ตอนที่245 ที่แท้คุณก็มีสาวด้วย
กู้ฮอนยืนอยู่หน้าประตูลานบ้านตระกูลเป่หมิง ชะเง้อคอยาว ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความคาดหวัง รอคอยลูกน้อยทั้งสองคนของเธอในครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม เฉิงเฉิงยังไม่ทันจะมา ครอบครัวเป่หมิงเฟยหย่วนก็มาถึงก่อนแล้ว
ตอนที่ยี่เฟิงพบว่ากู้ฮอนก็อยู่ที่ตระกูลเป่หมิงนั้น ตาของเขาทอประกายตกตะลึงชั่วครู่ แล้วก็รู้สึกตัวในทันที ราวกับว่าคาดเดาได้ถึงอะไรบางสิ่ง
ยี่เฟิงเดินไปถึงหน้ากู้ฮอน ไล่คนรับใช้ที่ดูแลอยู่ข้างกายเธอออกไป เอ่ยทักเสียงอ่อนโยนเช่นเคย
“ฮอน ไม่เจอกันนานเลยนะ......”
กู้ฮอนมองยี่เฟิงอย่างพินิจพิเคราะห์
ระยะห่างหลังจากที่แยกจากกับยี่เฟิงที่บ้านตระกูลเป่หมิงครั้งนั้นจนถึงตอนนี้ ก็เกือบจะหนึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้พบเจอเขา ราวกับว่าเขาซูบผอมไปไม่น้อย
“อืม ยี่เฟิง เธอสบายดีไหม” เธอจงใจใช้น้ำเสียงค่อนข้างสุภาพ ยิ้มให้เขาอย่างมีมารยาท
แววตายี่เฟิงมีร่องรอยเจ็บปวดอย่างชัดเจน “ผมไม่โอเค......ฮอน ผมไม่โอเค......”
เธอสภาพจิตใจตึงเครียด มองไปทางใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดของยี่เฟิง มีเพียงความเศร้าโศก จู่ๆก็รู้สึกทนไม่ได้
“ยี่เฟิง อย่าทำแบบนี้”
“ฮอน เธอไม่ใช่ลูกสาวของกู้เซิงเทียนจริงหรือ” ลักษณะท่าทางของยี่เฟิงมีความทุกข์ทรมานที่เธอมองแล้วไม่เข้าใจ
“กู้อันขีบอกคุณใช่ไหม” เธอยิ้มขมขื่น ด้านหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลกู้อีก อีกด้านหนึ่งก็เกลียดชังตัวเองที่ถูกตระกูลกู้หลอกลวง ใช้ประโยชน์ ใส่ร้าย!
ยี่เฟิงส่ายศีรษะ “กู้อันขีบอกจุนฮาวว่า จริงๆแล้วคุณไม่ใช่ลูกสาวของกู้เซิงเทียน ดังนั้นคุณถึงให้ลุงรองยกเลิกสิทธิ์ของบริษัทกู้ซื่อ เพราะว่าคุณเกลียดตระกูลกู้ ต้องการแก้แค้นตระกูลกู้”
“ใช่ ฉันไม่ปฏิเสธ” เธอพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นกู้อันขีเคยพูดไหมว่า เธอใส่ร้ายฉันอย่างไรไหม”
เห็นได้ชัดว่ายี่เฟิงไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ “ใส่ร้าย เธอใส่ร้ายอะไรคุณหรือ”
กู้ฮอนเงียบไปชั่วชณะ สุดท้ายก็ส่ายศีรษะ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีก ยี่เฟิง ตอนนี้คุณยังอยู่ที่บริษัทกู้ซื่อไหม”
เอ่ยถึงเรื่องนี้ แววตาของยี่เฟิงมีประกายขมขื่น “จริงๆแล้วบริษัทกู้ซื่อเหลือเพียงแค่เปลือกนอกตั้งนานแล้ว จู่ๆลุงรองก็ยกเลิกสิทธิ์ของบริษัทกู้ซื่อ เชื่อว่าไม่ต้องใช้เวลานาน บริษัทกู้ซื่อจะต้องล้มละลาย ส่วนวันนี้จู่ๆบริษัทกู้ซื่อก็มีตำรวจมาหาถึงประตู ไต่สวนกู้เซิงเทียนบิดากับลูกสาว ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น......ฮอน คุณรู้ไหม ผมเคยคิดว่าบริษัทกู้ซื่อมีความสำคัญกับคุณมาก ดังนั้นผมจึงอยากแย่งชิงมันกลับมาให้คุณ ผมเลยส่งจุนฮาวเข้ามาตั้งฐานทัพที่บริษัทกู้ซื่อ เดิมพันด้วยเงินทั้งหมดที่ผมสะสมมาหลายปีนี้ แม้แต่เงินทุนที่คุณปู่ให้ผมเพื่อเริ่มต้นธุรกิจก็ยังลงทุนไป......”
น้ำเสียงกู้ฮอนตะลึง “ยี่เฟิง คุณ......”
“เหอะๆ ผมมันโง่มากใช่หรือไม่ เดิมผมคิดว่ายืมเปลือกของบริษัทกู้ซื่อ เมื่อได้ครอบครองโครงการ ’หยิง’ ก็จะสามารถเงยหน้าอ้าปาก ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ แล้วก็รวบบริษัทกู้ซื่อได้ในครั้งเดียว สร้างอาณาจักรที่เป็นของตัวเอง แข่งขันกับลุงรองว่าใครจะเป็นผู้ชนะ.....แต่ที่คิดไม่ถึงคือ ดูเหมือนว่าผมจะเดิมพันผิดข้าง เมื่อบริษัทกู้ซื่อล้มละลาย เงินทุนของผมราวกับเติมเข้าไปในหลุมลึกไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ต้องพูดว่าจะต่อสู้กับลุงรองเลย น่ากลัวว่าแม้แต่คุณสมบัติที่จะแข่งกับเขาสักครั้งก็ไม่มีแล้ว......”
“......ยี่เฟิง ฉันทำให้คุณเดือดร้อนใช่หรือไม่” เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ขณะเดียวกันกับที่แก้แค้นตระกูลกู้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ยี่เฟิงแพ้ทั้งกระดาน
“ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ......” ยี่เฟิงส่ายศีรษะ “เพียงแค่ผมไม่คิดมาก่อนว่า ที่แท้คุณก็ไม่ใช่ลูกสาวของกู้เซิงเทียน ดังนั้น บริษัทกู้ซื่อไม่มีความสำคัญอะไรกับคุณเลย......แท้จริงแล้วตลอดมาล้วนเป็นผมที่คิดไปเองฝ่ายเดียวใช่ไหม ฮอน”
กู้ฮอนสีหน้าซีดขาว มองใบหน้าระทมทุกข์ของยี่เฟิง เธอพบว่าลำคอของเธอตีบตัน ประโยคปลอบใจหนึ่งประโยคก็พูดไม่ออก
อย่างไรเธอก็คาดไม่ถึงว่า เพื่อเธอแล้ว ยี่เฟิง......ลงเดิมพันที่หนักมากแบบนี้
นัยน์ตางดงามของยี่เฟิง มีท่าทางโศกเศร้า เอ่ยพูดกับตัวเองต่อไป “บางทีในปีนั้น ตอนที่กู้อันขีแทรกเข้ามาระหว่างพวกเรา เมื่อสองคนเปลี่ยนเป็นสามคนแล้ว ตอนที่คุณเลือกถอยออกไปอย่างเงียบๆ ผมก็ควรจะเข้าใจแล้วว่า ถ้าหากคุณรักผมจริงๆ คุณจะไม่ปล่อยมืออย่างง่ายดาย......”
เธอมองเขานิ่ง มองเข้าไปในนัยน์ตาลึกล้ำของเขา ราวกับมองเข้าไปถึงจิตวิญญาณอันโศกเศร้าของเขา เด็กหนุ่มผู้ที่เคยมอบแสงสว่างให้กับเธอ เด็กหนุ่มผู้ที่เคยผ่านเข้ามาในช่วงวัยเยาว์ของเธอ ในฉับพลันที่มองกลับมา เพิ่งจะค้นพบว่า ที่แท้ก็เหลือเพียงแค่แสงจันทร์สีขาวที่เยียบเย็น.....
บางทีในตอนนั้น พวกเขาเยาว์วัยเกินไป ไม่เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่ารัก
ดังนั้นจึงปล่อยมือได้อย่างง่ายดาย
จนกระทั่งหลายปีต่อมาหลังจากนั้น เมื่อคิดถึงแสงจันทร์สีขาวในก้นบึ้งของหัวใจ กลับทำได้เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเศร้าหมอง
บางทีเป็นเพราะโชคชะตา ตั้งแต่ที่เธอพบกับเป่หมิงโม่ในตอนนั้น ก็เริ่มตีตัวออกห่างจากเส้นทางของยี่เฟิงแล้ว
ยิ่งเดินก็ยิ่งไกล
“ยี่เฟิง ขอโทษ......” สุดท้ายเธอก็กระซิบออกมาไม่กี่คำ
“เหอะ......คุณควรจะรู้ว่า ผมไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ......”
ยี่เฟิงรู้สึกใจวูบโหวงกะทันหัน กู้ฮอนเป็นสิ่งที่เขาศรัทธามากที่สุด แต่หลายปีผ่านไปหลังจากนั้น สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันจางหาย......
ปริ๊นๆๆๆ
เสียงแตรรถดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ทำลายบรรยากาศท้องฟ้าอันโพล้เพล้
รถพี่เลี้ยงเด็กคันหรูคันหนึ่งค่อยๆขับเข้ามาในบ้านตระกูลเป่หมิงหลังใหญ่
หัวใจกู้ฮอนบีบรัด
ยี่เฟิงมองตามไป
หลังจากรถพี่เลี้ยงเด็กจอดนิ่งแล้ว คนรับใช้รีบเปิดประตูรถ ตะโกนเอ่ย “คุณชายน้อยเฉิงเฉิงกลับมาแล้ว!”
เสียง โครม ดังขึ้น
ร่างเล็กเกือบจะใช้ท่าทางกลิ้งลงมาจากรถ กลิ้งเข้าไปในอ้อมแขนของคนรับใช้ “โอ้แม่เจ้า เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว......” เสียงอ่อนนุ่มของเด็ก อ่อนแรง เหนื่อยจนลิ้นเหยียดไม่ตรงแล้ว
น้ำเสียงไม่ดังไม่เบาดังเข้ามาในหูกู้ฮอน ปลายนิ้วเธอสั่น นั่นคือหยางหยาง!
เมื่อเธอเห็นอ้อมแขนของคนรับใช้อย่างชัดเจน เด็กชายที่แต่งตัวสะอาดคนนั้น กลับพูดจาด้วยสไตล์หยางหยาง เธอเดาได้ว่าหยางหยางแกล้งสวมรอยเป็นเฉิงเฉิงอีกแล้ว
เพียงแต่ว่า——
“ทำไมหรือ ทุกคนไม่ยินยอมที่จะอุ้มเธอ เป็นเพราะว่าเธอป่วยหรือไงกัน” เสียงอ่อนโยนของยี่เฟิงลอยเข้ามา
เฉิงเฉิงมองกลับไป ร่างเล็กอดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย ดวงตาส่องแสงแวววาวใต้กรอบแว่นใหญ่สบเข้ากับดวงตาของยี่เฟิง ——
ยี่เฟิงตกตะลึงเล็กน้อย
เด็กสาวตัวน้อยคนนี้มีสีผิวดำมาก ยิ่งไปกว่านั้นดำซะจนมันเงางามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติประเภทนั้น! สวมผ้าปิดปากผืนใหญ่ อำพรางใบหน้าไปส่วนหนึ่ง ทำให้คนไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของเธอได้อย่างชัดเจน
เพียงแต่ว่า ยี่เฟิงที่บังเอิญได้สบเข้ากับดวงตาใสสะอาดของเด็กน้อย ก็รู้สึกว่าคุ้นเคยมาก ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน......
หยางหยางมองไปที่ชายหนุ่มที่อ้อมเฉิงเฉิงขึ้นมาอย่างประหลาดใจ ตอบสนองด้วยการขมวดคิ้ว เม้มปาก เอ่ยด้วยท่าทางเหยียดหยาม“เฮ้ คุณเป็นใครกัน ปล่อยผู้หญิงของผมนะ!”
คำพูดหยางหยางที่เอ่ยออกมา ทำให้มุมปากของเฉิงเฉิงกระตุก กวาดตาคมกริบมองหยางหยาง มารดามันเถอะ ใครเป็นผู้หญิงของนายกัน
แต่ก็ไม่สามารถโต้กลับคำพูดของหยางหยางได้ กลัวว่าถ้าเปิดปากพูดแล้วจะเผยพิรุธ
“น้องชายเฉิงเฉิง เธอไม่รู้จักฉันแล้ว” ยี่เฟิงดวงตาเบิกโตอย่างสงสัย คาดไม่ถึงเล็กน้อย ลูกของลุงรองไม่รู้จักเขาหรือ แต่ว่าครั้งที่แล้วที่บ้านตระกูลเป่หมิงคืนนั้น เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเฉิงเฉิงเคยเจอเขานะ
หยางหยางปากแห้ง กำลังจะเอ่ย “รู้จักชายแก่อย่างคุณ” ออกมา ก็ถูกกู้ฮอนที่รีบตามมาตัดบทไป——
“ยี่เฟิง ตอนนี้ก็สายแล้ว จะเริ่มรับประทานอาหารมื้อดึกแล้วนะ......”
กู้ฮอนเอ่ยพูดอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ในใจแอบร้องว่า แย่แล้ว หยางหยางยังไม่เคยเจอยี่เฟิง! มีเพียงแค่เฉิงเฉิงที่เคยเจอ!
แท้จริงแล้ว ตอนที่เธอเห็นยี่เฟิงอุ้มเฉิงเฉิงขึ้นมานั้น ตกใจจนถุงน้ำดีสั่นเบี้ยวไปแล้ว!
และประโยค “คุณเป็นใครกัน” นั้นของหยางหยาง ยิ่งทำให้ตับและถุงน้ำดีของเธอถูกบด เธอรู้ เจ้าเด็กนี่ทำให้คนอดเป็นห่วงไม่ได้เกินไปแล้ว
เฉิงเฉิงตกตะลึง เบนสายตากลับไปตามจิตใจสำนึก——
ตอนที่พบกับคุณแม่นั้น ในใจของเฉิงเฉิงมีเกลียวคลื่นกระเพื่อมเป็นระลอก
หยางหยางนั้นมองคุณแม่ที่ปรากฏตัวออกมาด้านหน้าสายตาของตัวเอง ปากเล็กๆกำลังจะยิ้มกว้าง แต่ก็ถูกกู้ฮอนมองอย่างดุดันจนตกใจกลับไป
“เอ่อ......” หยางหยางมุมปากกระตุกเล็กน้อย ที่แท้ก็คือพี่ชายยี่เฟิงที่เฉิงเฉิงเคยพูดถึง ไอ้หมอนั่น พี่ชายยี่เฟิงคนนั้นที่ทำให้คุณแม่ผอมลง!
หยางหยางรู้สึกเกลียดเขา แก้มเล็กๆพองขึ้น เก็บคำพูดนั้นกลับลงกระเป๋าไป——
“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร! เรียกผมว่าน้องชาย เรียกคุณพ่อผมว่าลุงรอง ก็สามารถอุ้มน้องสาวดำได้ตามสบายหรือ คนเลวทรามต่ำช้า ปล่อยเด็กผู้หญิงนั่นซะ!”
‘คนเลวทรามต่ำช้า ปล่อยเด็กผู้หญิงนั่นซะ’ ประโยคนี้ไม่รู้ว่าหยางหยางไปเรียนมาจากบทพูดในละครเรื่องไหน เหนือความคาดหมายซะจนทำให้เฉิงเฉิงที่ฟังอยู่ตกตะลึง
กู้ฮอนริมฝีปากแข็งทื่อ หยางหยางเด็กคนนี้ใช้ทุกอย่างเพื่อโอ้อวดให้เห็นถึงความแตกฉานในภาษาจีนของตัวเองจริงๆ......
ยี่เฟิงเพิ่งจะเข้าใจ ที่แท้เขาอารมณ์ไม่ดีแล้ว ทำได้เพียงแค่ยักไหล่ แล้วปล่อยเด็กผู้หญิงผิวสีที่ยังอุ้มไม่ทันร้อนลงจากอ้อมแขน ยิ้มเล็กๆ “เหอะๆ เฉิงเฉิง เธออย่าเข้าใจผิด ฉันไม่รู้ว่าที่แท้แล้วเธอยังมีเด็กสาวตัวน้อยด้วย......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เดิมพันรักยัยตัวแสบ