เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2197

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ประเทศตันเซิ่ง แดนตะวันออก

เจ้าสำนักหลีเองก็ได้รับจดหมายแล้วเช่นกัน

ทว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่จดหมายที่ลู่ฝานได้รับฉบับนั้น กลับเป็นจดหมายที่เทพเงินแปดทิศเขียนให้เจ้าสำนักหลีโดยเฉพาะ

ส่วนเนื้อหาด้านในไม่ได้แตกต่างกันมากนัก มีเพียงน้ำเสียงที่ดูอ่อนลงมาเล็กน้อยเท่านั้น

ในจดหมายของลู่ฝาน เทพเงินแปดทิศปฏิบัติต่อเขาราวกับเด็กน้อย น้ำเสียงเย่อหยิ่งเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แต่สำหรับเจ้าสำนักหลี แม้น้ำเสียงในจดหมายจะดูแข็งกร้าว แต่ก็ยังถือเป็นทางการ

“ใครก็ได้มานี่สิ รวบรวมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในเขตเหนือเป็นรูปเล่ม จัดเรียงเสร็จแล้วเอาไปวางไว้ในห้องฉัน เย็นนี้ฉันอยากดูหน่อยว่าเทพเงินแปดทิศต้องการจะทำอะไรกันแน่!”

เจ้าสำนักหลีขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ชัดถึงความกังวล

เขาวางจดหมายลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองประมุขประเทศตันเซิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

“เขตเหนือถูกตีแตกแล้ว!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งไม่ได้ตอบกลับ เขาเพียงโบกมือเบา ๆ ส่งผลให้ปุยเมล็ดหลิวที่ลอยอยู่รอบ ๆ นิ่งอยู่กลางอากาศ

ภายในศาลา จู่ ๆ หม้อต้มยาขนาดเล็กก็มีควันสีขาวพวยพุ่งขึ้น

ประมุขประเทศตันเซิ่งเปิดหม้อน้อยออก ก่อนจะหยิบเม็ดยาขึ้นมา จากนั้นก็ส่งให้เจ้าสำนักหลี “ยาเม็ดนี้สามารถต่ออายุคุณได้อีกสามปี”

เจ้าสำนักหลีรับเม็ดยามา ก่อนจะส่งให้หลีเหรินหลงที่ยืนอยู่ด้านข้างซึ่งกำลังยกถ้วยชาให้เขา

ท่าทางไม่ใส่ใจเช่นนั้น ราวกับว่าไม่ได้เห็นเม็ดยาต่ออายุนี่เป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไร

เจ้าสำนักหลีเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย

“แค่สามปี ฉันนึกว่าประมุขประเทศตันเซิ่งลงมือทั้งที อย่างน้อยก็น่าจะต่ออายุฉันได้สักสิบปีเสียอีก!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งเหลือบมองเจ้าสำนักหลีเล็กน้อย “คุณควรจะตายได้ตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะยาเทวดาในประเทศตันเซิ่งมีมากพอ คุณได้ตายเร็วกว่าเดิมอีก สามปีถือว่าไม่น้อยแล้ว!”

เจ้าสำนักหลีพยักหน้ารับ “ก็จริง สามปีก็มากพอที่จะทำอะไรได้หลายเรื่องเชียว ประมุขประเทศตันเซิ่ง คุณคิดว่าครั้งนี้พวกเราควรลงมือไหม? พวกเทพเงินแปดทิศพ่ายแพ้เร็วกว่าที่เราคิดเสียอีก ดูท่าผู้ฝึกชั่วร้ายคงจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี ปัญหายิ่งหนักเข้าไปใหญ่!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งตอบกลับ “หนักก็หนักสิ เพราะถึงอย่างไรพวกผู้ฝึกชั่วร้ายคงไม่สามารถโจมตีเข้ามาถึงแดนตะวันออกในเร็ว ๆ นี้ได้แน่ รอให้พวกเทพเงินแปดทิศแพ้ไปพอสมควร เราค่อยออกหน้าไปเก็บกวาดเศษซากที่เหลือก็ได้”

เจ้าสำนักหลีเผยรอยยิ้มออกมา “ประมุขประเทศตันเซิ่งช่างมั่นอกมั่นใจเสียจริง ถ้าเป็นเช่นนี้ก็มีอยู่วิธีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้พวกเรามีทางเลือกอยู่สองทาง ทางแรกคือไปช่วยพวกเทพเงินแปดทิศ ทางที่สองคือไม่ต้องเคลื่อนพลใด ๆ ทั้งสิ้น รอดูสถานการณ์ไปก่อน”

“ไม่เคลื่อนพล! คอยเก็บกวาดทหารหนีตาย!”

ประมุขประเทศตันเซิ่งเลือกทางที่สองโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

เขาไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับเทพเงินแปดทิศหรือผู้ฝึกชั่วร้ายนัก ปล่อยให้คนทั้งสองกลุ่มนี้ตายไปเลยถึงจะดีที่สุด!

เจ้าสำนักหลีคิดไปคิดมา ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ “ฉันกับคุณคิดไม่เหมือนกัน ฉันคิดว่าในเวลาแบบนี้เราควรเข้าไปช่วยเทพเงินแปดทิศสักครั้ง จะให้เขาพ่ายแพ้เร็วเกินไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้น หากพลังอำนาจของผู้ฝึกชั่วร้ายมีมากเกินไป แดนตะวันออกของเราคงได้ตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ทันทีที่พวกผู้ฝึกชั่วร้ายรู้สึกว่าตนเองแข็งแกร่งมากพอแล้ว พวกมันก็จะเริ่มบุกโจมตีเขตตะวันตกและแดนตะวันออก เช่นนั้นยิ่งจัดการได้ยาก! พวกเรายังอ่อนแอเกินไป!”

เจ้าสำนักหลีตอบกลับ “เรื่องเช่นนี้ประมุขประเทศตันเซิ่งคุณก็ยังไม่รู้? แดนตะวันออกเคยเป็นสนามรบในสมัยโบราณ เมื่อหลายร้อยปีก่อนยังเป็นสถานที่ที่ใช้รบกันระหว่างฝ่ายดีและฝ่ายชั่วด้วย ยอดฝีมือที่ตกหล่นอยู่ที่นี่มีจำนวนไม่น้อย สมบัติล้ำค่าที่เหลือทิ้งไว้ก็มากที่สุด การสืบทอดก็มากที่สุด บวกกับปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความจริงแล้วแดนตะวันออกเป็นสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งซึ่งเข้าสู่แดนที่แน่นอนแล้วต้องการมาเพื่อทะลุระดับทั้งนั้น หากบอกให้ยอดฝีมือเหล่านี้หาสถานที่ซ่อนตัวล่ะก็ พวกเขาไม่มีทางเลือกเขตใต้หรือเขตเหนือหรอก พวกเขาจะต้องเลือกแดนตะวันออกอย่างแน่นอน”

ประมุขประเทศตันเซิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉันพักอยู่ในแดนตะวันออกมาตั้งนาน ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เลย”

เจ้าสำนักหลีตอบกลับ “นั่นก็เพราะประมุขประเทศตันเซิ่งคุณไม่ชอบออกไปข้างนอก แถมยังไม่ยอมศึกษาเรื่องเหล่านี้น่ะสิ คนอย่างฉัน แม้ว่าวิทยายุทธแทบจะไม่มี แต่สำหรับเรื่องที่น่าสนใจเช่นนี้ฉันชอบศึกษาทั้งนั้น เพราะงั้นถึงได้รู้เรื่องมากหน่อย อย่างเรื่องที่ฉันพอเข้าใจเชัดหน่อยก็คือ ในแดนตะวันออกยังมียอดฝีมืออีกสองคนที่ยังไม่ปรากฏตัว หากสามารถบีบให้พวกเขาออกมาได้ โอกาสชนะของเราจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว”

ประมุขประเทศตันเซิ่งขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม “คุณหมายถึงใคร?”

เจ้าสำนักหลีวางถ้วยชาลงเบา ๆ ก่อนจะตอบว่า “เนตรปีศาจทะลุสวรรค์ ตาบอดหลัว และเทพพยากรณ์ลิขิตสวรรค์ หญิงชราเฉียน”

นัยน์ตาประมุขประเทศตันเซิ่งหดเล็กลง ชื่อของสองคนนี้ต่างเป็นชื่อที่เขาเคยได้ยินมาก่อน

หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ประมุขประเทศตันเซิ่งจึงเอ่ยขึ้นว่า “สองคนนี้หาตัวไม่ได้ง่าย ๆ นะ!”

เจ้าสำนักหลีตอบกลับ “ถ้าหาตัวได้ง่าย คงไม่ต้องให้คุณบอกหรอก จากความสามารถของหอฝึกสัตว์ ฉันถึงได้รู้ว่าพวกเขามาถึงแดนตะวันออกแล้ว แต่รายละเอียดที่ว่าอยู่ที่ไหนกลับไม่อาจรู้ได้ สองคนนี้ล้วนเป็นผู้มากความสามารถ แค่หาให้เจอสักคน ก็สามารถนำมาเป็นกำลังสำคัญในการรบครั้งใหญ่นี้ได้เลย”

ประมุขประเทศตันเซิ่งเอ่ยต่อ “ใช่ คนหนึ่งสามารถทำนายชะตา หยั่งรู้อนาคตได้ ส่วนอีกคนต่อให้หลับตาก็สามารถมองเห็นทั่วทั้งใต้หล้า ทั้งยังสามารถมองเห็นดวงชะตาที่แข็งแกร่งและอ่อนแอได้อีก หากมีสองคนนี้เป็นผู้นำ แรกสุดก็คงกลายเป็นดินแดนไร้พ่าย เข้าใจแล้ว ฉันจะส่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้ ส่วนปัญหาเรื่องเทพเงินแปดทิศ ฉันยังให้ความเห็นว่าเราต้องไม่เคลื่อนพล”

เจ้าสำนักหลียิ้มพร้อมตอบกลับ “งั้นตอนนี้พวกเราคนหนึ่งบอกไป อีกคนบอกไม่ไป แล้วจะตัดสินใจยังไง? เอาอย่างนี้ไหม ส่งคนไปถามลู่ฝาน ดูความคิดเห็นเขาเสียหน่อย?”

ประมุขประเทศตันเซิ่งไม่ได้พูดอะไรต่อ เท่ากับเป็นการตกลงไปโดยปริยาย

เจ้าสำนักหลีพลิกมือหยิบเอาหนูมิติออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ไป ไปหาลู่ฝาน ดูสิว่าช่วงนี้เขากำลังยุ่งอยู่กับอะไร ทำไมถึงไม่เจอตัวเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า