เจียงเซิ่งหนานเหลือบมองไปยังเซียวหยาง “ได้ ในเมื่อนายทำตัวอย่างนี้ นายก็อย่าตำหนิฉันแล้วกัน”
ทันใดนั้น เธอก็หันไปสั่งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน ไม่อนุญาตให้พวกเขาออกไปไหนทั้งนั้น ฉันอยากจะรู้นัก ว่านายจะทำตัวได้ใจอย่างนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่”
เจ้าหน้าที่รีบพยักหน้าตอบรับ ส่วนเจียงเซิ่งหนานก็หันบั้นท้ายปิดประตูและจากไป
จูเจียนเฉียงพูดด้วยใบหน้าขมขื่นว่า “แย่แล้ว คิดว่าอีกเดี๋ยวก็ได้ออกไป ถ้าผมขาดงานที่บริษัทโดยไม่มีเหตุผลล่ะก็ บริษัทต้องไล่ผมออกแน่ นี่เป็นงานที่ครอบครัวผมใช้ความสัมพันธ์ตั้งหลายขั้นกว่าจะได้มาเชียวนะ”
เจียงเซิ่งหนานเป็นหัวหน้าหน่วยปราบปราม เป็นเรื่องง่ายดายมากหากเธอคิดจะลงโทษใครสักคน เห็นเธอทะเลาะกับเซียวหยางจนถึงขั้นนี้ ก็บอกได้แล้วว่าการจะออกไปจากที่นี่กลายเป็นเรื่องยากแล้ว
“ดูจากนิสัยของนายแล้ว เพิ่งเคยมาสถานีตำรวจครั้งแรกงั้นสิ ?” เซียวหยางพูด
“ผมเป็นคนดี คนดี ๆ ที่ไหนจะมาสถานที่แบบนี้กันเล่า แถมจะว่าไปแล้ว ที่ถูกจับมาครั้งนี้ก็เพราะคิดที่จะยืนหยัดทำความดี นี่มันจะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว พี่หยาง พี่ช่วยคิดหาวิธีทีสิ ผมเสียงานนี้ไปไม่ได้”
จูเจียนเฉียงกอดต้นขาเซียวหยางพลางขอร้องอ้อนวอน
“ไปพักผ่อนก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวพวกเราก็ได้ออกไปแล้ว วางใจได้”
เซียวหยางมองท่าทางร้อนรนของจูเจียนเฉียง แต่เขากลับมีสีหน้าที่นิ่งสงบ
ผ่านไปสักพัก จนเซียวหยางพักผ่อนพอแล้ว เขาก็ไปขอยืมโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่เพื่อขอโทรออก
“ฮัลโหล ฉันอยู่ในคุกของกองกำลังปราบปรามยาเสพติดที่หยินโจว ฉันให้เวลานายห้านาที เอาคนของนายมารับฉัน ได้ แบบนี้แล้วกัน”
เซียวหยางพูดไม่กี่ประโยคก็วางสายไป
จูเจียนเฉียงเห็นก็ได้แต่ยิ้มแบบงง ๆ พี่หยางโทรศัพท์หาใครกันแน่ น้ำเสียงราวกับกำลังคุยกับคนรับใช้เลย
ทันใดนั้น ที่ทางเข้าสถานีตำรวจ ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวลงมาจากรถ
เธอสวมเสื้อคลุมลายลูกไม้สีดำ มีโบผูกอยู่ที่เอว ท่อนล่างสวมกระโปรงสั้น ดูฉลาดและมีความสามารถ การแต่งตัวเหมือนกับผู้หญิงในเมือง
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น
เธอได้ยินมาว่าเซียวหยางถูกตำรวจจับมาที่สถานีตำรวจ เมื่อรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงมาที่นี่
“สวีสดี ฉันเป็นหัวหน้ากลุ่มที่เซียวหยางสังกัดอยู่ ฉันได้ยินมาว่าเซียวหยางยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง แต่กลับถูกจับมาไว้ที่นี่ ฉันขอแนะนำให้พวกคุณรีบปล่อยตัวเขาออกมาโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”
เธอไม่ใช่แค่มาด้วยตนเอง แต่ยังพาทนายหยุนซูกรุ๊ปมาด้วย แม้ว่าเธอและเซียวหยางจะมีตำแหน่งของความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดกันมาตลอด แต่ไม่ว่าจะเพราะเรื่องธุรกิจหรือเรื่องส่วนตัว เธอก็ยังคงต้องมา
เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เซียวหยางเป็นสามีของเย่หยุนซู แม้ว่าจะแค่ในนาม แต่ถ้าหากมีข่าวว่าสามีของเย่หยุนซูถูกควบคุมตัวมาที่สถานีตำรวจแพร่งพรายออกไป มันก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเธอเช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องของบริษัท เซียวหยางเป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง แต่กลับถูกควบคุมตัวอย่างไร้เหตุผล เธอคงต้องถามหาความจริงว่าเพราะอะไร ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครกล้าเข้ามาที่งานที่หยุนซูกรุ๊ปแน่
เจียงเซิ่งหนานคิดว่าเป็นใคร ไม่คิดว่าจะเป็นประธานหยุนซูกรุ๊ปที่มาที่นี่
เด็กนั่นมีหน้ามีตาพอดู ขนาดเย่หยุนซูยังมาที่นี่ หรือว่าเป็นเพราะเซียวหยางเป็นคนขับรถของเย่หยุนซูกัน ?
“ประธานเย่ เรื่องที่เขายืนหยัดเพื่อความถูดต้องไม่ใช่ว่าฉันไม่ทราบ แต่การก่อเรื่องทะเลาะวิวาทคือสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันจำเป็นต้องนำตัวพวกเขามาสอบปากคำ คุณกลับไปเถอะ”
“ทะเลาะวิวาท ?”
เย่หยุนซูขมวดคิ้ว ครั้งก่อนที่เห็นเจียงเซิ่งหนาน เธอยังสวมอินทรธนูของตำรวจจราจร ตอนนี้ตำแหน่งของเธอไม่ต่ำอย่างนั้นแล้ว
“สารวัตเจียง เถ้าแก่เนี้ยในร้านอาหารเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อครู่เธอเป็นคนแจ้งข่าวให้ฉันทราบ ถ้าหากคุณมีคำถาม คุณสามารถขอให้เถ้าแก่เนี้ยมาคุยกันตัวต่อตัวได้”
“แล้วก็ ด้านหลังของฉันคือทนายหลิวตง เป็นทนายที่มีชื่อเสียงที่สุดในหยินโจว ฉันต้องการทำตามขั้นตอนกฎหมาย ประกันตัวพนักงานของฉัน ถ้าหากคุณยังปฏิเสธ งั้นเกรงว่าฉันคงต้องขอยื่นฟ้อง”
ยื่นฟ้อง ?
เจียงเซิ่งหนานสบถออกมา เรื่องร้องเรียนของเธอมีน้อยนักหรือไง ผู้ชายคนนั้นอวดดีขนาดนั้น กล้าใช้กุญแจมือมาจับตัวเธอเอาไว้ แล้วจะให้เธอปล่อยตัวเขาไปง่าย ๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะ !
“ประธานเย่ คุณจะดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายก็ได้ แต่เมื่อสักครู่ในสถานีตำรวจ เซียวหยางเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างโจ่งแจ้ง ตอนนี้ฉันสงสัยเขาจริง ๆ แล้ว ว่าเขาจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองของเราหรือเปล่า หากยังไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมง จะนำตัวเขาไปไม่ได้”
ได้ยินดังนั้น เย่หยุนซูถึงกับชะงักไป เซียวหยางจู่โจมเจ้าหน้าที่ตำรวจรึเปล่าเธอไม่รู้ แต่จากท่าทีของเจียงเซิ่งหนาน ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะจบลงด้วยดี
ไอ้บ้านี้ ก็รู้ว่าจะทำให้ตัวเองมีปัญหา น่ารังเกียจจริง ๆ !
ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา จากนั้นพูดว่า “สารวัตเจียงมีโทรศัพท์เข้ามาครับ”
“ไม่รับ ไม่เห็นว่าฉันกำลังยุ่งอยู่หรือไง ฉันยังต้องไปสอบปากคำผู้ก่อการร้ายอีกนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ