ที่แท้แล้วหมอนี่ก็คือสามีขี้ขลาดของประธานเย่สินะ ช่วงเช้าเขาไม่ได้มาทำงาน ดังนั้นจึงยังไม่ทราบเรื่องนี้
จางเฉียงมีความรู้สึกดี ๆ ต่อเย่หยุนซูมาตั้งนานแล้ว แต่จะไปแล้วนั้น เดิมทีในตระกูลของเขาเองก็ไม่ได้ขาดเงิน ที่มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทของเย่หยุนซูนั้น เป็นเพราะว่ามาเพื่อเย่หยุนซูโดยเฉพาะ
“ไอ้หมอนี่ ในเมื่อมึงตกลงมาอยู่ในมือของกูแล้ว รอดูเลยว่ากูจะเล่นให้มึงตายอย่างไง”
เมื่อนึกถึงเทพธิดาที่ตนเองเลื่อมใสขึ้นมาแล้ว ที่กลับต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับสิ่งไร้ค่าประเภทนี้เสียอย่างนั้น จางเฉียงพลันก่อเกิดความวู่วามที่ต้องการจะอัดคนบางอย่างขึ้นมาทันที
ทว่าในเมื่อเขาเป็นคนระดับสูงที่มีชื่อมีเกียรติ ดังนั้นแล้วจะต้องเป็นสุภาพบุรุษเสียหน่อย
หลังจากนั้นจึงปรายตามองเซียวหยางอย่างเย็นชาไปหนึ่งหน
“คุณคือเซียวหยางสินะครับ เป็นคนที่มารายงานตัวที่แผนกการขายใช่ไหม ผมเป็นผู้จัดการแผนกการขาย วางใจเถอะครับ หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณเอง จริงสิ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วพวกเรามานั่งคุยกันเรื่องรถกันดีกว่า คุณซื้อรถอะไรหรือครับ?”
ทั้ง ๆ ที่จางเฉียงทราบอยู่แล้วว่าเซียวหยางนั้นเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าฝ่ายหญิงของตระกูลเย่ ไม่ได้มีเงินทองอะไร แต่กลับจงใจทำให้เซียวหยางดูแย่ในสายตาของทุกคนอีก
ทว่าเซียวหยางเองก็ทำได้เพียงแค่ยกยิ้มราบเรียบไปหนึ่งหนเท่านั้นเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็ถือเสียว่าไม่ได้ยิน ก่อนจะหมุนตัวแล้วจากไป
“หึ อยู่ใต้กูแล้วยังกล้าทะนงตัวกับกูมากขนาดนี้อีก รออีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวมึงได้เห็นดีกันแน่”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าจางเฉียงคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะกล้าทะนงตัวมากขนาดนี้ เป็นแค่เพียงคนไร้ค่าคนหนึ่งจะมีอะไรมาดึงรั้นเอาไว้ได้
แผนกการขายล้วนกำลังประชุมกันอยู่ตลอดทั้งช่วงบ่าย หลังเลิกประชุมแล้วทุกคนก็ร่วมพูดคุยสัพเพเหระอยู่ด้วยกัน หลังจากเห็นเซียวหยางเดินเข้ามาแล้วก็ไม่มีใครกล่าวทักทายเขาเลย ราวกับว่าทุกคนล้วนมีเจตนาจะบีบเขากันทั้งหมดเลยก็ไม่ปาน
ทว่าในตอนนั้นเอง จางเฉียงกลับยิ้มเย็นก่อนเอ่ยขึ้นมาเสียงหนึ่งว่า
“เซียวหยาง ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่คุณเข้ามาทำงาน แต่ในเรื่องของการทำงานเองก็ควรที่จะต้องมีท่าทีอย่างคนทำงานคนหนึ่งด้วยเหมือนกันนะครับ”
จางเฉียงเดินมาถึงเซียวหยางแล้ว ก่อนจะเอ่ยพูดต่อตรงหน้าว่า “บริษัทมีภารกิจอย่างหนึ่งครับ หวังว่าจะสามารถส่งให้คุณทำให้มันสำเร็จได้ แน่นอนว่าหากคุณทำไม่สำเร็จแล้วละก็ อ้างอิงจากกฎของแผนกการขายของพวกเราแล้ว คุณก็อาจจะถูกหักเงินเดือนได้”
จางเฉียงเริ่มลงมือกับเซียวหยางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ได้ครับ” เซียวหยางเองก็ตกปากรับคำแบบคิดก็ไม่คิดเช่นเดียวกัน
นี่จึงทำให้จางเฉียงและคนอื่น ๆ ล้วนก่อเกิดความประหลาดใจเล็ก ๆ ขึ้นมากันทั้งสิ้น
เดิมยังนึกกันว่าเซียวหยางจะปฏิเสธอยู่เลยนะ ใครจะทราบว่ากลับตกปากรับคำอย่างรวดเร็วได้ขนาดนี้กัน
ทว่าไม่นานนัก จางเฉียงก็เผยรอยยิ้มเย็นยะเยือกออกมาหนึ่งสายแล้ว ดูเถอะว่ากูจะเล่นงานให้มึงตายอย่างไง
“ดีครับ ตรงไปตรงมาพอดี บริษัทต้องการหาคนพรีเซนเตอร์ภาพลักษณ์คนหนึ่ง ตอนนี้ได้เจรจากับศิลปินไปหลายคนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ล้วนเจรจาไม่สำเร็จ ก่อนเลิกงานผมหวังว่าคุณจะสามารถส่งคำตอบที่น่าพึงพอใจให้ผมหนึ่งฉบับได้นะครับ”
ภารกิจชิ้นนี้กลับไม่ได้เป็นจางเฉียงที่พูดขึ้นมาอย่างส่งเดช แต่มันกลับเป็นเรื่องที่มีเค้ามูลความจริงจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ