ฟาดแท่งเหล็กนี้ลงหนักเกินไปแล้ว ทุบลงบนกระดูกขาพอดี จ้าวฟางสงถึงขั้นกับได้ยินเสียงกระดูกของตัวเองแตกแล้ว
อ๊า!
ขาของฉัน!
จ้าวฟางสงเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง
“แม่งเอ้ย!ร้อง กูให้มึงร้อง!”
เพิ่งจะล้มลงกับพื้น ชายหนุ่มอีกสามก็ตามมาถึงแล้ว แต่ละคนต่างก็แตะไปที่ลำตัวของเขาแล้ว
“ไอ้ตอแหล ยังจะกระบวนท่าขากรรไกรมฤตยูแม่งอีกนะ?”
“แค่กูเห็นความตอแหลก็รู้สึกแย่ พอรู้สึกแย่ก็อยากจะทุบตีคน สหายทั้งหลาย ต่อยมัน!”
ชายวัยรุ่นทั้งสี่คนตีจ้าวฟางสงอย่างบ้าคลั่งยกหนึ่ง
จ้าวฟางสงมีความคิดที่อยากจะตายแล้ว นี่แม่งมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
กูจ่ายเงินเพื่อมาตอแหล ไม่ได้มาเพื่อถูกตี กลุ่มของพวกมึงทำเรื่องชั่วมากมายสมควรที่จะถูกลงโทษอย่างร้ายแรง
“กูคือจ้าวฟางสง พวกมึงเบิกตามองให้ชัดเจน ให้พวกมึงต่อยไอ้หมอนั่น ไม่ใช่ฉัน เยสเข้! ”
จ้าวฟางสงชี้ไปยังเซียวหยาง พูดตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
แต่ว่าพวกชายวัยรุ่นสามสี่คนนั้นไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ ต่อยไปที่ลำตัวของเขาอย่างกับเม็ดฝน
จ้าวฟางสงรู้สึกว่าแทบจะพังทลายไปทั้งตัวแล้ว
“หยุดตี หยุดตี หยุดเดี๋ยวนี้!”
“เอาถึงตายกันแล้ว ฉันก็ไม่กล้าตอแหลอีก ฉันผิดไปแล้วยังไม่โอเคอีกเหรอ ”
จ้าวฟางสงส่งเสียงร้องห่มร้องไห้เหมือนผีสางครู่หนึ่ง คนที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรครึ่งต่างก็ได้ยินหมดแล้ว
เซียวหยางก็รู้สึกหดหู่ เขายังคิดว่าจ้าวฟางสงต้องการวางแผนหลอกตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่แบบนั้น
แต่ว่าเขาก็ขี้เกียจที่จะเข้าไปแทรก มองดูละครสนุกๆอย่างยิ้มกริ่ม
“หยุด พวกแกหยุดตีได้แล้ว ขืนตีอีกกูจะฟ้องตำรวจแล้ว!”เย่หยุนซูเห็นเช่นนี้รีบเปิดประตูรถอย่างลนลาน ตะโกนหวีดสุดเสียง
เซียวหยางหัวเราะเหอะๆ พูดว่า : “หยุนซู คุณอย่าออกมา นี่เป็นเรื่องของพวกผู้ชายอย่างเรา คุณไม่ต้องเข้ามาแทรกแซง”
เย่หยุนซูหมดคำพูดแล้ว มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะหัวเราะออกมาได้
“แต่ว่า จ้าวฟางสง……”
“หยุนซู คุณขึ้นรถเถอะ เรื่องเล็กๆน้อยๆ มอบให้เป็นหน้าที่ของผม”เซียวหยางผลักเย่หยุนซูเข้าไปในรถอีก ปิดประตูแล้ว
“เซียวหยาง คุณช่วยสิ ทำไมยังยืนอยู่ตรงนั้น?”
เห็นเซียวหยางไม่ขยับอยู่ตลอด เย่หยุนซูค่อนข้างเป็นร้อนใจ
เดิมทีเซียวหยางไม่ชอบจ้าวฟางสงอยู่แล้ว ให้เขาช่วย?เขาเบื่อมาก
อีกอย่าง ใครใช้ให้ไอ้หนุ่มคนนี้มันตอแหล ไม่มีความสามารถอะไรสักอย่างยังจะพูดว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือเทควันโดอีก แถมยังใช้กระบวนท่าขากรรไกรมฤตยู ไอ้โคตรโง่
พวกอันธพาลตีอยู่นานแล้ว ตีจนเมื่อยแขนแล้ว นี่ถึงได้เดินจากซอยเล็กๆไปอย่างนิ่งๆ
“ไอ้หยา ฉันเกือบจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว!”
จ้าวฟางสงเลือดสดๆอาบเต็มหน้า กระดูกเกือบจะพังทลายไปทั้งตัวแล้ว ท่าทางอนาถอย่างมาก
ประเด็นคือกระเป๋าตังค์แม่งก็โดนแย่งไปแล้ว
เย่หยุนซูรีบเดินลงไปทันที พูดถามว่า : “ประธานจ้าว คุณเป็นยังไงบ้าง ดูเหมือนว่าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ”
ไร้สาระ จะโอเคได้เหรอ
จ้าวฟางสงอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา เดิมทีอยากจะตอแหลต่อหน้าของเย่หยุนซู แต่ผลสุดท้ายกลายมามีจุดจบเช่นนี้ ในเวลานี้เสียหน้าเกินไปแล้ว
“ประธานจ้าว คิดไม่ถึงว่าเทควันโดของคุณก็ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ”เซียวหยางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ผมยังคิดว่าคุณจะเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ผลสุดท้าย…โธ่”
เซียวหยางไม่พูดยังดีกว่า เมื่อพูด จ้าวฟางสงโมโหจนควันออกจมูกเลย
“ได้เซียวหยาง มึงรอเลยนะ ถ้ากูไม่ฆ่ามึงตาย กูก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ