เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 497

ตอนที่ 497 ท่านปู่ปรากฏตัว

การออกเดินทางของเฟิ่งจิ่วไม่ได้ขี่ม้าหรือนั่งรถม้า แต่นั่งเรือเหาะออกไปทันที คนมาส่งนอกจากเหล่าองครักษ์ที่อาลัยอาวรณ์ ก็มีเพียงเฟิ่งเซียวที่ในใจยังกังวล

ตระกูลเฟิ่งยามนี้เป็นราชวงศ์เฟิ่งหวงแล้ว ซ้ำยังมีผู้แข็งแกร่งคอยปกป้อง ตั้งแต่กลายเป็นคนไม่ธรรมดา แม้คนในเมืองจะเห็นเรือเหาะลอยออกมาจากพระราชวัง หลังจากแค่ประหลาดใจแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

ส่วนบนเรือเหาะ อสูรกลืนเมฆาน้อยกับเหล่าไป๋ต่างนอนอยู่ด้านนอก ชะโงกหัวมองผืนเมฆเบื้องหน้าบนท้องฟ้าด้านนอกเรือบ่อยครั้ง

ใบหน้าเหลิ่งหวาอมยิ้มเบิกบานอยู่ตลอด เริงร่าราวกับเด็กน้อยที่ตามผู้ใหญ่ออกไปเที่ยวเล่น นอกจากความหวาดกลัวที่ได้นั่งเรือเหาะและก้มลงไปมองท้องฟ้าสูงเป็นแรก บนใบหน้าเขาที่ค่อยๆ ปรับตัวก็เหลือเพียงความสุขใจ

ต่างจากคนอื่นที่นั่งอยู่ เขาทำความคุ้นเคยกับทั้งนอกและในเรือเหาะก่อน จากนั้นค่อยเตรียมน้ำชากับของว่างให้พวกเขา ทุกคนจะได้ดื่มชา กินขนม และพูดคุยกันบนเรืออย่างผ่อนคลายอารมณ์

เจ้าตำหนักยมราชที่นั่งอยู่ข้างนอกมองเรือเหาะลอยไปด้านหน้า ชำเลืองมองเฟิ่งจิ่วที่ตั้งแต่ขึ้นเรือเหาะมาดวงตางดงามก็ฉายประกายเจ้าเล่ห์ และจ้องมองเขาอย่างยิ้มแย้มอยู่ตลอด จากนั้นเขายกน้ำชาที่เหลิ่งหวาชงไว้เรียบร้อยขึ้นจิบเบาๆ

“พูดมาเถอะ! ว่าเจ้าวางแผนร้ายอะไรไว้อีก?”

“แหะๆ” เฟิ่งจิ่วหัวเราะเจื่อนๆ กลับมองเขาด้วยดวงตาเปล่งประกายดุจอัญมณี “ท่านอา ด้วยฐานะตำแหน่งท่าน คงจะเข้าไปแคว้นระดับสามได้กระมัง?”

ยิ่งเป็นแคว้นรุ่งเรือง อยากจะเข้าไปยิ่งต้องใช้สิ่งรับรองตัวตน ป้ายหยกผ่านทางหนึ่งอันไม่ได้ได้มาง่ายๆ

“จะไปแคว้นระดับสาม? ไปแคว้นไหน? มีเหตุผลอะไร?” เขาไม่รับคำนางทันที แต่เอ่ยถามไป

ได้ยินแล้วเฟิ่งจิ่วนั่งตัวตรง เก็บรอยยิ้มแย้มบนใบหน้า บอกว่า “ข้ามีเบาะแส ท่านปู่ข้าคงอยู่ในแคว้นมหาสันติแคว้นระดับสาม ออกมาครั้งนี้ข้าไม่ได้อยากไปขึ้นเขาเข้าป่าอะไร แค่จะไปสอบถามข่าวคราวที่แคว้นมหาสันติเสียหน่อย”

หลิงโม่หานชำเลืองมองนาง “เจ้าจะเป็นนักปรุงยาไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่ไปสอบเหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ที่สมาคมนักปรุงยาเล่า? ด้วยพรสวรรค์ด้านยาของเจ้าคงบรรลุถึงระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว หากมีฐานะเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงแคว้นระดับสามหรอก แม้เป็นแคว้นระดับหนึ่งหรือสองก็เข้าไปได้อย่างอิสระ”

เธอขมวดคิ้วกล่าวว่า “แต่ข้าเคยอ่านข้อมูลมา การประเมินระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์มีเพียงสมาคมนักปรุงยาในแคว้นระดับสามถึงจะมีความสามารถประเมิน ต่ำกว่าแคว้นระดับสามอย่างมากก็มีถึงแค่ระดับยาทิพย์บรรพชน”

“จะไปแคว้นมหาสันติไม่ใช่หรือ? ถึงเวลาเจ้าก็หาโอกาสไปสอบเหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์กลับมาก่อน” ในใจแอบคิดว่า ลำพังแค่ฐานะองค์หญิงราชวงศ์เฟิ่งหวงยังไม่อยู่ในสายตาคนพวกนั้นหรอก แต่หากนางนำเหรียญตราพลังด้านนักปรุงยาหรือนักเล่นแร่แปรธาตุที่น่าทึ่งมาได้ก็จะแตกต่างออกไป

ส่วนเฟิ่งจิ่วที่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในใจกำลังวางแผน ท่านแม่ก็อยู่แคว้นสวรรค์บันดาลระดับหนึ่ง กำลังคิดว่าจะไปทางนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเหรียญตราระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งรับรอบตัวตนที่ผ่านได้ทุกแคว้น ถ้าอย่างนั้นไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องคว้ามา!

เรือเหาะแล่นไปท่ามกลางผืนเมฆอย่างราบรื่น นำพาความคิดและการตั้งตารอของทุกคนบนเรือไปยังแคว้นมหาสันติ…

เวลานี้เอง ตระกูลหนึ่งในแคว้นมหาสันติ ผู้เฒ่าเฟิ่งที่ท่าทางกระฉับกระเฉงตรงเอวห้อยน้ำเต้าสุราซึ่งเฟิ่งจิ่วให้ไว้หนีมาทางหลังกำแพงเงียบๆ ชะโงกหน้ามองซ้ายขวา หลังจากเห็นว่าไม่มีใครก็คิดจะแอบปีนกำแพงหนีไป

“จะไปไหน?”

ผู้เฒ่าเฟิ่งอับอายจนอยากหาทีมุดซ่อน ตั้งแต่โดนรับไว้เขาก็ใช่แขนเสื้อปิดหน้าไม่กล้ามอง แต่ดันโดนอุ้มไว้จึงไม่กล้าขัดขืน และไม่กล้าขยับเขยื้อน สวรรค์รู้ดีว่าเขาใช้ชีวิตมาหลายปีเพียงนี้ สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่พ่อที่ตายไป และไม่ใช่ภรรยาที่ลาลับ แต่เป็นหญิงคนนี้ที่ไม่ยอมแต่งงานตลอดชีวิตเพื่อเขา เฝ้ารออยู่เงียบๆ มาตลอด

นางเกิดในแคว้นมหาสันติระดับสาม มีชาติตระกูลที่ทำให้ใครๆ อิจฉา รูปโฉมกิริยาล้วนเป็นเลิศ แต่กลับไม่ยอมแต่งงานทั้งชีวิตเพื่อเขา เฝ้ารออย่างเงียบเชียบ ในใจเขาแสนละอาย ด้วยเหตุนี้เมื่อโดนคนของนางจับตัวมา แม้เขาจะโกรธเคืองจึงไม่มีทางพาลใส่นาง ยิ่งไปกว่านั้นพี่ชายนางกับเขายังเป็นพี่น้องร่วมสาบาน นี่ช่าง…ช่างทำให้เขาปวดหัวมากจริงๆ

เขาเป็นตาเฒ่าแล้ว แม้นางจะเด็กกว่าเขาสิบปี แต่เพื่อรักษารูปโฉมในขั้นสูงสุดไว้จึงกินยาคงรูปลักษณ์ หน้าตาจึงไม่เคยแก่ลงตลอด ราวกับหญิงอายุยี่สิบ แล้วตาแก่อย่างเขาไหนเลยจะกล้าเพ้อฝัน?

แค่ลองคิด เขาก็อายเสียจนต้องหาหลุมมุดลงไปซ่อน

เห็นเขาอายเสียจนใช้แขนเสื้อปิดหน้า หลินซู่ซีเม้มริมฝีปากยิ้มก่อนจะวางเขาลง ใครจะรู้ว่าพอลงพื้นก็เห็นเขาวิ่งกลับเข้าบ้านฝุ่นตลบ นางเห็นแล้วถลึงตาส่งเสียงดุอย่างน่ารักด้วยความโกรธระคนเขินอาย

“เฟิ่งซานหยวน! ท่านคิดว่าจะหลบพ้นหรือ? หลบๆ ซ่อนๆ! อายุตั้งเท่าไหร่แล้วยังคิดจะซ่อนอีก? เชื่อหรือไม่ว่าคืนนี้ข้าจะจัดการท่านทันที!”

ได้ยินคำพูดนี้ ผู้เฒ่าเฟิ่งที่ก้าวเหยียบบนธรณีประตูตกใจล้มลงพื้นดังตุบ หัวชนประตูบ้านเปิดและกลิ้งออกไปทันที เขาหันกลับไปมองหญิงงามที่ดวงตาคู่งามทั้งอายทั้งโมโหแวบหนึ่ง สีหน้าขาวซีด ก่อนจะรีบร้อนปิดประตูห้องอย่างแน่นหนา จากนั้นเสียงปึงปังก็ดังขึ้นเหมือนกำลังหยิบข้าวของในบ้านมากั้นประตูหน้าต่าง

เหล่าองครักษ์ลับที่รับผิดชอบเฝ้าในมุมมืดตกใจกับคำพูดห้าวหาญนี้จนแม้แต่กรามยังแทบอ้าค้าง พวกเขากลืนน้ำลาย มองหญิงงามที่อ่อนหวานสง่างามแท้ๆ แต่หากไม่ได้ฟังกับหูตนเองคงไม่เชื่อจริงๆ ว่าคำพูดใจกล้าเช่นนี้จะเอ่ยออกมาจากปากนาง

ส่วนหลินซู่ซีเห็นท่าทางเขาตกใจจนหน้าซีดขาว ปิดประตูดังปัง และกั้นประตูหน้าต่างไว้ทันที สีหน้าก็ตกตะลึง…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า