตามสถานการณ์ถึงจะตอบได้ ส่วนความตั้งใจของฉัน ยังไงก็ยังเป็นการสู้กับพวกผู้ฝึกชั่วร้ายสักครั้งอยู่ดี ฉันไม่ได้มีอำนาจเป็นของตัวเอง หากฉันสามารถขึ้นเป็นเจ้าสำนักของสายเลือดเสินหวงที่ได้รับการยอมรับได้ ก็ถือว่าฉันมีพลังเป็นของตนเองแล้วส่วนหนึ่ง ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะบุกหรือถอย ก็สะดวกขึ้นเยอะ”

ไอ้อ้วนตงยิ้มพร้อมเอ่ยต่อ “ไม่ใช่แค่เท่านั้นนะ ลู่ฝาน นายบอกสิ่งที่นายคิดทั้งหมดมาเลยก็ได้ ตอนนี้มีแค่พวกเราสามคน นายเล่าออกมาให้ชัดเจนเลยไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไร หลังผ่านด่านสุกยากทั้งเก้าแล้ว สายเลือดเสินหวงก็ต้องติดตามนายไปตลอดอยู่ดี นายบอกเราก่อน เราจะได้มีความมั่นใจไว้”

ลู่ฝานยิ้มออกมาเล็กน้อย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้ารับ “ก็ได้ ฉันจะเล่าสิ่งที่ฉันคิดให้พวกนายฟังก็ได้ ฉันเกิดอยู่ในประเทศเล็ก ๆ แน่นอนว่าพลังอำนาจของประเทศอู่อานต้องถูกมองข้ามอยู่ตลอด ฉันมีเพียงศิษย์พี่และเพื่อนของอาจารย์อีกไม่กี่คนอยู่ข้างกาย หากเอาคนเหล่านี้มารวมกัน ยังเทียบกับทีมสัตว์อสูรเล็กของเจ้าสำนักหลีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าจะพูดถึงด้านพละกำลัง วรยุทธของฉันก็แค่พอใช้ได้ ไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากมาย แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เจ้าสำนักหลีก็ยังตั้งใจจะผลักดันฉันออกมายืนอยู่หน้าสุด พวกนายรู้ไหมว่าเพราะอะไร?”

เฟิงเสี่ยวชี่จึงเอ่ยตอบ “ง่ายจะตาย ก็การฝึกทั้งบู๊และชี่ของนายและการเป็นผู้สืบทอดของสำนักจิ่วเซียวไง ไหนจะพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาอีก เจ้าสำนักหลีคงอยากปั้นนายให้เป็นวีรบุรุษในยุคนี้ เพื่อปกป้องใต้หล้า ช่วยเหลือโลกทั้งสี่!”

เฟิงเสี่ยวชี่เพิ่งพูดจบ ไอ้อ้วนตงก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

ในเสียงหัวเราะยังเจือความเย้ยหยันไว้ด้วยเล็กน้อย ไอ้อ้วนตงหัวเราะพร้อมส่ายหน้าไปมา

“เฟิงเสี่ยวชี่เอย นายคิดง่ายเกินไปแล้ว ให้ลู่ฝานอธิบายให้ฟังอีกสักรอบดีกว่า!”

ลู่ฝานยิ้มพร้อมตอบกลับ “สหายเฟิง ที่นายพูดก็ถูกอยู่ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ฉันคิดว่าเจ้าสำนักหลีคงมีความคิดที่ลึกกว่านี้อีกขั้น เขาน่าจะวางแผนใช้ฉันเป็นเป้า สั่งสมกำลังในนามของฉัน จากนั้นก็ต่อสู้กับผู้ฝึกชั่วร้ายในโลกนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า