หลังด่านที่สี่จบลง คนทั้งหมดต่างก็แยกย้าย บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ดูเหมือนด่านที่ห้าต้องรออีกสิบวันเต็ม ๆ ถึงจะจัดการต่อได้
เป็นธรรมดาที่ลู่ฝานไม่ต้องการวิธีการเช่นนี้ เขาแทบอยากจะผ่านด่านที่เหลือทั้งหมดภายในวันนี้วันเดียว
ทว่าผู้อาวุโสแต่ละท่านที่ได้กล้วยไม้สวรรค์แห่งหุ้นตุ้นไป ดูเหมือนจะไม่ได้รีบร้อนกับด่านสุดยากที่เหลือ
ราวกับพวกเขามีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าต้องไปทำ เดิมทีตกลงกันว่าอีกสามวันจะเริ่มด่านที่ห้า คาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะเปลี่ยนเป็นสิบวัน
ด้วยเหตุนี้ผู้อาวุโสใหญ่จึงไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่มอบฐานะที่สามารถเข้าออกเขาเสินหวงได้ตามต้องการให้แก่ลู่ฝาน
จากนั้นก็ปล่อยลู่ฝานให้ใช้ชีวิตอยู่บนเขาเสินหวงเองโดยไม่ถามอะไรอีก
ด้วยเหตุนี้ลู่ฝานจึงรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ถูกยอมรับให้เป็นเจ้าสำนักของสายเลือดเสินหวง
การตัดสินใจของผู้อื่น เขามีแต่ต้องเคารพเท่านั้น
ด้านล่างเขาเสินหวง ภายในเมือง
ในภัตตาคารขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง บนโต๊ะในห้องส่วนตัวชั้นสองเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส
“มาเร็ว สหายลู่ฝาน ฉันขอคารวะนายสักจอก เดี๋ยวผ่านด่านสุดยากอีกไม่กี่ครั้ง นายก็จะได้เป็นเจ้าสำนักคนแรกที่ได้รับการยอมรับของพวกเราสายเลือดเสินหวงจริง ๆ แล้ว นายวางแผนจะพาเราออกจากหุ้นตุ้นไปสู้กับพวกผู้ฝึกชั่วร้าย หรือว่าตั้งใจจะให้พวกเราสายเลือดเสินหวงเป็นปราการสุดท้าย ขนย้ายของสำคัญเข้ามาเหรอ?”
เฟิงเสี่ยวชี่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เอ่ยถามลู่ฝานไปพลาง พร้อมทั้งคารวะเหล้าอีกฝ่ายไปด้วย
อีกด้านไอ้อ้วนตงกระดกเหล้าเข้าไปอึกใหญ่ จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
ลู่ฝานกินอาหารไปพลาง ส่วนมือข้างหนึ่งก็กำลังคลึงมุกสองสามเม็ดนั้นเล่น “เรื่องพวกนี้ล้วนต้องดูตามสถานการณ์ถึงจะตอบได้ ส่วนความตั้งใจของฉัน ยังไงก็ยังเป็นการสู้กับพวกผู้ฝึกชั่วร้ายสักครั้งอยู่ดี ฉันไม่ได้มีอำนาจเป็นของตัวเอง หากฉันสามารถขึ้นเป็นเจ้าสำนักของสายเลือดเสินหวงที่ได้รับการยอมรับได้ ก็ถือว่าฉันมีพลังเป็นของตนเองแล้วส่วนหนึ่ง ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะบุกหรือถอย ก็สะดวกขึ้นเยอะ”
ไอ้อ้วนตงยิ้มพร้อมเอ่ยต่อ “ไม่ใช่แค่เท่านั้นนะ ลู่ฝาน นายบอกสิ่งที่นายคิดทั้งหมดมาเลยก็ได้ ตอนนี้มีแค่พวกเราสามคน นายเล่าออกมาให้ชัดเจนเลยไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไร หลังผ่านด่านสุกยากทั้งเก้าแล้ว สายเลือดเสินหวงก็ต้องติดตามนายไปตลอดอยู่ดี นายบอกเราก่อน เราจะได้มีความมั่นใจไว้”
ลู่ฝานยิ้มออกมาเล็กน้อย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้ารับ “ก็ได้ ฉันจะเล่าสิ่งที่ฉันคิดให้พวกนายฟังก็ได้ ฉันเกิดอยู่ในประเทศเล็ก ๆ แน่นอนว่าพลังอำนาจของประเทศอู่อานต้องถูกมองข้ามอยู่ตลอด ฉันมีเพียงศิษย์พี่และเพื่อนของอาจารย์อีกไม่กี่คนอยู่ข้างกาย หากเอาคนเหล่านี้มารวมกัน ยังเทียบกับทีมสัตว์อสูรเล็กของเจ้าสำนักหลีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าจะพูดถึงด้านพละกำลัง วรยุทธของฉันก็แค่พอใช้ได้ ไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากมาย แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เจ้าสำนักหลีก็ยังตั้งใจจะผลักดันฉันออกมายืนอยู่หน้าสุด พวกนายรู้ไหมว่าเพราะอะไร?”
เฟิงเสี่ยวชี่จึงเอ่ยตอบ “ง่ายจะตาย ก็การฝึกทั้งบู๊และชี่ของนายและการเป็นผู้สืบทอดของสำนักจิ่วเซียวไง ไหนจะพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาอีก เจ้าสำนักหลีคงอยากปั้นนายให้เป็นวีรบุรุษในยุคนี้ เพื่อปกป้องใต้หล้า ช่วยเหลือโลกทั้งสี่!”
เฟิงเสี่ยวชี่เพิ่งพูดจบ ไอ้อ้วนตงก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
ในเสียงหัวเราะยังเจือความเย้ยหยันไว้ด้วยเล็กน้อย ไอ้อ้วนตงหัวเราะพร้อมส่ายหน้าไปมา
“เฟิงเสี่ยวชี่เอย นายคิดง่ายเกินไปแล้ว ให้ลู่ฝานอธิบายให้ฟังอีกสักรอบดีกว่า!”
ลู่ฝานยิ้มพร้อมตอบกลับ “สหายเฟิง ที่นายพูดก็ถูกอยู่ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ฉันคิดว่าเจ้าสำนักหลีคงมีความคิดที่ลึกกว่านี้อีกขั้น เขาน่าจะวางแผนใช้ฉันเป็นเป้า สั่งสมกำลังในนามของฉัน จากนั้นก็ต่อสู้กับผู้ฝึกชั่วร้ายในโลกนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า
ปู่เชี่ยไรเรียกหลานตัวเองว่านาย นิยายย้อนยุคมึงแปลซะ ทันสมัยเลย ไอ้เวร...
ช่องทางซื้ออ่านก็ไม่มี...
2276จบค้างเลยมาต่อเร็วๆนะ...
รออ่าน2277...
เสียดายมาก อ่านมาถึงหน้า 2276 มา2รอบแล้ว กำลังสนุกเลย ช่วยแปลตาอให้หน่อยนะครับ...
ถ้าไม่แปลต่อเรื่องต่อไปก็คงเหมือนเรื่องนี้หรือเปล่าครับไม่จบสักเรื่อง...
เปลี่ยนชื่อเว็บไซต์อีกครั้งเป็นครั้งที่3นับแต่ได้เข้ามาอ่าน สัญญานของการไปต่อ...
พยายามชำระเงินจากทั่ให้บนprofile จำนวน$4.99 แต่ไม่สำเร็จ ทดลองจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ก็ผ่าน ซึ่งแสดงว่าcardไม่มีปัญหา บอกได้ไหมว่ามีปัญหาที่ไหน หรือว่ายังไม่ได้แปลเพิ่ม จึงยังไม่ต้องจ่าย มีข้อสงสัยมากมาย ชี้แจงสักหน่อยได้ไหม...
รอจนหมดหวัง...
อ่านถึง2276ครบ2รอบแล้วครับ ไม่แปลต่อแล้วเหรอ...