วันถัดมา เซียวหยางตื่นสายกว่าปกติ เมื่อคืนเขาก็หมกมุ่นอยู่กับการฝึกวิชาเทพมังกร พอดูเวลา จะให้ทำอาหารเช้าก็คงไม่ทัน
เขาจำได้ว่ามีแผงขายอาหารเช้าที่ตลาดผัก ซึ่งรสชาติของมันก็ไม่เลว ดังนั้นเขาจึงขับรถเพื่อเตรียมตัวออกไป
เมื่อมาถึงแผงขายอาหารเช้าในตลาดผัก เซียวหยางกล่าวทักทาย “เถ้าแก่ เกี๊ยวทอดสอง โจ๊กหมูใส่ไข่สอง ห่อกลับบ้าน”
เซียวหยางหาที่นั่ง รอให้เจ้าของร้ายนำอาหารมาให้
“เฮ้ พ่อหนุ่ม เป็นคุณเองงั้นเหรอ หายากที่จะได้เจอคุณ”
เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงวัยกลางคน เปิดร้านเล็ก ๆ บริเวณนี้มาหลายปี ปกติเธอเองก็เห็นเซียวหยางมาเดินตลาดผัก แต่แทบจะไม่เคยเห็นเขาซื้ออาหารเช้ากลับไปเลย
เซียวหยางยิ้มและกล่าวทักทายออกไป และในตอนนี้เอง เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“เถ้าแก่ ซาลาเปาห้าลูก โจ๊กหนึ่งถ้วย ขอบคุณ”
เป็นสาวสวยสวมชุดกีฬาสีดำซึ่งมีผ้าเช็ดเหงื่อสีขาวพันรอบคอคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอจะเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ผมของเธอถูกหมัดเหมือนหางม้าไว้ทางด้านหลัง
ท่าทางของเธอดูคล่องแคล่วว่องไว สะอาดเรียบร้อย และดูแข็งแรงเป็นอย่างมาก
“สารวัตรเจียง คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะกินเก่งถึงขนาดนี้ ปริมาณอาหารที่คุณสั่งมันเทียบได้กับปริมาณอาหารทั้งหมดของผมเลย” เซียวหยางยิ้มและหันไปมองเจียงเซิ่งหนาน
ตอนแรกเซียวหยางก็มองไม่ออกว่าเป็นเธอ เนื่องจากทรงผมของเธอในตอนเช้านั้นแตกต่างออกไป ก่อนหน้านี้ไว้ผมหน้าม้า ตอนนี้กลายเป็นหางม้าแทน
เจียงเซิ่งหนานเงยหน้าขึ้น มองมายังร่างที่คุ้นเคย
“เซียวหยาง คุณเองเหรอ ? ทำไมฉันถึงได้เจอคุณในทุกที่ที่ฉันไป !”
“ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นโชคชะตาของพวกเราก็ได้”
เซียวหยางยิ้มออกมา เปลี่ยนความคิดและพูดออกมาว่า “สารวัตรเจียง ผู้หญิงมีประจำเดือนไม่เหมาะที่จะมาออกกำลังกายหนัก ๆ เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย”
สีหน้าของเจียงเซิ่งหนานเปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็นึกถึงคำพูดที่เซียวหยางพูดขึ้นมาเมื่อวานตอนอยู่โรงพัก
“เซียวหยาง คุณเลิกพูดถึงเรื่องประจำเดือนสักทีได้ไหม ไม่รู้สึกขยะแขยงบ้างหรือไง ? คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ผู้หญิงสนใจคุณหรือไง ไร้สาระ !”
เซียวหยางพูดไม่ออกในทันที คำพูดนี้มันอะไรกัน ตนเองก็แค่เตือนเธอไม่ใช่หรือไง ทำไมเธอถึงได้พูดเหมือนกับว่าตนเองกำลังตามจีบเธอ
เห็นเซียวหยางไม่พูดอะไร เจียงเซิ่งหนานครุ่นคิด จากนั้นแววตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันใด เธอพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว สองวันที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวอะไรของนักฆ่าบ้างไหม ?”
เซียวหยางผงะ แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจและพูดออกไปด้วยความงุนงงว่า “นักฆ่าอะไร ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร”
“อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจต่อหน้าฉัน คุณรู้ว่าฉันกำลังพูดอะไรอยู่ นักฆ่ากำลังไล่ล่าเย่หยุนซูอยู่ใช่ไหม ?”
“ผมยังยืนยันคำเดิม ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
เซียวหยางยิ้มอย่างแปลกประหลาด ผู้หญิงคนนี้คิดจะเอาข้อมูลจากตนเอง เธอไร้เดียงสาเกินไปหรือเปล่า
เจียงเซิ่งหนานไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เซียวหยาง นี่คุณกำลังทำร้ายเย่หยุนซูอยู่ หากมีนักฆ่าจริง คุณต้องแจ้งตำรวจ คุณเข้าใจไหม มีแค่ตำรวจเท่านั้นถึงสามารถปกป้องประธานเย่ได้”
เซียวหยางเหลือบสายตามองไปที่เจียงเซิ่งหนาน มองดูท่าทางที่จริงจังของเธอ จากนั้นก็หัวเราะออกมา
“สารวัตรเจียง คุณดูหนังมากเกินไปหรือเปล่า ประธานเย่สบายดี ไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณมาปกป้อง ok ?”
ล้อเล่นอะไรกัน เจ้าพวกคนต่างประเทศพวกนั้นมันเกินกว่าที่ตำรวจจะเอื้อมถึง หากไปแจ้งตำรวจจริง แบบนั้นก็มีแต่แหวกหญ้าให้งูตื่น เป็นการดึงดูดความสนใจของศัตรูมากขึ้นเท่านั้น
เขารู้ว่าเจียงเซิ่งหนานเป็นคนมีนิสัยร้อนแรง ต้องการผลตอบแทนจากการทำงาน แต่การที่มาหาเซียวหยาง เห็นได้ชัดว่าเธอมาหาผิดคนแล้ว
“นี่คุณ......”
เจียงเซิ่งหนานต้องการจะต่อว่าเซียวหยางสักสองสามคำ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา
“ฉกกระเป๋า มีคนฉกกระเป๋า !”
ป้าวัยห้าสิบวิ่งไปด้านหน้าอย่างเหนื่อยหอบ ชี้ไปที่ชายสวมหมวกสีดำตรงหน้าเธอ แล้วตะโกนออกมาไม่ยอมหยุด
“เขานั่นไง เร็วเข้า ใครก็ได้ช่วยฉันที ช่วยจับเขาให้ฉันที !”
ชายสวมหมวกที่อยู่ด้านหน้าวิ่งไปพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดุร้าย “พวกแกไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด !”
หญิงชราผู้นี้สวมทองและเงิน เห็นได้ชัดว่ามาจากครอบครัวที่ไม่ขาดแคลนคุณทรัพย์ กระเป๋าของเธอจะต้องมีของดีอยู่ไม่น้อย ชายสวมหมวกคนนั้นคงจ้องมองเธอมาเป็นเวลานาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ