เดชราชาพิโรธ นิยาย บท 16

เย่หยุนซูกลับมาถึงบ้านแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มเรียบร้อยแล้ว ทว่ากลับพบว่าโคมไฟยังคงสว่างอยู่ เซียวหยางกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา

“กลับมาแล้วค่ะ”

ไม่ได้มีคำอื่นมากกว่านั้น ไม่ได้เอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบ

เย่หยุนซูเปลี่ยนไปสวมใส่รองเท้าแตะ นำกระเป๋าวางโยนเอาไว้บนโต๊ะ ร่างทั้งร่างทิ้งตัวลงบนโซฟา

“ดื่มน้ำแกงไก่สิครับ” เซียวหยางผุดลุกยืน ก่อนจะถือน้ำแกงไก่กลิ่นหอมเตะจมูกออกมาจากห้องครัวหนึ่งถ้วย

เย่หยุนซูสบตามองน้ำแกงไก่อย่างเอือมระอา ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจว่า “คุณวางไว้ตรงนั้นก่อนเลยค่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

เซียวหยางชะงักนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง

“พรุ่งนี้เป็นวันของวันรวมญาติ ญาติผู้น้อยผู้ใหญ่ทุกคนของตระกูลเย่ล้วนไปกันทั้งนั้น ไปรวมตัวเพื่อพบหน้า”

“ครับ ผมทราบครับ”

เย่หยุนซูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา

“โดยปกติแล้ววันรวมญาติมักจะวางแผนกำหนดการให้กับเรื่องของตระกูลนิด ๆ หน่อย ๆ และในครั้งนี้ก็จะเป็นการหาหรือเรื่องการหย่าของฉันค่ะ”

นายท่านแห่งตระกูลเย่รักษาโรคมาสามปีแล้ว เย่หยุนซูเองก็ใช้ชีวิตกับผู้ชายที่ไม่ได้มีพื้นฐานความสัมพันธ์ด้วยกันคนหนึ่งมาสามปีแล้วเช่นเดียวกัน

ภายใต้ความพยายามของเย่หยุนซู สุดท้ายก็ทำให้คุณหญิงเฒ่ามองเห็นความสามารถนี้ของตระกูลเย่แล้ว ไม่เพียงแค่เซ็นสัญญาร่วมกับกับโจวซื่อเท่านั้น อีกทั้งยังแสดงความโปรดปรานต่อจ้าวฟางสงอีกด้วย

ดังนั้น เมื่อคำนึกถึงอนาคตของตระกูลเย่แล้ว คุณหญิงเฒ่าจึงตัดสินใจที่จะขับไล่เซียวหยางออกจากบ้าน เพื่อเลือกลูกเขยคนอื่นแก่เย่หยุนซู

“คุณคิดเห็นอย่างไรหรือครับ?” เซียวหยางเอ่ยถาม

เย่หยุนซูยกยิ้มอย่างขนขืนพลางกล่าว “ฉันก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นค่ะ เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ตระกูลครอบงำชิ้นหนึ่ง สามปีก่อนก็เป็นแบบนี้ สามปีหลังจากนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือคะ?”

“ขอเพียงแค่คุณไม่ยินยอมเท่านั้น ก็จะไม่มีใครสามารถทำให้พวกเราแยกจากกันได้” เซียวหยางเอ่ยพูดอย่างยึดมั่นไร้ความลังเล

ได้ยินดังนั้นแล้ว ภายในหัวใจของเย่หยุนซูจึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

นับตั้งแต่ถูกเหยียดยามในงานวันเกิดของคุณย่าในครั้งที่แล้ว ในช่วงนี้เซียวหยางเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เปลี่ยนไปเป็นมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทั้งก็ออกไปทำงานด้วยเช่นเดียวกัน

อันที่จริงแล้ว ได้อยู่ด้วยกันกับเซียวยางเองก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรเหมือนกัน...

เย่หยุนซูถูกความคิดนี้ของตนเองทำให้ตกใจเสียแล้ว เหตุใดจึงเกิดความคิดน่าหวาดกลัวเช่นนี้ออกมาได้ คงไม่ได้เป็นเพราะว่าเขาต้มน้ำแกงไก่ให้ตนเองทุกวันมาตลอดระยะเวลาสามปีมานี้แล้วเกิดความประทับใจหรอกกระมัง

เดิมทีเธอไม่ได้ชมชอบเซียวหยาง พวกเธอไม่ได้มีพื้นฐานความสัมพันธ์ด้วยกัน นี่คือการถูกบีบบังคับ จะไม่สามารถมีความรักกันได้ตลอดกาล!

“คุณยังจำกาน้ำทองแดงได้อยู่ใช่ไหม พรุ่งนี้คุณบอกกับทุกคนไปเลยค่ะ ว่ากาน้ำทองแดงนั่นไม่ได้ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ได้มาจากการประเมินของคุณแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้แล้วละก็ ไม่แน่ว่าคุณหญิงเฒ่าก็อาจจะมองคุณใหม่ก็ได้นะคะ”

เซียวหยางเอ่ยขึ้นด้วยความขบขัน “ก็แค่กาน้ำทองแดงกาหนึ่งเท่านั้น ไม่คู่ควรหรอกครับ”

“แต่ว่ากาน้ำทองแดงนั่นมีราคาห้าสิบล้านนะคะ!” เย่หยุนซูเหวขึ้นมาเสียงดังแปดระดับ

“ห้าสิบล้านน่ะ มันเยอะมากหรือครับ?” เซียวหยางแบมือออกจากกัน ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยท่าทางที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเป็นอย่างมาก

“คุณ...คุณนี่มันสมองขี้เลื่อยคนหนึ่ง ดินโคลนที่ก่อกำแพงไม่ได้”

เซียวหยางกล่าวด้วยท่าทีสงบและผ่อนคลายว่า “วางใจเถอะครับ พรุ่งนี้ผมจะแสดงหลักฐานให้ตระกูลเย่เห็นเอง ว่าผมเซียวหยางนั้นไม่ใช่คนไร้ค่า”

“คุณจะแสดงหลักฐานอย่างไรคะ?” เย่หยุนซูเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“ถึงตอนนั้นคุณจะรู้อย่างแน่นอนครับ เชื่อฟังนะครับ ดื่มน้ำแกงไก่สิครับ”

เย่หยุนซูส่ายศีรษะไปมา รู้สึกว่าเซียวหยางกำลังคุยโวคำโตอีกแล้ว ทว่าในระยะนี้คำคุยโวของเซียวหยางนั้น มันแทบจะเป็นจริงทุกครั้งเสมอ ๆ ไป

หรือว่าเขามีเรื่องอะไรที่ปิดบังฉันเอาไว้อยู่จริง ๆ?

เย่หยุนซูดื่มน้ำแกงไก่แล้ว ก่อนจะยกก้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเองแล้วปิดประตูดังปัง

กลับมาถึงโถงประชุมแล้ว เมื่อรอให้คนตระกูลเย่ทุกคน ๆ ล้วนมารวมตัวกันทั้งหมดแล้วคุณหญิงเฒ่าจึงปรากฏตัวขึ้น เมื่อคนมากันครบองค์ประชุมแล้ว ก็จงใจทำให้ทุกคนรอเธอเพียงคนเดียว

ตระกูลไม่ใหญ่แต่กฎเกณฑ์กลับเยอะ แต่น่าเสียดายที่ทุกคนล้วนแสร้งแสดงออกมากันทั้งนั้น หากเทียบกับตระกูลสูงศักดิ์อย่างแท้จริงแล้ว มันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิงเลย

“คุณย่าครับ”

“คุณย่าคะ”

“คุณแม่ครับ”

“คุณแม่คะ”

ทุก ๆ คนล้วนกล่าวคำทักทาย รอหลังจากที่คุณหญิงนั่งลงแล้ว พวกเขาจึงกล้านั่งลงกันบ้าง

หลิวฉ่ายเสียกล่าวว่า “คุณหญิงเฒ่า พวกเรามาพูดเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ เป้าหมายสำคัญของวันรวมญาติวันนี้ ก็คือให้ทุก ๆ คนมาเป็นพยานค่ะ จากการคิดพิจารณาอย่างรอบครับของครอบครัวเราและคุณหญิงเฒ่าแล้ว จึงตัดสินใจที่จะให้เย่หยุนซูกับเซียวหยางหย่าและตัดความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันค่ะ”

คำพูดนี้ ญาติทุกคนที่อยู่ด้วยต่างเริ่มซุบซิบกันขึ้นมาแล้ว ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปบนร่างของเซียวหยางทั้งสิ้น มีเยาะหยัน มีดูแคลน ทั้งยังมีคนที่คาดเดาเอาไว้แล้วว่าจะต้องมาถึงวันนี้

ทว่าที่ทำให้ทุกคนไม่เข้าใจนั้น คือเซียวหยางกลับไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตระหนกเป็นอย่างมากออกมาเลย กลับกันนั้นยังคงนั่งอยู่ราวกับคนไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยก็ไม่ปาน

หลิวฉ่ายเสียผุดลุกยืน สบตามองเซียวหยางอย่างดูแคลนหนึ่งหน ก่อนจะเริ่มบรรยายพฤติกรรมไม่ดีของเขาสองสามอย่างขึ้นมา

“ทุกท่านคะ ตามหลังการแล้วการสมรสของลูก ๆ มันสัมพันธ์กับความสุขทั้งชีวิตของลูก ๆ ค่ะ ในตอนแรกหากไม่ใช่เพราะนายท่านยืนยันเช่นนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามลูกสาวของพวกเราก็จะไม่แต่งงานกับเซียวหยางคนไร้ค่าคนนี้เหมือนกันค่ะ”

“คนคนนี้แต่งเข้าฝ่ายหญิงมาสามปี กินข้าวของตระกูลเย่ อาศัยอยู่ในตระกูลเย่ วัน ๆ เอาแต่ลอยไปลอยมา งานการอะไรก็ไม่ทำ”

“เขาอาศัยลูกสาวของฉันให้เลี้ยงดูคนเดียว บริษัทของลูกสาวฉันสามารถทำงานได้ไม่เท่าไหร่เอง ดูหยุนซูสิคะ หลายปีมานี้ล้วนเหี่ยวแห้งไปไม่น้อยแล้ว!”

ทุกคนเองก็เริ่มกล่าวหาความผิดกันขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน คำดูถูกเหยียดยามดังขึ้นในทันที ในเมื่อคำของคุณหญิงเฒ่าคือประกาศิต

ในเมื่อเธอเห็นชอบให้เย่หยุนซูหย่าแล้ว ถ้าอย่างนั้นเซียวหยางจะต้องถูกไล่ออกจากบ้านอย่างคนหมดตัวอย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ