ความรู้สึกภายในหัวใจของเย่หยุนซูเองก็ไม่ได้ดีมากนัก เธอเองก็คิดไม่ถึงเช่นเดียวกัน ว่าพึ่งแค่เริ่มต้นก็แปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงมากเช่นนี้เสียแล้ว เธอนึกว่ามันจะเป็นการหาหรือที่มีทางหนีทีไล่เสียอีก
“คุณย่าคะ เรื่องนี้สามารถชะลอไปก่อนได้ไหมคะ ถึงแม้ว่าเซียวหยางจะมีจุดที่ไม่ดีพออยู่หลายที่ แต่ในระยะนี้เขาเปลี่ยนไปจนเห็นได้มากขึ้นแล้วจริง ๆ นะคะ”
“ยังมีกาน้ำทองแดงกานั่นอีก นั่นเองก็เป็นของขวัญวันเกิดที่เขาซื้อให้กับคุณย่านะคะ”
ไม่พูดถึงสิ่งนี้ยังดีกว่าเสียอีก พอเอ่ยถึงสิ่งนี้ขึ้นมาแล้ว โทสะของหลิวฉ่ายเสียเองก็ปะทุขึ้นมาเสียแล้ว ก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นยะเยือกไม่หยุด
“ลูกสาว เจ้าคนไร้ค่าคนนี้ก็แค่หยิบเอาจุดอ่อนจุดใหญ่มาจุดหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเขาถือดีอะไรที่จะซื้อวัตถุโบราณมูลค่าห้าสิบล้านได้ ช่างน่าขันเกินไปแล้วจริง ๆ!”
“ลูกได้รับความกล้ำกลืนมาสามปีแล้ว แต่อย่าได้ใจอ่อนเพื่อผู้ชายไร้ค่าคนนี้สิจ๊ะ”
เย่หยุนซูสบตามองสายตาของทุกคน ทั้งยังมีคุณหญิงเฒ่าที่มองมาทางตนเองก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงอย่างเรียบเฉยให้อีกด้วย สีหน้าของบิดามารดาก็ยิ่งคาดหวังมากขึ้นไปอีก แทบอยากที่จะให้เซียวหยางไสหัวออกจากตระกูลเย่ไปจนใจจะขาดแล้ว
เย่หยุนซูกำมือเข้าหากันแน่น นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและหนักหนามากที่สุดอย่างหนึ่ง
เธอไม่ใช่คนใจจืดใจจำ การได้คลุกคลีด้วยกันมาสามปีนั้น เธอไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างในตอนแรกได้
“ขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ และคุณย่านะคะ หนูไม่สามารถตอบตกลงได้ค่ะ”
ตึง!
เสียงอึกทึกของทุกคนดังเซ็งแซ่ขึ้นมาในทันที พวกเขาล้วนไม่ได้คิดถึงเลยว่าเย่หยุนซูจะไม่เห็นชอบด้วย หากทราบแล้วละก็ นี่เป็นโอกาสที่มีมาได้อย่างยากลำบากโอกาสหนึ่งเลยเชียวนะ สำหรับเธอแล้วก็ถือว่าเป็นการปลดแอกอย่างหนึ่งด้วยเฉกเช่นเดียวกัน
การได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนไร้ค่าคนหนึ่ง มันมีอะไรดีมากขนาดนั้นเลยหรือ?
ทว่าในตอนนั้นเอง เย่เสี่ยวหว่านกลับพุ่งเข้ามาเสียแล้ว เธอดื่มไวน์แดงไปไม่น้อยและกำลังเมามายได้ที ก่อนจะเอ่ยร้องเสียงดังว่า
“เซียวหยาง คุณมันเป็นคนไร้ค่าไร้ประโยชน์คนหนึ่ง วิปลาส รีบไสหัวออกไปสิ ไสหัวออกไปจากตระกูลเย่แล้วอย่าได้ปรากฏตัวให้เห็นอีก!”
ทุกคนล้วนตะลึงจังงังกันทั้งสิ้น คิดไม่ถึงเลยว่าในตอนนี้เย่เสี่ยวหว่านจะกระโดดออกมา ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนในตระกูลเย่ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่สมควรที่จะตื่นเต้นมากเช่นนี้เหมือนกัน
เย่หยุนซูกุลีกุจอเข้ามาพยุงเย่เสี่ยวหว่านเอาไว้ทันที “เสี่ยวหว่าน ทำไมเธอถึงดื่มไวน์ได้เสียแล้วล่ะ อย่าเป็นแบบนี้สิ...”
“พี่สาวคะ พี่...พี่อย่าดึงฉัน คนคนนี้เป็นขยะชิ้นหนึ่ง ลามกอนาจาร พี่รีบ ๆ หย่ากับเขาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ รีบหย่ากับคนสารเลวคนนี้เสีย!”
เย่เสี่ยวหว่านอาศัยฤทธิ์สุรา ก่อนจะชี้นิ้วแล้วก่นด่าเซียวหยางว่า “เซียวหยาง ตอนนี้คุณรีบไสหัวมาเซ็นหนังสือหย่าเดี๋ยวนี้เลยนะ เซ็นเสร็จแล้วก็ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ตระกูลเย่ของพวกเราไม่ต้อนรับคุณ!”
“เสี่ยวหว่าน เธอพูดจาส่งเดชอะไรน่ะ?” เย่หยุนซูบันดาลโทสะขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว เย่เสี่ยวหว่านเป็นอะไรไป ในยากปกติถึงแม้ว่าจะพูดจาอวดดีเพราะเป็นคุณหนูใหญ่ไปนิดหน่อยก็ตาม หรือดูถูกเซียวหยางก็แล้วแต่ แต่ก็ไม่เคยพูดจาไม่น่าฟังเช่นนี้มาก่อนเหมือนกันนี่นา
“พี่สาวคะ พี่อย่าปกป้องเขาเลยค่ะ เขาเป็นคนสารเลวคนหนึ่ง วิปลาส! จริง ๆ นะคะ!” เย่เสี่ยวหว่านร้องเอ่ยไปมา ทว่าจู่ ๆ กลับร่ำไห้ออกมาเสียแล้ว
“พี่รู้ไหมคะ ฉันล้วนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว วันนั้นพี่อยู่รอฉันที่บ้านฉันมาโดยตลอด อีกนิดเดียวฉันก็เกือบถูกทำให้มีมลทินแล้ว ในตอนที่ฉันกำลังตื่นมาอย่างสะลึมสะลืออยู่ก็มองเห็นเขา เป็นเซียวหยาง! เขาอีกนิดเดียวเขาก็เกือบจะล่วงละเมิดทางเพศฉันแล้ว!”
อะไรนะ?!
คนตระกูลเย่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนตะลึงงันกันไปหมดแล้ว คุณหญิงเฒ่าเองก็มีสีหน้ามืดครึ้มขึ้นมาแล้วเฉกเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้มันสั่นสะเทือนมากเกินไปแล้ว มันเหนือความคาดหมายมากเกินไปแล้ว ตระกูลเย่เป็นตระกูลหนึ่งที่ถือเรื่องพรรค์นี้ที่เกิดขึ้นระหว่างเครือญาติมากที่สุด
พี่เขยทำให้น้องภรรยามีมลทิน ข่าวคราวระเบิดระเบ้อเช่นนี้กลับปรากฏออกมาในวันรวมญาติแล้วเสียอย่างนั้น!
สายตาของทุก ๆ คนที่สบตามองเซียวหยางแปรเปลี่ยนไปในทันที ที่แท้แล้วกลับไม่ได้เป็นเพียงแค่คนไร้ค่าคนหนึ่งที่แต่งเข้าฝ่ายหญิงเท่านั้น ทั้งยังเป็นคนวิปลาสล่วงละเมิดทางเพศคนหนึ่งอีกด้วย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ