เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 2264

สรุปบท บทที่ 2264 เขตใต้(1): เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

สรุปตอน บทที่ 2264 เขตใต้(1) – จากเรื่อง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดย โอหยางวิ่น

ตอน บทที่ 2264 เขตใต้(1) ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า โดยนักเขียน โอหยางวิ่น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เขตใต้ ณ ประเทศเจ๋อ

ต้นไม้เก่าแก่สูงตระหง่าน ดินแดนแห่งหนองน้ำ

ประเทศเจ๋อไม่ได้เป็นประเทศใหญ่ และไม่ได้เป็นหนึ่งในเก้าประเทศมหาอำนาจด้วย

เป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับอีกฟากฝั่งอากาศเวิ้งว้างในเขตใต้ และเป็นประเทศที่อยู่ทางชายแดน ปกติผู้คนมักจะไม่ค่อยสนใจประเทศนี้สักเท่าไร

แต่ช่วงนี้ ประเทศเจ๋อกลับดูคึกคักผิดปกติ

เมืองต้าฮวง เมืองหลวงของประเทศเจ๋อ

สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ในทะเลทรายสร้างขึ้นด้วยไม้และหิน ดูไม่เป็นระเบียบ แต่ก็มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คูเมืองไม่ได้เล็ก ผู้คนเดินทางกันพลุกพล่าน จราจรก็คับคั่ง

"หลีกทาง หลีกทาง หลีกทางให้หมด สิบยอดฝีมือจากประเทศเทียนซิงมาถึงแล้ว! คนที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกทางให้หมดซะ!"

เสียงตะโกนดังขึ้นบนท้องถนน

ทันใดนั้น พ่อค้าหาบเร่ทั้งสองฝั่งและประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นก็ทยอยกันหลีกทาง สายตามองดูเรือกลุ่มหนึ่งแล่นผ่านไปช้า ๆ บนถนน

“นี่เป็นคนมาจากประเทศที่เท่าไรแล้วนะ? ประเทศเทียนซิงก็เป็นประเทศพันธมิตรด้วยเหรอ?”

“ก็น่าจะใช่นะ หากนับด้วยนิ้วดูแล้ว ก็น่าจะเป็นยอดฝีมือจากสิบกว่าประเทศมาถึงแล้ว จำนวนคนขนาดนี้เมื่อมาอยู่ในประเทศของเรา เราก็น่าจะปลอดภัยกว่าเดิมมาก ตอนนี้ผู้ฝึกชั่วร้ายดูท่าจะกำเริบเสิบสานมากไปแล้ว และคนที่มาจากอีกฟากฝั่งอากาศเวิ้งว้าง ในภาพรวมแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง คนที่ฝึกฝนวิชาชั่วร้ายคนหนึ่งจะต้องนำกองทัพหุ่นเชิดมาอย่างน้อยหนึ่งกองทัพ หากยอดฝีมือในประเทศเรามีไม่พอ พวกเขาอาจจะถูกผู้ฝึกชั่วร้ายพวกนั้นฆ่าเหมือนกับสองประเทศเล็ก ๆ นั้นก็ได้!”

“อย่าพูดเรื่องนี้สิ แค่คิดก็กลัวจนตัวสั่นแล้ว!”

คนกลุ่มหนึ่งกำลังวิพากษ์วิจารณ์

แต่ผู้แข็งแกร่งสองสามคนที่นั่งอยู่บนเรือกลับไม่ได้มองประเทศเจ๋ออยู่ในสายตาเลย

ท่าทางที่ดูหยิ่งผยอง ขาดก็แค่สายตาที่แสดงอาการดูถูกดูแคลนเท่านั้น!

“หลีกไปให้พ้น! ฉันบอกให้หลีกทางได้ยินไหมวะ? นังหนู!”

เสียงแส้ดังขึ้น ทุกคนรอบข้างที่ได้ยินก็พากันก้าวเท้าถอยหลังด้วยความตกใจ

เด็กหญิงตัวน้อยคุกเข่าลงกับพื้นกลางถนน และพูดทั้งน้ำตา "ท่านผู้แข็งแกร่งทุกท่าน ได้โปรดช่วยพี่สาวของหนูด้วยนะคะ หนูต้องการแค่ยาเซียนเม็ดหนึ่งเท่านั้น ขอร้องล่ะนะคะ"

เด็กหญิงคนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่น อายุราวสิบเอ็ดหรือสิบสองขวบ

ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของเรือหัวเราะเยาะแล้วเอ่ยตอบ “ยาเซียน? นังหนูนี่ช่างกล้าพูดจริง ๆ คนอย่างมึงจะไปมีสิทธิอะไรที่จะได้รับมัน รีบออกไปให้พ้นทางเร็ว ๆ เข้า ไม่เช่นนั้นวันนี้กูจะเฆี่ยนตีมึงจนเนื้อตัวแตกยับเลยคอยดูสิ!"

เด็กหญิงตัวเล็กกัดฟัน ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้า

ชายคนนั้นเอาแส้ฟาดพื้นอีกครั้งก่อนจะเอ่ย

"ยังไม่หลีกทางอีก ต่อให้มึงจะคุกเข่าอยู่ที่นี่จนขาหัก ก็ไม่มีใครให้ยาเซียนแก่มึงได้หรอกเว้ย ถ้าจะขอยาเซียน ก็ต้องไปหาเซียนบำเพ็ญชี่สิวะ! ที่นี่มีท่านเซียนบำเพ็ญชี่ซะที่ไหนกันล่ะ! ไม่มีเว้ย! ไม่มี!”

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ได้ยินคำนี้จึงเอ่ยถามเสียงเบา "แล้วจะหาท่านเซียนบำเพ็ญชี่ได้ที่ไหนกันคะ?"

ชายคนนั้นหัวเราะไปพลางตอบอีกฝ่าย

"ท่านเซียนบำเพ็ญชี่ล้วนแต่เป็นเซียนที่มีความเป็นอมตะอย่างแท้จริง พวกเขาจะไปไหนมาไหนก็ไร้ร่องรอย ไม่เปิดเผยตัวตนแก่ใคร คนธรรมดาจะไปหาเจอได้ที่ไหนกัน หากมึงจะไปหาก็ลองไปเสี่ยงดวงหาแถวภูเขาที่อยู่ลึกเข้าไปนู้นจะดีกว่า บางทีอาจจะเจอก็ได้ใครจะรู้!”

พอพูดจบ หลายคนบนเรือก็เริ่มหัวเราะขึ้นมา

คนเดินเท้าทั้งสองฝั่งจำนวนไม่น้อยก็พลอยส่งเสียงหัวเราะตาม

แม่หนูคนนี้ช่างเพ้อฝันเสียจริง เด็กคนนั้นคิดว่าพอได้เห็นผู้แข็งแกร่งผ่านมาที่นี่ทุกวันพร้อมกับคุกเข่าวิงวอนก็จะได้ยาเซียนเอาไปช่วยชีวิตพี่สาวของเธอที่ป่วยหนักจนใกล้จะหมดลมหายใจได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีเซียนบำเพ็ญชี่สักกี่คนในใต้หล้า ไม่ใช่ว่าจะเจอใครที่นี่ก็ขอไปหมดทุกคน

แต่เด็กน้อยกลับไม่ยอมแพ้ เมื่อได้ยินชายคนนั้นบอกเธอว่ามีท่านเซียนอยู่ในภูเขาส่วนลึก

ตรงนี้อยู่ไม่ไกลจากประตูเมือง เธอจึงรีบเดินออกนอกเมืองในทันที ทุกคนมองตามหลังเธอเดินออกจากประตูเมือง

“เอ๋ นังหนูนี่ คิดถึงยาเซียนจนเสียสติไปแล้ว ฉันดูเธอออกจากเมืองไปครั้งเกรงว่ายากที่จะกลับมาแล้ว!”

“ประเทศเจ๋อของเราจะมีเซียนบำเพ็ญชี่ที่ไหนกันล่ะ ว่ากันว่าทั้งสมาพันธ์ประเทศทางใต้มีเซียนบำเพ็ญชี่แค่ห้าหกคนเท่านั้น หากไม่มีเหตุสุดวิสัย พวกเขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไงกัน?”

“นั่นสิ นอกเสียจากว่า มีขนมตกลงมาจากฟ้า ไม่อย่างนั้นเธอคงจะหาไม่เจออย่างแน่นอน”

แต่หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้จบ ทันใดนั้น เธอก็เห็นแสงเงาหนึ่งกำลังลงมาจากฟากฟ้า

เด็กหญิงตื่นตะลึงจนตาค้างเมื่อเห็นลำแสงนั้นตกลงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพึมพำ "บินได้ด้วย? ตกลงมาจากท้องฟ้า หรือว่านี่คือท่านเซียนบำเพ็ญชี่จริง ๆ ?"

ระหว่างที่พึมพำ เธอก็รีบรุดไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น เธอพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับตะโกนเรียกไปด้วย "ท่านเซียนบำเพ็ญชี่ ท่านเซียนบำเพ็ญชี่!"

เธอโบกไม้โบกมือพลางตะโกน หลังจากก็เห็นลำแสงพุ่งตรงตกมาถึงพื้น

โครม!

แผ่นดินสั่นสะเทือน เกิดหลุมขนาดใหญ่

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ลงจอดบนพื้นอย่างมั่นคง แต่ร่วงหล่นลงพื้นโดยตรง !

เด็กน้อยกลัวเกินกว่าที่จะมองดูได้ เธอค่อย ๆ ขยับเขยื้อนไปข้างหน้าทีละน้อย

“คงจะไม่ได้ร่วงหล่นลงมาตายแล้วสินะ!”

จังหวะนั้นเอง เด็กหญิงตัวน้อยก็มองเข้าไปในหลุม ก็เห็นว่าเป็นชายคนหนึ่งที่ตกลงมา

เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่รูปร่างหน้าตาดูดีไม่เลว ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด แต่เขายังหายใจอยู่

“ยังไม่ตายหรือนี่!”

เด็กผู้หญิงมาข้างหน้า ก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจ

เธอผลักชายคนนั้นแล้วพูดว่า "ตื่นเถอะ คุณยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?"

ชายคนนั้นค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เด็กน้อยยิ้มและพูดว่า "คุณยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ด้วย คุณเป็นใครกัน? ทำไมถึงตกลงมาจากฟ้าได้ล่ะ? หรือว่าคุณคือเซียนบำเพ็ญชี่หรือเปล่า? คุณสามารถทำยาเซียนได้ไหม?"

ชายคนนั้นเอ่ยปากตอบกลับ "ยาเซียนเหรอ? ฉันทำได้ ฉันชื่อลู่ฝาน!"

พูดจบ เขาก็คลี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็เอียงศีรษะและหมดสติอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า