เดชราชาพิโรธ นิยาย บท 18

ดวงตาทั้งสองข้างของเซียวหยางหรี่ลง ก่อนจะสบตามองคนเหล่านี้ด้วยสายตาเย็นชา

เห็นได้อย่างชัดเจนมากว่าเย่เสี่ยวหว่านเข้าใจผิดไปแล้ว เป็นเขาที่ช่วยเย่เสี่ยวหว่านเอาไว้ ทว่ากลับถูกเย่เสี่ยวหว่านเข้าใจผิดว่าเขาทำให้เธอมีมลทิน

แต่เขาเองก็คร้านจะอธิบายอะไรแล้วเช่นเดียวกัน ยังคงเป็นประโยคนั้น คนที่แข็งแกร่งมากพอ จะไม่หวาดกลัวต่อลมปาก จะไม่หวาดกลัวว่าจะได้รับความไม่ยุติธรรม

พูดจบก็หมุนตัวจากไป

เขาเป็นรามังกรที่องอาจ เหตุใดจึงต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองต่อหน้าคนธรรมดาสามัญพรรค์นี้ด้วย

บุญคุณความแค้นจบสิ้น อย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีกเลย

“คุณ ยังมีพวกคุณที่ทำให้ฉันผิดหวังมากเกินไปแล้ว”

สายตาลุ่มลึกของเซียวหยางสบตามองเย่หยุนซูหนึ่งหน ก่อนจะหมุนตัวจากไปในทันที

ทว่าในตอนที่จากไปนั้นเอง เซียวหยางออกหมัดชกไปยังเสาขนาดใหญ่มากเสาหนึ่ง

ทุกคนค้นพบในทันทีว่าบนเสาต้นนั้นกลับปรากฏรอยบุ๋มขนาดใหญ่รอยหนึ่ง!

สรุปแล้วคนคนนี้มีพละกำลังมากแค่ไหน?

เย่ฉินหมิงที่ล้มลงไปบนพื้นเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเหงื่อเย็น ๆ ยิ่งไหลออกมามาก ราวกับว่าเทพเจ้าแห่งความตายแทบจะเฉียดผ่านไหล่ไป

ส่วนหยาดน้ำตาของเย่หยุนซูนั้นพรั่งพรูออกมามากกว่าเดิม ภายในหัวใจเจ็บปวดเป็นหมื่นเท่า

ทำไมกันนะ?

ทำไมความคิดเสียใจของเขาแม้สักนิดก็ไม่มีเลย ทำไมกระทั่งคำอธิบายประโยคเดียวก็ไม่มี!

ที่เขาออกหมัดไปแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรอีก นี่คือกำลังแสดงอำนาจอย่างนั้นหรือ?

หลังเซียวหยางจากไปแล้ว ทั้งห้องโถงใหญ่ก็แปรเปลี่ยนเป็นไร้สุ้มเสียง เป็นเพราะกำลังจมอยู่ในฉากเหตุการณ์เหนือมนุษย์เมื่อครู่นี้อยู่

“ไปเสียได้ก็ดี คนสารเลวพรรค์นี้ หากอยู่ในตระกูลเย่ช้าเร็วก็คือหายนะอย่างหนึ่ง!”

โทสะของเย่เสี่ยวหว่านยังไม่มลายหาย ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างโกรธเคือง ว่าน่าเวทนาต่อความบริสุทธิ์ของตนเองแล้ว ที่ถูกผู้ชายพรรค์นี้ทำให้มีมลทิน

ทว่าในตอนนั้นเอง ประตูใหญ่ถูกเปิดออก คนหลายสิบคนยืนเรียงเป็นสองแถว มีผู้เฒ่าคนหนึ่งปรากฏกายตามาต่อหน้าทุกคน

“คุณปู่ เป็นคุณปู่ครับ!”

“คุณปู่ คุณปู่กลับมาได้อย่างไรกันคะ?”

ในห้องโถงใหญ่ ญาติผู้น้อยและญาติผู้ใหญ่ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนกันในทันที ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้คุณหญิงเฒ่าจะรับหน้าที่ดูแลเรื่องน้อยใหญ่ของตระกูลเย่ก็ตาม ทว่าคนที่เป็นผู้ประกาศประกาศิตโดยแท้จริงนั้น ก็ยังคงเป็นนายท่านแห่งตระกูลเย่ เย่ว่านเหนียน!

“ว่านเหนียน คุณไม่ได้รักษาอาการป่วยอยู่ที่ต่างประเทศมาโดยตลอดหรอกหรือคะ ทำไมจู่ ๆ กลับมาแล้วเสียล่ะ ทั้งก็ไม่แจ้งเลยสักนิด?” คุณหญิงเฒ่ากุลีกุจอผุดลุกยืนจากนั่งทันที ก่อนจะเข้าไปต้อนรับ

เย่ว่านเหนียนกวาดสายตามองทุกคนในตระกูลเย่หนึ่งหน สายตาที่มองไปยังคุณหญิงเฒ่านั้น มันแฝงความผิดหวังมากอยู่หลายส่วน

“หึ ถ้าผมไม่กลับมาอีก ไม่แน่ว่าตระกูลเย่ก็อาจถูกพวกคุณวุ่นวายจนเป็นสภาพนี้ก็ได้!”

สีหน้าคุณหญิงเฒ่าง้ำงอในทันที เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ว่านเหนียน พูดคำนี้ได้อย่างไรน่ะ?”

เย่ว่านเหนียนเอ่ยว่า “ได้ยินว่าคุณจะให้หยุนซูกับเซียวหยางหย่ากันอย่างนั้นหรือ?”

คุณหญิงเฒ่าพลันเข้าใจในทันที นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก ที่แท้ก็เรื่องนี้สินะ

“ไม่ผิดค่ะ มีเรื่องแบบนี้จริง ๆ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ต้องให้คุณเป็นกังวลแล้ว คุณอุตส่าห์กลับมาโดยเฉพาะทั้งที มันจำเป็นที่ไหนละคะ?”

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงนั้น คือการที่เย่ว่านเหนียนตบโต๊ะอย่างรุนแรงหนึ่งหน ก่อนจะกล่าวด้วยโทสะว่า

“เหลวไหล! ก่อนผมจะไปผมพูดกับคุณไปว่าอย่างไร ไม่สามารถให้หยุนซูหย่ากันได้อย่างแน่นอน เพราะเซียวหยางกับหยุนซูนั้นเป็นคู่ที่เหมาะสม!”

คู่ที่เหมาะสม?

ทุกคนในตระกูลเย่ได้ยินคำนี้ต่างก็ล้วนนิ่งเงียบกันไปทั้งหมด สุดท้ายแล้วเซียวหยางทำเรื่องที่ไม่อาจสู้หน้าคนอะไรไป เกรงว่านายท่านก็ยังไม่ทราบกระมัง

“คุณปู่คะ ทำไมคุณปู่ต้องพูดแทนคนนอกคนหนึ่งด้วยละคะ คุณปู่ทราบหรือเปล่าคะ ว่าไอ้เดรัจฉานนั่นทำอะไรกับหนูไว้?”

“เขากลับทำให้หนูมีมลทิน เขาเป็นพี่เขยของหนูนะคะ เดรัจฉานพรรค์นี้ ให้เขาหย่าก็ถือว่าใจดีกับเขาแล้วค่ะ!” เย่เสี่ยวหว่านเอ่ยพูดด้วยโทสะ

เย่ว่านเหนียนส่ายศีรษะไปมาไม่หยุด ก่อนจะเอ่ยด้วยความไม่พอใจว่า “เลอะเลือนกันไปหมดแล้วจริง ๆ เรื่องราวยังไม่ทำให้กระจ่าง พวกเธอก็ตัดสินกันไปเองเสียแล้ว”

“ฉันจะให้พวกเธอดูอะไรบางอย่าง แล้วก็จะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

เย่ว่านเหนียนให้คนนำคลิปจากกล่องวงจรปิดกลับมาเปิดให้ทุกคนได้ดู

ไม่นานนักคลิปก็ถูกเปิดบนจอใหญ่ หลังจากนั้นก็ปรากฏภาพและเสียง

“คุณชายจวิน ผมเตรียมเรียบร้อยแล้วครับ”

“ถ่ายให้ฉันแบบละเอียดหน่อย ฉันต้องการรายละเอียดทุก ๆ อย่าง โดยเฉพาะเสียงร้อง...”

เมื่อมองดูคลิปก็ดูออกแล้วว่าเป็นเสียงของเฉิงจวินที่กำลังพูดคุยลามกกับคนขับรถ ส่วนเย่เสี่ยวหว่านนั้นกำลังนอนอยู่ทางด้านหลังพวกเขา

“ตระกูลเฉิงสมควรตาย ฉันจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ รังแกคนเกินไปแล้ว” ดวงตาทั้งสองข้างของคุณหญิงเฒ่าเย่แฝงไปด้วยความเย็นยะเยือก

ส่วนเย่เสี่ยวหว่านเองก็บันดาลโทสะเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะยามเมื่อเห็นเฉิงจวินฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอ มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่จนอดที่จะสั่นเทาไม่ได้

เป็นในตอนนั้นเอง ผู้ชายคนหนึ่งกระโดดเข้ามาจากนอกหน้าต่าง

เย่ว่านเหนียนส่ายศีรษะพลางยิ้มขืน ก่อนจะกล่าวว่า “ราชามังกร ผมต้องขอโทษแทนตระกูลเย่ต่อท่านก่อนเป็นลำดับแรก หวังว่าท่านจะไม่ต่อว่า”

“นายท่าน ระหว่างท่านกับข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันมากขนาดนี้ ผู้บริสุทธิ์ย่อมบริสุทธิ์”

นายท่านแห่งตระกูลเย่สบตามองเซียวหยางด้วยความประทับใจหนึ่งหน เซียวหยางคือนายเหนือหัวแห่งวิหารมังกร ขอเพียงแค่คำประโยคหนึ่งของเขาเท่านั้น ตระกูลเล็กจ้อยอย่างตระกูลเย่ก็จะตายเยี่ยงมดตัวหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ที่น่าขันคือภรรยาในตระกูลของตนเองกลับดูถูกเซียวหยาง

“อาการป่วยของนายท่านคงจะดีไม่น้อยแล้วกระมัง”

“หากไม่มีปัจจัยการรักษาที่วิหารมังกรจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ เกรงว่าผมที่เป็นร่างกระดูกแก่ ๆ ก็คงจะเรียบร้อยไปนานแล้วละครับ”

“จริงสิครับ ผมนำข่าวข่าวหนึ่งกลับมาด้วย” กล่าวมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเย่ว่านเหนียนดูหนักอึ้งขึ้นมาแล้ว

“ข้อมูลจากหน่วยข่าวที่สามารถเชื่อถือได้ มีคนคิดไม่ดีต่อหยุนซูครับ”

เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว เซียวหยางที่แต่เดิมเงียบสงบ จู่ ๆ ดวงตาทั้งสองข้างกลับปะทุไอเย็นยะเยือกขึ้นมาสองสาย

“เป็นเพราะว่า P-one หรือ?”

บริษัทผลิตยาของเย่หยุนซูได้คิดค้นวิจัยจากสสารพิเศษชนิดหนึ่งด้วยการใช้การผสมโมเลกุลขนาดใหญ่บนกล้องจุลทรรศน์ มีชื่อเรียกว่า P-one

ทั้งก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ที่บริษัทของเย่หยุนซูกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่ร้อนแรงเป็นที่น่าสนใจของหยินโจว มูลค่าบริษัทอยู่ที่สามร้อยล้าน

ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ P-one นั้น ก็คือการที่สามารถกระตุ้นเซลล์ประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่ตายแล้วให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

สำหรับการเสียชีวิตด้วยโรคสมองบางชนิดนั้น มันมีผลการรักษาอย่างที่ก่อนหน้าไม่เคยมีมาก่อน

ทว่าสิ่งที่เย่หยุนซูไม่ทราบนั้น คือขอเพียงแค่ P-one ปรับแต่งเพิ่มไปอีกหนึ่งขั้นเท่านั้น ก็จะสามารถกลายเป็นสารเสพติดชนิดใหม่ได้

ในตอนแรกที่เซียวหยางเห็นวิทยานิพนธ์ของเย่หยุนซูที่เผยแพร่บนนิตยสารวิทยาศาสตร์สำหรับผู้ทรงอำนาจนั้น ก็สามารถรับรู้ได้ถึงจุดนี้เรียบร้อยแล้ว

ดูท่าแล้ว สิ่งที่ควรจะมาก็มาแล้วจริง ๆ สินะ

“เซียวหยาง อันที่จริงแล้วแรงดึงดูดของ P-one นั้นมันยิ่งใหญ่มากเกินไปแล้วจริง ๆ โลกมืดฝั่งตะวันตกเริ่มจับตามองหยุนซู กรุ๊ปเรียบร้อยแล้วครับ ผมกลับว่าหยุนซูจะมีอันตราย หวังว่าคุณจะไม่ปิดหูปิดตาต่อหยุนซูเด็กคนนั้น อย่างไรก็อยู่ข้างกายเธอต่อไปเถอะครับ”

เซียวหยางพยักหน้าขึ้นลง กล่าวว่า “วางใจเถิด ข้าจะไม่ให้หยุนซูเกิดเรื่องแน่นอน”

ในเมื่อเขากับเย่หยุนซูเองก็อยู่ด้วยกันมาสามปีแล้ว หากบอกว่าสามปีก่อนหน้านี้นั้น เขาอยู่ข้างกายเธอเพื่อตอบแทนบุญคุณ ทว่าสามปีหลังมานี้ เขากลับหลงรักผู้หญิงคนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

ได้ยินคำนี้แล้ว เย่ว่านเหนียนจึงวางใจลง ก่อนจะนั่งรถจากไป

หลังเย่ว่านเหนียนจากไปแล้ว สายตาของเซียวหยางก็เย็นยะเยือกขึ้นมา

“ดูท่าแล้วที่ข้าจำศีลมาสามปี หมาแมวอะไรต่อมิอะไรก็กล้ากระโดดโลดเต้นขึ้นมากันสินะ”

“กล้าแตะต้องผู้หญิงของเซียวหยาง ข้าจะดูเสียหน่อย ว่าบนคอพวกเจ้าจะมีหัวอยู่กี่หัว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ