ไอ้หน้าแผลตาพร่ามัว เจ็ดปวดจนเกือบจะเป็นลม และร้องเสียงขาดๆหายๆ
“ออกไป……จัดการ ตี……ตีมันให้ตายซะ แม่ง! กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
อีกสองคนคิดไม่ถึงว่าเซียวหยางจะเป็นผู้โจมตีก่อน แววตาฉายความชั่วร้าย พวกเขาก็พุ่งเข้าไปพร้อมกัน
คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือเซียวหยาง สำหรับเจียงเซิ่งหนานที่อยู่ด้านข้างพวกเขาแทบไม่สนใจแม้แต่น้อย
เจียงเซิ่งหนานเอามือเท้าสะเอวหายใจแรงกำลังเตรียมตัวจะลงมือ เซียวหยางก็พูดเบาๆ “แค่หัวขโมยสองคน ไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจหญิงลงมือหรอก”
ปกติแล้ว เจียงเซิ่งหนานต้องบุกขึ้นไปแน่ๆ แต่เธอรู้ว่าฝีมือของเซียวหยางนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นเธอจึงยืนอยู่ตรงจุดเดิม มองดูเซียวหยางลงมือ
ทั้งสองคนขณะที่ต่อสู้ ได้ดึงไม้สวิงที่เสียบไว้ที่เอวออกมา เมื่อมาถึงด้านหน้า พวกเขาก็ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปทางเซียวหยางอย่างแรง
ปังปัง!
เซียวหยางเตะด้วยเท้าทั้งสองข้าง หัวขโมยทั้งสองก็กุมท้องล้มลงกับพื้น
เมื่อเห็นว่าสองคนที่ฝีมือไม่เอาไหน พวกเขายกมือขึ้น ไม่มีการป้องกัน เปิดเผยช่องโหว่ออกมา
เซียวหยางเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าของเขา แล้วค่อยๆเดินไปหาหัวขโมย
“อายุยังน้อยไม่รักดี หัดเป็นขโมยปล้นทรัพย์ใช่มั้ย? ยังจะเอาไม้สวิงมาเหวี่ยงหน้ากู เมื่อตอนที่กูเล่นไม้สวิง พวกแกยังฉี่ราดเล่นโคลนอยู่เลย”
เซียวหยางหยิบไม้สวิงขึ้น ขณะที่ดุด่าก็ใช้ไม้สวิงทุบตีเจ้าหัวขโมยเหล่านี้
ท่าทางนั้นราวกับเป็นผู้ปกครองกำลังสั่งสอนลูกๆ หัวขโมยทั้งสามไม่มีเรี่ยวแรงที่จะโต้กลับ
“โอ้ย โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว หยุดตีเถอะพวกเรายอมแล้ว!”
“คุณปู่ไว้ชีวิตด้วย คุณปู่ไว้ชีวิตด้วยเถอะ อย่าตีพวกเราอีกเลย!”
เจียงเซิ่งหนานเอามือกอดอก และนิ่งเงียบตลอด แต่สีหน้ากลับประหลาดใจเล็กน้อย
เซียวหยางตีแต่ละที ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตีจุดที่อันตราย แต่ทุกครั้งที่ตีลงไป ก็จะเป็นข้อแขนไหล่ข้อเท้าและข้ออื่นๆ ตีลงไปแต่ละที เจ็บปวดเหลือทน ทำให้หัวขโมยเหล่านี้ทรมานสุดขีด
เจียงเซิ่งหนานไม่ได้สังเกตว่าที่มุมปากของเธอมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว ความโกรธที่เมื่อกี้โดนด่าว่าหน้าอกใหญ่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?” เซียวหยางยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“แม่ง พวกเราตีนายบ้างสิ ดูซินายจะทนได้มั้ย?” ชายผมแดงร้องอย่างโกรธแค้น
เพียงแต่พอเขาพูดจบ ไม้สวิงของเซียวหยางก็เหวี่ยงไปหา ตีลงไปที่ใบหน้าด้านซ้ายของเขส
เสียงเพี๊ยะดังขึ้น ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาเต็มปาก และฟันด้านซ้ายก็หลุดออกมาหลายซี่
“อ๊ะ เจ็บเจ็บ” คนผมแดงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เซียวหยางกระดิกนิ้วเรียก “แก้มขวา”
ให้ตายเถอะ อีกแล้วเหรอ?
ผมแดงอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่เมื่อเงยขึ้นได้พบกับดวงตาที่ตักเตือนของเซียวหยาง เขาก็หดคอลงด้วยความตกใจ
ค่อยๆยื่นแก้มขวาออกไป
เพี๊ยะ!
ตามที่คาดการณ์ไว้ ไม้สวิงแหว่งลงมาอีกครั้ง คนผมแดงร้องขอชีวิต ถึงกับคุกเข่าลง
คุณปู่คนนี้ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ
“ตอนนี้กูเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์นี้ ทางที่ดีพูดจาให้สุภาพหน่อย ไม่งั้นเหวี่ยงไม้ต่อไปจะทิ่มตูดนายให้ทะลุเลย!”
เจียงเซิ่งหนานแอบเช็ดเหงื่อออก ทุกคนบอกว่าเธอเป็นตำรวจที่ชอบใช้ความรุนแรง เมื่อเทียบกับความโหดร้ายของเซียวหยางแล้ว ถือว่าห่างไกลกันเยอะ
อีกอย่างขณะที่เซียวหยางกำลังทำอยู่นั้น ยังอมยิ้ม ราวกับเห็นคนเป็นเกม ช่างน่ากลัวจริงๆ
“หยุดตีได้แล้ว ฉันเรียกเพื่อนร่วมงานพาพวกเขาไปดีกว่า”
หากตีต่อไปอีกคงเป็นเรื่องแน่ เจียงเซิ่งหนานห้ามเขา
เซียวหยางโบกมือแล้วพูดว่า “แจ้งตำรวจก็ไร้ประโยชน์ อย่างมากก็ถูกขังไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมา พวกเขาก็ยังทำชั่วต่อไป จะต้องสอนบทเรียนแห่งชีวิตที่ทำให้พวกเขาไม่มีวันลืม ดูว่าพวกเขายังกล้ารังแกผู้อื่นอีกมั้ย”
พวกเขาต่างมองหน้ากัน ทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นต่อไปพวกเขาจะไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อีก!
เราเป็นถึงมหาโจร ต้องไม่ใช่คนจิตวิปริตที่เปลือยกายเด็ดขาด
ความอดทนของโจรก็มีขีดจำกัดนะ!
“พี่น้องทุกคน กระโดดลงไปในแม่น้ำ!”
ไอ้หน้าแผลผิวปาก เดินกะโผลกกะเผลกไปก่อน และวิ่งไปที่ราวจับที่อยู่ไม่ไกล
อีกสองคนก็กัดฟันและก้าวตามลูกพี่ไป ทั้งสามคนปีนข้ามราวจับ ถึงกับกระโดดลงไปในแม่น้ำจริงๆ!
ตูม ตูม!
น้ำกระเซ็นไปทั่ว เหมือนไก่ขาวสองสามตัวพลิกลงไปในแม่น้ำ หากไม่อยากวิ่งเปลือย วิธีเดียวคือกระโดดลงไปในแม่น้ำ
เจียงเซิ่งหนานมองไปที่เซียวหยาง ราวกับดูการแสดงที่สนุกและพูดว่า “ดูเหมือนว่าแผนของคุณจะล้มเหลว”
“ผมว่าไม่เสมอไปนะ พวกเขาอยากว่ายน้ำไม่ใช่เหรอ งั้นก็ปล่อยให้พวกเขาว่ายไป ถ้าพวกเขาขึ้นฝั่งได้ ถือว่าผมแพ้!”
ไอ้หนุ่มพวกนี้ว่ายอยู่ในน้ำสักพัก คิดว่าเซียวหยางและพวกจากไปแล้ว พวกเขาหาชายฝั่งที่ตื้นและเตรียมขึ้นฝั่ง
“แม่ง ไอ้หมอนี่โหดเหี้ยมมาก ทุบตีกูจนเกือบตาย!”
“แม่งอย่าพูดเช่นนั้น รีบขึ้นฝั่งเร็ว คิดว่ายังขายหน้าไม่พอหรือไง ขึ้นฝั่งแล้วขโมยเสื้อผ้าสักสองตัวกลับไปก่อนค่อยว่ากัน”
“เรื่องนี้ยังไม่จบ เมื่อสภาพร่างกายของพวกเราฟื้นดีแล้ว ดักรอเขาอยู่ตามถนนนี้ทุกวัน ต้องล้างแค้นให้ได้
ทุกคนว่ายไปที่ฝั่งแล้วตะโกนด่าไปด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าชัยชนะอยู่แค่เอื้อม แต่ทันใดนั้นก็เห็นเซียวหยางโผล่ขึ้นมา
เขายังถือก้อนอิฐครึ่งก้อนอยู่ในมือ และขว้างอย่างแรง ฟาดไปที่หัวของไอัหน้าแผลพอดี
“อ๊ะ หัวของฉัน!”
ไอัหน้าแผลเอามือกุมหัว และเลือดไหลลงมาตามเส้นผมของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดชราชาพิโรธ