เถ้าแก่เนี้ยมองเซียวหยางและจูเจียนเฉียงถูกตรวจจับตัวไป แม้ในใจจะรู้สึกร้อนรน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ในใจรู้สึกละอายใจ เป็นเพราะว่าพวกเขาช่วยเธอไว้จึงถูกจับตัว
เธอลืมเรื่องที่เขาลวนลามตัวเองไปจนหมดสิ้นแล้ว ได้แต่หวังว่าเซียวหยางจะกลับมาอย่างไม่เป็นอะไรเท่านั้น
รถตำรวจแล่นออกไป ใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็ถึงสถานีตำรวจ
เซียวหยางและจูเจียนเฉียงถูกนำตัวมายังห้องสอบสวน
ห้องสอบสวนมีขนาดแค่ไม่กี่ตารางเมตร บนกำแพงมีหน้าต่างบานเล็ก ๆ อยู่บานหนึ่ง ภายในห้องค่อนข้างมืด และที่มุมห้องมีอุปกรณ์เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวอยู่
เพิ่งจะมาถึงห้องสอบสวน จูเจียนเฉียงก็ดันเก้าอี้ไปให้เซียวหยางนั่ง ทุบหลังนวดขาให้เซียวหยางอย่างสุภาพราวกับเป็นสุนัขรับใช้
“พี่หยาง วางใจเถอะ เราก็แค่มาบันทึกคำให้การ อีกเดี๋ยวก็ได้ออกไปแล้ว”
เซียวหยางนั้นไม่ได้ร้อนรน กลับกันช่วงกลางวันเย่หยุนซูจะยังไม่ออกจากบริษัท ขอแค่ก่อนเวลาเลิกงานกลับไปหยุนซูกรุ๊ปก็ได้แล้ว
“ใช่แล้ว พี่หยาง พี่สูบบุหรี่ใช่ไหม” จูเจียนเฉียงจำได้ว่าเหมือนเซียวหยางจะสูบบุหรี่ สองมือล้วงกระเป๋า สุดท้ายวันนี้ก็ลืมเอาบุหรี่มาจริง ๆ
จึงเดินดุ๊กดิ๊กไปที่หน้าประตู พูดประจบสอพลอกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่อีกด้าน “สหาย มีบุหรี่ไหม ฉันขอสูบสักตัวสิ”
เจ้าหน้าที่รู้ว่าเซียวหยางเป็นคนที่จัดการกับคนร้ายทั้งสี่คน เพียงแค่มีปัญหานิดหน่อยกับหัวหน้า ทำให้ถูกนำตัวมาที่นี่
แต่จะว่าไปแล้ว ทั้งสองคนก็เป็นคนที่ยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงส่งบุหรี่ให้สองมวนด้วยความเป็นมิตร
จูเจียนเฉียงกล่าวของคุณ ขาสั้น ๆ วิ่งกลับไปจุดไฟให้กับเซียวหยาง เพียงจะสูบได้หนึ่งที
เกิดเสียงดังขึ้น ประตูเปิดออก เจียงเซิ่งหนานเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่โอหัง ด้านหลังมีเจ้าหน้าที่จดบันทึกคนหนึ่งเดินตามเข้ามา
“สารวัตเจียงคุณไม่มาผมก็ไม่มีปัญหาแล้ว พวกเรามาเจอกันอีกแล้ว” เซียวหยางหยอกล้อ
เจียงเซิ่งหนานในใจรู้สึกขอบคุณเซียวหยางเหมือนกันที่ช่วยตนจับคดีค้ายาเสพติด
แต่พูดตามความเป็นจริง ยิ่งเซียวหยางทำตัวยอดเยี่ยมแค่ไหน เธอก็ยิ่งสงสัยว่าเซียวหยางจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม
กับแค่คนขับรถ ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ต้องมีปลาตัวใหญ่ซ่อนอยู่ในนี้แน่นอน
สำนึกในความรับผิดชอบทำให้เจียงเซิ่งหนานจิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเซียวหยางมากขึ้น
“อย่ามาทำหน้าทะเล้น ทำตัวดี ๆ หน่อย”
เซียวหยางไม่สนใจ กลับกันยังเหลือบมองไปยังร่างอันบอบบางของเธอก่อนจะพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “สารวัตเจียง ผมขอร้องว่าคุณอย่าโมโหง่ายอย่างนี้เลย ผู้หญิงนี่นะ พอช่วงมีประจำเดือนก็มักจะโมโหง่าย”
อะไรนะ ?
เจ้าหน้าที่สองคนมองหน้ากัน หัวหน้าเจียงประจำเดือนมา ? ถึงว่าทำไมช่วงนี้ถึงขี้โมโห
แต่ว่า พวกเขาก็พบทันทีว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติ คน ๆ นี้รู้ได้อย่างไรว่าหัวหน้าเจียงมีประจำเดือน
เจียงเซิ่งหนานชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าอันสวยงามก็เกิดแดงระเรื่อ
“เซียวหยาง นายกล้าพูดจาเหลวไหล ที่นี่คือสถานีตำรวจ ไม่อนุญาตให้พูดจาไร้สาระ !”
เซียวหยางผายมือออก พูดเหมือนกับไม่มีความผิดว่า “ผมไม่ได้พูดไร้สาระ หน้าของคุณขาวซีด เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เห็นได้ว่าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมากเกินไป มีเลือดออกมากช่วงมีประจำเดือน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้”
“แล้วก็ ขาซ้ายคุณน่าจะได้รับบาดเจ็บ ทำให้เดินกะโผลกกะเผลก อย่างน้อยก็ควรพักผ่อนสักเดือนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลเสียต่อเนื่องตามมา”
เซียวหยางพูดด้วยความจริงจัง ราวกับไม่ได้ล้อเล้น
ความเป็นจริงแล้วที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง เจ้าหน้าที่อีกสองนายสามารถเป็นพยานได้ เมื่อสองวันก่อนเจียงเซิ่งหนานได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และยังไม่หายดี
ดูท่าเด็กคนนี้คงจะรู้จักกับสารวัตเจียงไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถพูดได้ชัดเจนขนาดนี้
“นายหุบปาก ไม่ต้องพูดไปเรื่อย รีบบอกความจริงมาได้แล้ว นายเกี่ยวข้องอะไรกับคดีฆาตกรรม รีบบอกความจริงมา !”
เจียงเซิ่งหนานสองมือท้าวสะเอว โมโหจนทำให้หน้าอกเกิดการกระเพื่อม
เซียวหยางถึงกับแอบพูดไม่ออก ยอดเยี่ยม ของเจียงเซิ่งหนานยังใหญ่กว่าของเถ้าแก่เนี้ยอีก มันสั่นได้ชัดเจนมาก
“สารวัตเจียงตรงนั้นของคุณมันใหญ่ขนาดนั้น ดูไม่ค่อยเหมาะกับงานนี้สักเท่าไหร่ หนึ่งคือมันจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง สองคือขณะปฏิบัติหน้าที่คงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองนายชะงักไปอีกครั้งหนึ่ง มองไปที่ส่วนหนึ่งของสารวัตเจียงพลางพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ