ตอนที่ 617 ทะยานฟ้าสู่แคว้นเหินเวหา
ชายชราเงยหน้าเหลือบมองนาง แล้วลุกขึ้นกลับไปในห้องครัว ไม่นานนักก็ยกข้าวต้มชามหนึ่งเดินออกมาและวางไว้ตรงข้ามเขา ขณะเดียวกันยังขยับเครื่องเคียงตรงหน้าตนเองเข้าไป ก่อนจะก้มหน้ากินต่อไปโดยไม่พูดอะไร
เฟิ่งจิ่วเห็นก็แปลกใจเล็กน้อย เดินเข้าไปนั่งลงและมองข้าวต้มตรงหน้าที่ดูเหมือนข้าวต้มกุ๊ยแต่กลับวางเม็ดบัวสีเขียวไว้ตรงกลาง ซ้ำยังส่งกลิ่นหอมบัว “ให้ข้าหรือ?”
ชายชราไม่ขานรับเฟิ่งจิ่วก็ไม่รอเขาตอบ ใช้ช้อนกินข้าวต้มไปสองคำ แล้วตักเม็ดบัวสีเขียวเม็ดนั้นขึ้นมาดู ถามว่า “เม็ดบัวนี้ยังไม่สุกเลยกระมัง? ทำไมถึงมีกลิ่นหอมบัวอบอวลเช่นนี้?”
ระหว่างพูดเธอกินเม็ดบัวสีเขียวเม็ดนั้นเข้าปาก เคี้ยวไปสักพักกลับขมวดคิ้ว “ไม่สุกอย่างที่คิดไว้ หนำซ้ำยังแข็งเกินกัดไม่เข้า”
เธอเคี้ยวไปในปากสักพักยังเคี้ยวไม่เข้าจริงๆ แต่กลิ่นหอมเม็กบัวกลับตลบอบอวล ดังนั้นจึงเห็นนางคลายคิ้วพูดด้วยรอยยิ้ม “หอมจริงๆ เคี้ยวไม่เข้าก็กลืนไปเลยแล้วกัน! จะได้ไม่สิ้นเปลือง!”
ได้ยินเช่นนี้ ชายชราเงยหน้ามองไปเห็นนางกลืนเม็ดบังลงท้อง แววตาสั่นไหวเล็กน้อย แล้วกินข้าวต้มตรงหน้าต่อไปโดยไม่พูดไม่จา
เฟิ่งจิ่วตักๆ ไปในข้าวต้ม ถามว่า “ทำไมถึงมีเม็ดบัวแค่เม็ดเดียว?” แม้เม็ดบัวนั้นจะเคี้ยวไม่ได้ แต่ข้าวต้มชามนี้ก็วางไว้แค่เม็ดเดียว จะน้อยเกินไปหรือเปล่า? เธอยังอยากกินอีกสักสองสามเม็ด!
มือชายชราที่ตักข้าวต้มชะงักลง เอ่ยปากโดยไม่เงยหน้า “เม็ดเดียวก็มากพอแล้ว”
ระหว่างพูดเขาก็กินข้าวต้มเสร็จ เก็บข้าวของตรงหน้าตน แล้วหันตัวเดินเข้าห้องครัวไป ไม่นานนักก็เดินออกมา และจากไปทันทีโดยไม่บอกอะไรสักคำ
เฟิ่งจิ่วมือหนึ่งเท้าแก้มกะพริบตามองร่างชายชราที่ไกลออกไป เอ่ยถามเสียงเบาราวกับกระซิบว่า “นี่เพิ่งเดือนสามเอง มีเม็ดบัวแล้วหรือ? แต่กลิ่นเม็ดบัวนี้หอมจริงๆ ไม่รู้เลยว่าเป็นชนิดไหน?”
เธอกินข้าวต้มอีกสองสามคำ กลิ่นหอมเม็ดบัวที่เข้าปากกระจายอยู่ปลายลิ้น ช่างเป็นรสชาติที่ติดลิ้นยิ่งนัก
หลังจากเติมท้องจนอิ่ม เธอก็กลับเรือนไปฝึกบำเพ็ญ เรื่องที่กลืนเม็ดบัวเขียวซึ่งส่งกลิ่นหอมอบอวลเม็ดนั้นไปจึงถูกเธอลืมทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เพราะตามเวลาที่ผ่านไปก็ใกล้จะถึงวันรับสมัครนักเรียนของสำนักศึกษาหมอกดาราเข้าไปทุกที
วันนี้หลังจากเธอสั่งการเรื่องบางอย่างกับวิญญาณผู้ฝึกตนสองสามตนที่ฝึกบำเพ็ญในเวิ้งสวนท้อ ก็สั่งเสียกับชายชราคนกวาดพื้น ใจความสำคัญว่าเธอต้องออกไปฝึกบำเพ็ญที่สำนักศึกษาหกดาราแคว้นเหินเวหา จะไม่กลับมาในเวลาสั้นๆ จึงให้พวกเขาคอยดูแลที่นี่แล้วกลับไปพระราชวัง
หลังจากจัดการธุระเรียบร้อย เธอก็คุยกับครอบครัวในท้องพระโรงสักพัก และฟังคำกำชับตักเตือนจากพวกเขา
“เสี่ยวจิ่ว เจ้าออกไปครั้งนี้จะไม่พาใครไปด้วยหรือ? จะไปสำนักศึกษาหกดาราคนเดียวโดยที่ข้างกายไม่มีใครสักคนได้อย่างไร? เช่นนั้นก็เรียกเหลิ่งซวงกลับมาจากค่ายองครักษ์ และไปด้วยกันกับเจ้าเถอะ!”
“ไม่ต้องๆ ข้าให้นางอยู่ฝึกบำเพ็ญที่ค่ายองครักษ์ ข้าไปสำนักศึกษาคนเดียวก็ได้ ไปถึงที่นั่นคงมีของเตรียมไว้” เธอยิ้มพลางโบกๆ มือ บอกว่า “หากมีเรื่องอะไรก็ส่งจดหมายมาให้ข้านะเจ้าคะ”
“สีหลิ่นส่งจดหมายมาบอกว่าเขาตามทหารรับจ้างไปข้างนอก ถึงเวลาจะไปสำนักศึกษาหมอกดาราทันทีโดยไม่กลับมา เช่นนั้นการเดินทางครั้งนี้เจ้าก็ต้องไปคนเดียวสิ?” ผู้เฒ่ามองนางอย่างไม่วางใจเท่าไหร่
แม้บอกว่ากำลังนางโดดเด่น แต่คนในสำนักศึกษาหมอกดาราล้วนเป็นลูกหลานชนชั้นสูงที่มาจากแต่ละแคว้น พรสวรรค์ของทุกคนต่างอัศจรรย์ แล้วนางจะไปคนเดียวโดยไม่มีคนดูแลได้เช่นไร?
เฟิ่งจิ่วยิ้มน้อยๆ พร้อมลุกขึ้นมายังทางเข้าท้องพระโรง เงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าห่างไกล เอ่ยเสียงเบาว่า “ทำไมจะไม่ได้เจ้าคะ? นี่เป็นเพียงก้าวแรกที่ข้าจะเดินออกไปเท่านั้น”
………………………………………………….
ตอนที่ 618 เมืองซิงอวิ๋น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
ไม่ลงต่อแล้วเหรอ🥲...
ยัยน้องของเรามีผู้มาตมหาอีกคนแล้ว ท่านยมมม ว่าที่ภรรยาจะมีคนแย่งละนะ สนุกมากกกกก ช่วยมาลงตอนต่อไปนะคะ รอคอยๆๆ 😍😍😍...
เอ็นดูท่านยม จะสมหวังไหมเนี่ย 5555...
ถ้าคนต้องการฆ่าแม่ทัพใหญ่คือไอ่ผู้ครองแคว้นนะ มันก็เนรคุณเกิ้นนน...
ท่นเจ่าตำกนักพนายามหายไปไหยน๊อออิ ยัยหนูมีเรื่องแล่วว ใดใดคือทุกคนรู้ชื่อน้องหมด ยกเว้นเจ้าตำหนักขี่งอน 5555...
หมายปแงนางถามท่านอสหรือยังจ๊ะ 😁...
อิ่งอี 55555...
เรื่องนี้สนุกมาก อยากให้อัพเดตตอนทุกวันเลยค่ะ...
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ สนุก น่าติดตามมากเลยค่าาาา...