เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 31

ตอนที่ 31 ถูกแทงข้างหลัง + ตอนที่ 32 สหายเก่าจากทิศตะวันตก
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 31 ถูกแทงข้างหลัง

เฟิ่งจิ่วนิ่งไปเล็กน้อย เธอมองร่างสูงใหญ่ที่ขวางอยู่เบื้องหน้าตัวเองอย่างตกใจอยู่บ้าง ชำเลืองมองเขาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

ชายที่ชื่อเถี่ยหนิวเห็นชายหนุ่มยืดอกถลึงตามองมา หลังจากนิ่งไปพักหนึ่งก็หัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ! ดีๆๆ เจ้าเด็กนี่ใจกล้าไม่เบาเลย! ขนาดกับข้าเถี่ยหนิวยังกล้ามอง อาจหาญดี!”

เขาพูดพลางก็ตบบ่าอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น ฝ่ามือตบลงบนไหล่กวนสีหลิ่น มองจนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหลังเหยียดริมฝีปากตรง

แรงนั่นไม่เบาเลยนะ!

“อือ!” กวนสีหลิ่นโดนตบไปหลายที กระเทือนถึงแผลที่ท้อง เจ็บเสียจนเหงื่อซึมทันใด

“แรงเจ้าหนักไปแล้ว ร่างกายเขายังมีแผลอยู่นะ!” เฟิ่งจิ่วบอก ก่อนจะเดินมาจากด้านหลังแล้วจับมือเขาที่กุมแผลตรงท้องออก ถึงเห็นเลือดซึมออกมาจากบาดแผลตามคาด

“เอ่อ…” ชายฉกรรจ์ผู้นั้นดึงมือกลับอย่างเก้อเขิน

“พวกเจ้าดูสิ ฝูงหมาป่าถอยไปแล้ว” มีคนพูดขึ้นอย่างดีใจ เห็นฝูงหมาป่าหอนเสียงเบาจากนั้นจึงหันกายจากไป

ไม่ต้องต่อสู้อันตรายก็คลี่คลายได้ ไม่มีอะไรทำให้ตื่นเต้นไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว

ที่แท้จ่าฝูงหมาป่าเห็นพวกเฟิ่งจิ่วเข้าไปสมทบกับกองกำลังถึงได้จากไปอย่างไม่เต็มใจนัก ถึงอย่างไรแค่สองคนนั้นพวกมันก็ยังต่อกรไม่ไหว ครั้นเพิ่มมาอีกสามสี่สิบคนก็ยิ่งเสียเปรียบ ย่อมไม่ทนอยู่ต่อกันไม่ยอมจากไปอยู่แล้ว

เวลานี้ เด็กหนุ่มที่ปริปากไปก่อนหน้ามองเฟิ่งจิ่วอย่างอบอุ่น พูดว่า “แผลมีเลือดออกแล้ว เจ้ารีบดูอาการพี่ชายเจ้าเถอะ!” เขาพูดพลางก็ยื่นขวดยาให้ “ทางข้ามียารักษาแผลภายนอกดีๆ อยู่ส่วนหนึ่ง”

“พี่ชาย ท่านจะไปยุ่งกับพวกเขาให้มากนักทำไม?” เด็กสาวกระทืบเท้า ค่อนข้างไม่พอใจที่เขาทำดีกับคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้ว่าโผลมาจากไหนขนาดนั้น

“ไม่ต้องหรอก ตัวข้าเองก็มียา” เฟิ่งจิ่วบอก ก่อนจะพยุงกวนสีหลิ่นเดินไปข้างใต้ต้นไม้ แก้ผ้าพันแผลที่เอวออกให้ แล้วใส่ยาลงไปให้เขาใหม่

“พวกเราไปกันเถอะ!” หลังจากพันแผลใหม่เรียบร้อย เธอกล่าวพลางพยุงเขาขึ้นมา

กวนสีหลิ่นนิ่งไป เขาพยักหน้าอย่างงุนงง “โอ้!” จากนั้นถึงจะเดินตามอีกฝ่ายไปข้างหน้าต่อ

พอเห็นพวกเขาสองคนจากไปโดยไม่พูดไม่จา ชายวัยกลางคนที่เดิมยังเตรียมพร้อมอยู่จึงคลายความระแวดระวังลง แต่กลับไม่รั้งพวกเขาไว้เช่นกัน เพราะเรื่องที่ต้องทำในการเดินทางครั้งนี้ไม่เหมาะจะให้มีคนนอกมาอยู่ด้วยนัก

กวนสีหลิ่นที่เดินมาสักพักงุนงงอยู่ในใจ จึงถามว่า “น้องชาย ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องลองถามพวกเขาว่าจะให้เราตามไปด้วยได้หรือไม่รึ? ทำไมไม่ทันถามก็ไปแล้วล่ะ?”

ในปากเฟิ่งจิ่วคาบก้านต้นหญ้าหางหมาจิ้งจอก ฝีเท้าเธอทั้งนวยนาดและเอ้อระเหย ในมือกำลังกวัดแกว่งกิ่งไม้ ตอบอย่างไม่สนใจว่า “ทำไมเราต้องตามพวกเขาไปด้วยล่ะ?”

“แน่นอนว่าเผื่อเวลามีอันตราย พวกเขาก็ยังช่วยเราได้นะ!”

“ผิดแล้ว”

เธอส่ายหน้า บอกว่า “คนเราต้องพึ่งพาตัวเอง ถ้าคิดแต่พึ่งคนอื่นก็ตายแน่แล้ว อีกอย่างที่ไปสมทบกับพวกเขาก็เพื่อกำจัดฝูงหมาป่านั่น ตอนนี้ฝูงหมาป่าไม่ตามพวกเราแล้ว จะตามพวกเขาไปอีกทำไมกัน?”

กวนสีหลิ่นเกาหัวอย่างมึนงง “ดูเหมือนก็มีเหตุผล” เขาพูดพลางมองขอทานน้อยด้วยสายตานับถือ “น้องชาย เห็นชัดๆ ว่าเจ้าอายุน้อยกว่าข้า แต่กลับฉลาดเก่งกาจกว่าข้าเยอะเลย”

“ก็ใช่น่ะสิ เจ้านึกว่าข้าเหมือนเจ้ารึ? ถึงได้ถูกคนใช้มีดแทงข้างหลังน่ะ”

“ถูกมีดแทงข้างหลังอะไร?” เขาถามอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

กำแพงภูผาค่อนข้างสูงชัน เธอปีนขึ้นไปมือเปล่าก็ลำบากอยู่หน่อยๆ บางทีถ้าก้าวเท้าไม่ดีนัก หินดินก็จะร่วงลงไป ด้วยเหตุนี้ทุกก้าวของเธอจึงต้องระวังอย่างมาก

ประมาณหนึ่งชั่วยามจากนั้น ขณะที่เธอค่อยๆ เข้าใกล้ยาทิพย์ กลับพบว่าด้านข้างยาทิพย์มีโพรงเล็กๆ อยู่ ในโพรงนั้นมีงูพิษสีเขียวขนาดหนาเท่าหนึ่งนิ้วมือกำลังนอนพลางแลบลิ้นขู่ จ้องมองเธอด้วยดวงตาดุร้ายกระหายเลือด

เธอมองอยู่สักพัก นอกจากโพรงเล็กๆ นั่นแล้ว ด้านข้างยังมีอีกหนึ่งโพรงเล็ก เห็นได้ชัดว่าเชื่อมถึงกัน

หากอยากจะเก็บยาทิพย์ต้นนั้นก็ต้องจัดการงูตัวนี้เสียก่อน เมื่อหมายมั่นปั้นมือแล้ว หลังจากเธอกวาดสายตามองไปรอบๆ จึงค่อยขุดหินก้อนใหญ่ขนาดเท่ากำปั้นก้อนหนึ่งบนกำแพงหินดินมา จากนั้นปีนขึ้นไปใกล้อีกนิด ขณะที่งูตัวนั้นขยับออกมาสังเกตุการณ์ด้านนอกเพียงเล็กน้อย เธอก็ใช้ก้อนหินในมือปิดโพรงนั้นไว้

ในช่วงเวลานั้นเอง งูตัวนั้นเลื้อยออกมาส่งเสียงขู่ฟ่อจากโพรงเล็กอีกโพรงอย่างรวดเร็ว พร้อมอ้าปากเผยเขี้ยวพิษพุ่งมากัดที่ข้อมือของเธอ

จะพูดว่าเร็วก็เร็ว เฟิ่งจิ่วดึงกริชออกมาฟันทันใด หัวงูที่โผล่ออกมาถูกคมมีดฟันจนขาด ร่างงูร่วงตามลงไป ตอนนี้ เธอถึงจะขุดยาทิพย์ออกมาใส่ลงในถุงฟ้าดินอย่างระมัดระวัง

“ฮู่! เหนื่อยชะมัด!”

เก็บยาแล้วเธอก็ปีนไปถึงด้านบน อยากจะลองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ จากที่สูง แต่กลับเห็นยาทิพย์ที่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณแผ่กระจายอยู่รางๆ ตรงริมขอบเข้าโดยบังเอิญ จึงขุดมันใส่ลงถุงฟ้าดินอย่างดีอกดีใจ

“โชคดีไม่เบาเลย ไม่นึกว่าจะหายาทิพย์เจอตั้งสองต้นจากตรงนี้ด้วย” เธอพูดยิ้มๆ ขณะยืนมองลงไปจากยอดเขา เธอเห็นว่าทางฝั่งตะวันตกมีกองกำลังหนึ่งกำลังเดินหน้าเข้าไปในป่าลึก

ชายหนุ่มรูปงามคนที่เป็นหัวหน้าสวมชุดสีขาว เขาคือคู่หมั้นของเจ้าของร่างคนก่อน หรือมู่หรงอี้เซวียนท่านอ๋องสามแห่งแคว้นแสงสุริยัน และสาวน้อยคนนั้นที่ตามอยู่ข้างกายเขา นางสวมชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลสดใส มาพร้อมใบหน้าที่เฟิ่งจิ่วคุ้นเคยเกินจะเปรียบ…

…………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า