“ฮัลโหล หาดาราสาวคนหนึ่งให้ข้าภายในหนึ่งชั่วโมง ใช้ อีกประเดี๋ยวข้าจะส่งที่อยู่ไปให้เจ้า”
หลังจากที่วางสายไปแล้ว เซียวหยางก็ส่งที่อยู่ของบริษัทไป
ไม่นานนักเลขาธิการของเย่หยุนซูก็ทราบเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นจึงนำเรื่องราวไปบอกกับเย่หยุนซูแล้ว
ไม่นานนัก เซียวหยางก็ถูก “เชิญ” ให้เข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน
“เซียวหยาง คุณนี่มันอย่างไรกันแน่คะ เข้าทำงานวันแรกก็จะไม่หยุดสักหน่อยได้เลยหรือ ทำไมต้องสร้างความวุ่นวายให้กับฉันด้วย?” เย่หยุนซูเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกทรงอำนาจ
เซียวหยางกล่าวว่า “นี่ผมกำลังช่วยคุณอีกครั้งอยู่นะครับ ผมได้ยินว่าบริษัทต้องการพรีเซนเตอร์หนึ่งคน ดังนั้นก็เลยช่วยคุณหามาหนึ่งคนก็เท่านั้นเอง มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
“คุณ...”
เย่หยุนซูนั่งลงบนโซฟาของห้องทำงานด้วยสีหน้ากล้ำกลืนระคนโกรธเคือง
เซียวหยางทำให้เธอผิดหวังอีกครั้งหนึ่งเสียแล้ว น่าผิดหวังอย่างถึงที่สุดเลยจริง ๆ
การช่วยคนครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเป็นการสร้างความยากลำบากให้กับเซียวหยาง หรือว่าเขามองไม่ออกอย่างนั้นหรือ แต่แล้วทำไมต้องแสร้งทำท่าทีไม่แยแส หลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายกระโดดเข้าไปในหลุมที่คนอื่นขุดเอาไว้เองก่อนด้วย
“เซียวหยาง สรุปแล้วคุณคิดอย่างไรกันแน่คะ?” เย่หยุนซูร้องถามอย่างกล้ำกลืน
“อะไรคือคิดอย่างไรหรือครับ?”
“คุณยังไม่พอใจที่ฉันยังขายหน้าคนไม่พอใช่ไหม เมื่อคืนวานแม่ฉันก็มาพูดเรื่องหย่ากับฉันอีกแล้ว คุณเองก็ควรที่จะทราบดีว่าตอนนี้ฉันกำลังขัดแย้งในตัวเองมาก ๆ อยู่นะคะ คุณช่วยเอาหน้าหน่อยไม่ได้หรือคะ?”
“เซียวหยาง ฉันรู้ว่าคุณไม่มีเงินไม่มีอำนาจ คนรอบข้างล้วนดูถูกคุณกันทั้งหมด แต่ฉันไม่สนใจเลยจริง ๆ นะคะ ขอเพียงแค่คุณสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้เท่านั้นก็พอแล้ว แต่คุณน่ะ เห็น ๆ กันอยู่ว่าไม่มีคุณสมบัตินั่น แต่กลับจะตายเพื่อรักษาหน้าตา มีชีวิตอยู่เพื่อรับโทษทุกข์ คุณยิ่งเป็นแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้ทุกคนดูถูกคุณมากขึ้นไปอีกนะคะ”
“มันไม่ใช่แค่ตัวคุณที่ขายหน้านะคะ ฉันเองก็ขายหน้าเหมือนกันค่ะ คุณเข้าใจหรือเปล่าคะ?”
เซียวหยางเอ่ยถามอย่างหมดคำจะกล่าวว่า “ผมทำให้คุณขายหน้าอย่างไรหรือครับ?”
“ตะกี้นี้ตัวคุณพูดอะไรคะ? คุณนึกว่าคุณเป็นใครเนี่ย คุณสามารถเรียกดารามาได้หรือ? เซียวหยาง คุณควรที่จะรู้นะคะว่าฉันไม่ชอบพูดโม้คำโตเพื่อรักษาหน้าตา เมื่อวันที่ร้านอาหารตะวันตกก็ทำให้ฉันตาสว่างไปแล้วหนหนึ่งจริง ๆ แต่แล้ววันนี้ คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก ๆ แล้วจริง ๆ ค่ะ”
เซียวหยางยังคงเงียบสงบเป็นอย่างมากอยู่เช่นเดิม ก่อนจะล้วงบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจุด “คุณเข้าใจผู้ชายของตัวเองแบบนี้หรือครับ?”
ประโยคนี้ทำให้เย่หยุนซูลมหายใจขาดห้วงในทันที ก่อนจะชี้ไปทางประตู “คุณออกไปเลยนะ!”
เซียวหยางหยักไหล่ขึ้นลงอย่างไม่สนใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปแล้ว
...
จางเฉียงที่ติดบุหรี่เองก็ทำผิดไปแล้วเช่นเดียวกัน ก่อนจะมาสูบบุหรี่ที่ปากประตู ในตอนนั้นเผอิญพบกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าพอดี
“เป็นอะไรไปครับพี่จาง เรื่องอะไรที่ทำให้ดีใจมากขนาดนี้กัน” พนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวทักทาย
“ฮะ ๆ บริษัทมีไอ้โง่เข้ามาใหม่คนหนึ่ง แต่กลับกล้าบอกฉันว่าสามารถต่อสายโทรศัพท์เรียกดาราให้มาหาได้”
“ฮ่า ๆ พี่จาง ไอ้หนุ่มคนนั้นไม่ได้เป็นบ้าไปใช่ไหมครับ ดาราใหญ่จะมาเพราะไอ้กระจอกคนหนึ่งได้ด้วยหรือ?” พนักงานรักษาความปลอดภัยเอ่ยเยาะหยัน
“ฉันเองก็พูดแบบนี้เหมือนกัน”
คุยกันไปสองประโยค จางเฉียงก็เข้าไปแล้ว
ตะกี้นี้ที่พึ่งเข้าไปได้ไม่นานนัก ที่ประตูก็มี มาเซราติสีชมพูคันหนึ่งมาจอดเสียที่ปากประตูแล้ว ก่อนจะมีคนคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ
เจิ้งอีเหริน
ดาราชั้นหนึ่งในประเทศ มักจะเฉิดฉายทำกิจกรรมอยู่บนหน้าจอเป็นประจำ เป็นพรีเซนเตอร์รับของจนมือไม้อ่อน ว่ากันว่าค่าจ้างพรีเซนเตอร์ของเธอตอนนี้สูงขึ้นถึงแปดสิบล้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถ้าไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วยกระทั่งตัวเธอเป็น ๆ ก็ไม่อาจพบเห็นได้
เจิ้งอีเหรินยังมีอีกฉายาหนึ่ง ชื่อว่านางฟ้าของประเทศ หน้าตาสะสวยสะกดใจคน ทรวงอกสูงใหญ่ ใบหน้านั้นงดงามอย่างหาที่สุดไม่ได้
เธอสวมใส่กางเกงยีนสีอ่อน เดิมก็เป็นขาที่เรียวยาวราวจมูกอยู่แล้ว บวกเข้ากับรองเท้าส้นสูงเข้าคู่กันอีก มันยิ่งเพิ่มความมีเสน่ห์มากเข้าไปกันใหญ่ รวมถึงแว่นกันแดดที่ทำให้ดูลึกลับเป็นอย่างมากนั่นอีกด้วย
“สวัสดีครับ ขอเรียนถามว่าคุณมาหาใครหรือครับ?” พนักงานรักษาความปลอดภัยกุลีกุจอเข้าไปเอ่ยสอบถามทันที เป็นเพราะว่ากำลังสวมแว่นกันแดดอยู่ ดังนั้นจึงยังมองไม่ออกในตอนแรก
เจิ้งอีเหรินถอดแว่นกันแดดออก หลังจากนั้นก็เอ่ยว่า “สวัสดีค่ะ ฉันมาหาเซียวหยางค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ