เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า นิยาย บท 619

ตอนที่ 619 สาวงามบนถนน

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ ภายใต้แสงแดดเด็กหนุ่มก็ฉีกยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวบริสุทธิ์ “ไม่มากหรอก แค่สิบเหรียญเงินก็พอ”

ดังนั้นเฟิ่งจิ่วจึงหยิบเหรียญเงินสิบเหรียญยื่นให้เขา แล้วตามหนุ่มน้อยไปเดินเล่นรอบเมืองซิงอวิ๋น หนุ่มน้อยคนนั้นจูงเหล่าไป๋ไปตลอดทาง พลางเล่าเรื่องเมืองซิงอวิ๋นให้เธอฟัง ประกอบด้วยผู้นำตระกูลไหนแข็งแกร่งที่สุดจนยุ่งเกี่ยวไม่ได้ คุณชายตระกูลไหนโดดเด่นที่สุด และลูกสาวบ้านไหนงดงามที่สุด…

“เมืองซิงอวิ๋นรวบรวมสิ่งที่สุดในแต่ละที่ไว้ และยังเป็นเมืองสี่ใหญ่เหนือใต้ออกตก ตะวันออกมีตลาดมืด ตะวันตกมีสมาคมนักปรุงยา ทางใต้มีแหล่งประมูลที่ใหญ่ที่สุด ส่วนทางเหนือก็มีสมาคมทหารรับจ้าง คุณชายอยู่ในเมืองซิงอวิ๋นนอกจากจะยุ่งเกี่ยวกับตระกูลพวกนั้นไม่ได้ กลุ่มอำนาจทั้งสี่นี้ก็แตะไม่ได้เช่นกัน”

หนุ่มน้อยพูดพลางหันกลับไปมองหนุ่มน้อยชุดแดงที่นั่งบนหลังม้าบ่อยครั้ง เห็นเขาเล่นหญ้าหางสุนัขในมือ และมองไปสองฝั่งครั้งแล้วครั้งเล่า พินิจมองด้วยสีหน้าแปลกใหม่ ไม่รู้ว่าฟังเขาพูดอยู่หรือไม่

เห็นเช่นนี้เขาก็พูดต่อไปว่า “หากพูดถึงโรงเตี๊ยมที่จะเข้าพัก เช่นนั้นในเมืองซิงอวิ๋น…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นรถสัตว์วิญญาณคันหรูหราตรงหน้าแล่นเข้ามา เขารีบร้อนจูงเหล่าไป๋หลีกทาง เพื่อไม่ให้ชนกับรถสัตว์วิญญาณคันนั้น

เฟิ่งจิ่วมองไปเห็นสัตว์วิญญาณสี่ตัวที่ลากรถอยู่เบื้องหน้าเรียงหน้ากระดาน เหมือนม้าแต่ไม่ใช่ม้า มีความคล้ายแรดบางส่วน เคลื่อนไปบนถนนใหญ่ที่คนสัญจรไปมาโดยไม่ชะลอความเร็ว ชาวบ้านบนถนนตกใจเสียจนพากันอุทานและหลบเลี่ยง

ท่ามกลางความเร่งรีบ เด็กน้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าน้ำตาลปั้นรูปคนปากอมนิ้วมือพลางมองพ่อค้าหาบเร่ที่กำลังทำน้ำตาลปั้นรูปคน ทว่าพ่อค้าหาบเร่คนนั้นเห็นรถลากสัตว์วิญญาณสี่ตัวเคลื่อนมาจึงตกใจเสียจนรีบลากร้านหลบ เด็กน้อยเห็นแล้วคิดจะตามไปกลับโดนชาวบ้านวิ่งชน ร่างเล็กกลิ้งไปบนถนนใหญ่ เห็นรถสัตว์วิญญาณแล่นเข้ามา และเห็นเด็กน้อยที่ทรุดนั่งร้องไห้ไม่รู้ถึงอันตราย ชาวบ้านรอบๆ ก็พากันสูดลมหายใจ พร้อมทั้งส่งเสียงอุทาน

“เฮือก! รถสัตว์วิญญาณคันนั้นไม่หยุดเลย!”

“เด็กคนนั้นยังอยู่กลางถนนนะ!”

“นั่นลูกใครกัน?”

เวลานี้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาจากร้านค้า เมื่อเห็นเด็กน้อยบนถนนก็ตกใจเสียจนสีหน้าขาวซีด “ลูกแม่!” นางวิ่งเข้าไปแต่ความเร็วของรถสัตว์วิญญาณคันนั้นยังเร็วกว่านางไม่รู้กี่เท่า

เฟิ่งจิ่วที่นั่งบนหลังเหล่าไป๋เห็นว่ารถสัตว์วิญญาณคันนั้นไม่หยุดลง คนคุมรถยังสะบัดแส้ตะโกนเร่งเหมือนไม่เห็นชีวิตนั้นในสายตา จึงขมวดคิ้วโดยฉับพลัน กำลังจะโผตัวพุ่งไปพาเด็กคนนั้นหลบ ก็เห็นร่างงดงามสีฟ้าอ่อนลอยพุ่งลงมาจากชั้นสองของโรงเหล้า

แค่ทักษะชั่วพริบตาก็ช่วยเด็กคนนั้นไว้ และพามาส่งให้แม่ของเด็กน้อย คล้ายกำลังเตือนอะไรบางอย่าง หญิงคนนั้นพยักหน้ารัวๆ แล้วขอบคุณผู้หญิงคนนั้นด้วยความซาบซึ้งใจ

รถสัตว์วิญญาณเคลื่อนผ่านไปไม่ได้หยุดลง เพียงปล่อยฝุ่นควันตลบขึ้นบนพื้นถนน…

หัวใจทุกคนหยุดนิ่งไปเล็กน้อย หัวใจที่หวั่นๆ อย่างตื่นตระหนกหลังจากเห็นหญิงวัยแรกแย้มคนนั้นช่วยเด็กชายไว้ แต่ละคนก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกู่ร้อง

“ดี!”

“เป็นท่ากายที่อ่อนช้อยมาก!”

“เป็นความเร็วที่ไวยิ่งนัก!”

เสียงแซ่ซ้องและชมเชยดังขึ้น สายตาทุกคนหยุดลงบนร่างหญิงวัยแรกแย้มที่สวมชุดกระโปรง เมื่อเห็นหน้านางชัดๆ นัยน์ตาแต่ละคนก็เผยประกายตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ อีกทั้งยังมีคนจำผู้หญิงคนนี้ได้ จึงตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ

“เยี่ยจิง! หนึ่งในสิบผู้มีพรสวรรค์ของสำนักศึกษาหมอกดารา เยี่ยจิง!”

“อ๊ะ! นั่นเยี่ยจิง นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นนางที่นี่ นางเป็นเทพธิดาของข้า!” หนุ่มน้อยผิวคล้ำที่จูงเหล่าไป๋มองสาวงามที่เดินไปไกลด้วยท่าทางตื่นเต้น เพราะความตื่นเต้นจึงไม่รู้ว่าเชือกที่จูงไว้คลายออก

เฟิ่งไม่ได้สังเกต เห็นท่าทางตื่นเต้นของหนุ่มน้อยผิวคล้ำก็หลุดยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ กำลังคิดจะใช้หญ้าหางสุนัขในมือเรียกสติเขากลับมา ก็เห็นจมูกเหล่าไป๋ด้านล่างพ่นล้มหายใจออกมา กระทืบกีบม้าอย่างตื่นตาตื่นใจ แล้วสับขาไล่ตามสาวงามเยี่ยจิงด้านหน้าไป

“เหล่าไป๋? เจ้าทำอะไรเนี่ย?”

เฟิ่งจิ่วสีหน้าตื่นตระหนก เดิมทีขาขัดสมาธิไว้ข้างหนึ่งพอเหล่าไป๋วิ่งเตลิดก็แทบจะตกลงมาจากหลังม้า ยังดีที่เธอรีบปรับท่านั่งดีๆ สองขาหนีบท้องเหล่าไป๋ไว้แน่น แม้เป็นเช่นนี้ ภายใต้การวิ่งเตลิดที่ลิงโลดราวกับกินยากระตุ้น เธอที่ได้แต่อาศัยสองขาซึ่งหนีบท้องเหล่าไป๋ไว้แน่นเพื่อให้นั่งอย่างมั่นคงก็ยังเสี่ยงถูกเหวี่ยงทิ้งหลายต่อหลายครั้ง

“เหล่าไป๋ รีบหยุดสิ!”

เธอตะโกนไป เชือกม้าที่อยู่ตรงหน้ามือก็เริ่มคว้าไว้ไม่ไหว ประกอบกับเหล่าไป๋วิ่งพลางกระโดดโลดเต้นและบิดสะโพกอย่างตื่นเต้นเสียเต็มที่ ตะโกนอย่างไรก็ไม่หยุด เหล่าไป๋ที่กระโดดส่ายขยับวุ่นวายสั่นสะเทือนเสียจนบั้นท้ายเธอเจ็บไปหมด ขณะกำลังโน้มตัวลงเล็กน้อยและลองไปดึงเชือกไว้ก็เห็นว่าเหล่าไป๋ที่วิ่งพล่านหยุดลงทันใด

มันหยุดลงอย่างไม่สนใจ ขณะที่มันหยุดกำลังและความรุนแรงจากการวิ่งนั้นกลับทำให้ร่างเธอพลันพุ่งออกไปข้างหน้า…

เยี่ยจิงกับหญิงชุดขาวคนนั้นที่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลังหยุดฝีเท้าหันกลับไปมองพร้อมๆ กัน เห็นเช่นนี้สองคนก็ตกใจโดยฉับพลัน เมื่อเห็นม้าขาวตัวนั้นบ้างกระโดดโลดเต้นบ้างขยับส่ายสะโพก หนุ่มน้อยชุดแดงที่นั่งบนหลังม้ายิ่งสะเทือนเสียจนโงนเงนและเกือบตกลงมาหลายต่อหลายครั้ง

ภาพอันน่าขันนั้นทำให้เยี่ยจิงที่ไม่เคยเห็นม้าประหลาดเช่นนี้มาก่อนเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมาอย่างกลั้นไม่ได้ และในเวลานี้เองม้าตัวนั้นพลันหยุดกีบม้า ปากอ้าเล็กน้อยมีน้ำลายไหลออกมา แล้วหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้นก็โดนเหวี่ยงพุ่งตรงมาทางนาง…

………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า